11 ตุลาคม 2550 22:22 น.
พิมญดา
อย่าฝากหวังฝากใจให้ฉันเก็บ
เคยหนาวเหน็บหนาวใจมาหลายหน
พอแล้วพอไม่อยากรักให้วกวน
กลัวใจคนร้อยเล่ห์เพทุบาย
สร้างวิมานลอยฟ้าคราแรกรัก
แล้วก็ผลักลงมาฟ้าสลาย
กลัวเหลือเกินคำหวานของผู้ชาย
พอเขาหน่ายแล้วทิ้งหญิงระกำ
อย่าฝากคำว่ารักขอคืนกลับ
อยากจะพักหัวใจที่บอบช้ำ
ไม่อยากเชื่อใครแล้วในน้ำคำ
เคยถลำความเจ็บเก็บเรื่อยมา
อย่ามาฝันทำอย่างไรก็ไร้ผล
ประตูกลกั้นแล้วอย่างแน่นหนา
อย่าหวังเลยชาตินี้เงากานดา
คงได้แหงนมองฟ้าทุกคราคืน..........
10 ตุลาคม 2550 11:39 น.
พิมญดา
เพื่อนคือคนที่เราเฝ้าคบหา
เพื่อนคือคนมีคุณค่านั้นเสมอ
เพื่อนคือคนที่ปรับทุกข์ยามพบเจอ
เพื่อนคือเธอฉันยอมรับนับเพื่อนกัน
มิตรภาพระหว่างเพื่อนมั่นคงนัก
ขออย่าพักหัวใจเปลี่ยนแปรผัน
ขอเพื่อนเป็นแค่เพื่อนคอยแบ่งปัน
จุดเชื่อมมั่นความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน
รักหญิง-ชายสักวันกลายจักขื่นขม
หวานเป็นลมสิ้นแล้วแววขมขื่น
หากคือเพื่อนไม่มีวันล้มทั้งยืน
ขอเพื่อนคืนใจกลับไม่รับมา
จุดทาง-แยกใช่แยกนามความเป็นเพื่อน
ไม่ลางเลือนยังคงเตือนใจใฝ่หา
หากเพื่อนทุกข์ทดท้อต่อชะตา
เพื่อนอย่าล้าเขียนกลอนมาจะปลอบใจ
แล้วจะพบมิตรภาพอาบปลายฟ้า
ที่ล้ำค่าเชื่อมพลังอันยิ่งใหญ่
ช่วยกล่าวถ้อยร้อยกรองบทกลอนไทย
จะเข้าใกล้ค่าแห่งมิตรนิจนิรันดร์...
9 ตุลาคม 2550 13:42 น.
พิมญดา
เดินทางมายาวนานบนทางทุกข์
ทั้งล้ม-ลุกคลุกคลานบนขวากหนาม
โดนถากถางหยามเหยียดเกลียดเอาความ
นิรนามฉันคือใคร ใยวกวน
หากมีคนมาถามตามความหมาย
ฉันคือใครที่อาศัยโลกสับสน
จะขอตอบให้หายข้องใจพิกล
ฉันคือคนคนหนึ่งที่ต้องตาย
เพราะศรัทธาในธรรมกรรมวิบาก
ตัดความอยากจากนิวรณ์ก่อนจะสาย
ให้รู้แจ้ง แลเห็นจริง ชีวาวาย
ร่างสลาย สัจธรรม ย้ำตัวเอง
ก่อให้เกิดการเตรียมตัวก่อนร่างดับ
ให้ระงับงดกรรมชั่วมัวข่มเหง
ก่อกรรมดีอุตสาหะอย่ากริ่งเกรง
ตั้งใจเร่งสร้างเส้นทางห่างทุกข์พลัน
อย่ายกตัวสูงเกินใครในโลกนี้
ทุกคนมีจิตวิญญาณต้องบากบั่น
ลองฝึกจิตในส้วมถ้วนทั่วกัน
จะรู้มันเหม็นเน่าเท่ากันเลย
หรือว่าเราเข้าขั้นบ้านานาจิต
คอยแต่คิดดัดจริตให้นิ่งเฉย
ขออภัยไม่ได้สอนใครนะเอย
แค่มาเอ่ยท้าวความถาม..ฉันคือใคร....
8 ตุลาคม 2550 18:46 น.
พิมญดา
หยิบปากกามาจรดบนกระดาษ
เขียนคำขาดตัดรอนกลอนถึงเขา
น้ำตาหลั่งลงกระดาษที่บางเบา
เขียนถึงเขาหวาดหวั่นเกินพรรณา
ถึง..คนดีที่รักของน้องแก้ว
จะขาดแล้วดวงมานขนิษฐา
นั่งร่ำให้ร่ายอักษรตรอมอุรา
ตัวพี่ยาโปรดฟังก่อนสะท้อนใจ
แม่ของน้องขอร้องรับทองหมั้น
มันฉับพลันจนยากจะทานไหว
ท่านมีเหตุธุรกิจพลาดกำไร
ดวงฤทัยตอบแทนแม่แกเลี้ยงดู
คนดีจ๋าอย่าเสียใจอาลัยหนัก
ชาตินี้รักของเราเศร้าอดสู
น้องขอคืนสัญญามั่นใต้ลำพู
น้องก็รู้ เป็นคนผิด คิดกลับกลาย
วางปากกานอนซบหมอนสะอื้นให้
ร้าวหทัยในเนื้อความตามจดหมาย
หากพี่อ่านหัวอกพี่คงวางวาย
สัญญากลายเป็นอื่นขื่นขมทรวง.......
7 ตุลาคม 2550 14:20 น.
พิมญดา
ออง ซาน ซูจี สตรีแห่งหงสา
เป็นผู้กล้าเมียนม่าที่ยิ่งใหญ่
คอยต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย
ไม่หวั่นไหวรัฐบาลเผด็จการ
ด้วยสองมือหนึ่งสมองที่มีอยู่
ยืนหยัดกู้แรงศรัทธาถิ่นสถาน
หวังวันหนึ่งธิปไตยจะเบ่งบาน
อุดมการณ์ตามรอยพ่อขอสู้ไป
หวังเห็นนกพิราบขาวบินบนฟ้า
ความเหนื่อยล้าไม่ย่อท้อพอทนไหว
ยอมสละแม้ครอบครัวอยู่แดนไกล
เรียกร้องให้ชาวประชามีเสรี
โดนจองจำคำหนึ่งน้อยไม่เคยบ่น
ปลุกมวลชนลุกขึ้นสู้เพื่อศักดิ์ศรี
หญิงผู้นำในพม่ายอดสตรี
คือคนดี แห่งแม่น้ำสาละวิน
อ้างสิทธิมนุษย์ชนบนพื้นฐาน
ก้องกังวานทั่วโลกโศกถวิล
อย่าตามหาในพม่าชั่วชีวิน
ตราบไม่สิ้น เผด็จการ ทหารเอย...
ข้ารู้ว่าวันหนึ่งข้าจะไม่แพ้ ข้าเห็นวันหนึ่งข้าจะชนะ