17 เมษายน 2551 08:13 น.
พิมญดา
นับแต่นี้เหลือเพียงริ้วรอยฝัน
เคยมีกันและกันพลันห่างหาย
ฝากสัญญาเอาไว้ใยกลับกลาย
สิ่งที่หมายคือคำลวงถ่วงใจตรม
คงไม่เหลือแววหวังที่พังพาบ
น้ำตาอาบเจ็บแสบนักรักขื่นขม
เหมือนแก้วแตกสลายพ่ายอารมณ์
นอนระทมจมความเศร้าร้าววิญญาณ
คนที่หวังจะอิงแอบแนบกายอุ่น
ร่วมลงทุนชีวิตรักถักใยหวาน
ครองรักคู่อยู่กันมั่นยืนนาน
รักไม่ผ่านปาดน้ำตาทั้งอาลัย
เจ็บเอ๋ยเจ็บก็ขอเก็บใจรักษา
เพียงสัจจะวาจาที่เหลวไหล
ขอปลีกตัวไปนอนเยียวยาใจ
คนเคยใกล้ต่อนี้ไปหายไปพลัน
ขึ้นต้นด้วยไมตรีที่อ่อนหวาน
สุดท้ายใยทรมานปานอาสัญ
ใจเอ๋ยใจทนเอาหน่อยก็แล้วกัน
เจ็บนับเดือนนับวันมันให้ชิน
เขาไม่รักแต่เรารักยังพันผูก
พอเขาสุขเราก็ทุกข์โศกถวิล
ยืนเหม่อมองเงารักน้ำตาริน
เหมือนจะสิ้นใจมอดม้วยด้วยรักลวง......
15 เมษายน 2551 14:47 น.
พิมญดา
มีบางอย่างอยากจะบอกแต่ไม่กล้า
ปราถนาให้ทุกคนสุขสดใส
จะว่ากล่าวตักเตือนเรื่องอันใด
ในฤทัยชักหวั่นไหวใจกานดา
ขออย่าต่อถ้อยคำให้เป็นอื่น
กลัวขมขื่นในทรวงจึงห่วงหา
รักแบบพี่ดีเหมือนน้องปองอุรา
รักแบบว่าสองเราอย่าเหมาความ
อนาคตคงไปไม่ถึงฝั่ง
เรื่องประดังทุกหนแห่งแจงคำถาม
ถามว่ารักพี่ไหมพิมคนงาม
เรื่องนิยามรักคงเศร้าร้าวฤดี
มีหลายอย่างทางมืดมนจนใจตอบ
ด้วยรักชอบใช่บังคับจับวิถี
ลื่นไหลตามบทแห่งรักนักกวี
อย่าได้มีใจฝังแค้นจนแน่นทรวง
โลกไซเบอร์จับต้องไม่ได้หรอก
วิถีทางคนดูออกบอกไม่หวง
เอาใจจมอยู่คำลมบ่มคำลวง
หลงติดบ่วงห้วงรักจักวายปราณ...
13 เมษายน 2551 10:25 น.
พิมญดา
มั่นใจจะไม่รักใครอีกแล้ว
ด้วยดวงแก้วกลัวคมรักปักสลาย
กลัวเสียนักพ่ายรักจักฟูมฟาย
มีบทเรียนมากมายใคร่คิดตรอง
พอเจอเธอหัวใจเริ่มไหวอ่อน
มาออดอ้อนหยอดวจีไม่มีสอง
หวานลมปากหว่านหวังใว้เอาใจปอง
จะสนองหรือผลักไสใคร่คิดดู
มั่นใจว่าหัวใจดั่งหินผา
อย่าเอาลื้นสาริกาพาอดสู
มั่นในรักอย่ามาหลอกบอกอุ้มชู
หากคิดหวังเคียงคู่รู้นิยาม
มั่นใจน้องคนดีอย่าคิดจาก
หากรักพรากลมจากปากยากทวงถาม
เคยสัญญาก็ลืมเลือนเบือนใจความ
ขี้เกียจตามถามทวงคืนฝืนฤดี
มั่นฤทัยมอบหัวใจให้จนหมด
หากสลดเพราะรักร้างพรางหน่ายหนี
ขอได้โปรดช่วยออกไปใกลชีวี
ดวงฤดี..มั่นใจแล้ว.ไม่แคล้วตรม.......
8 เมษายน 2551 20:00 น.
พิมญดา
คือฉันในเงาจันทร์อันลางเลือน
มีเพียงเดือนดาราฟ้าเคียงข้าง
พอใกล้รุ่งเงาแห่งเหงาก็เลือนราง
จนรุ่งสางน้ำค้างพราวหนาวจับใจ
คือฉันในเงาจันทร์อันเดียวดาย
สื่อความหมายของอารมณ์คนอ่อนไหว
ทุกคืนค่ำคอยแต่พิร่ำไร
เขาอยู่ไหนในห้วงฟ้านภางาม
คือตัวฉันกระต่ายในเงาจันทร์
คงนั่งฝันเลื่อนลอยคอยคำถาม
มวลมนุษย์บนโลกนี้ทุกเขตคราม
เล่านิยามแห่งรักกับป์ชั่วกันต์
จึงนั่งมองนั่งฟังอย่างเงียบเงียบ
บนทางรักคงไม่เรียบดั่งในฝัน
ล้วนแต่ก่อเกิดทุกข์สุขพร้อมพลัน
บ้างโทษ ฟ้าสวรรค์ท่านรังแก
คือตัวฉันตัวแทนเหงาตราบสิ้นฟ้า
คงคุณค่าความโดดเดี่ยวเปลี่ยวใจแท้
เพียงเงาแฝงจันทรามาคอยแล
หาคู่แท้ในโลกหล้ามาช้านาน
คือกระต่ายหลงเงาจันทร์บนนภา
คือศรัทธาแสวงหารักประสาน
โลกกว้างใหญ่คงไร้รักมาเจือจาน
จึงขับขานเพลงเหงาบนเงาจันทร์..........
27 มีนาคม 2551 15:13 น.
พิมญดา
สมมุติว่าเรามาจากทวิภพ
ควรบรรจบตรงไหนของฝั่งฝัน
ย้อนอดีตเข้าสู่ห้วงปัจจุบัน
ใจคงสั่นเมื่อภพนั้นผันเปลี่ยนแปร
สมมุติว่าเรารักที่จะพบ
กลัวทำนบรักพังฝังรอยแผล
ไม่กล้าเอ่ยที่จะพบจบดวงแด
กลัวใจแพ้คนลวงโลกโศกโศกา
สมมุติว่าเขาตั้งใจมารักมั่น
ดูแลเราทุกคืนวันฝันคอยหา
ใจเจ้าเอ๋ยยอมหรือเปล่าให้เขามา
หรือเจ้าล้าเสียแล้วแก้วดวงใจ
สมมุติว่าเราใจอ่อนยอมรับรัก
อีกใจหนึ่งกลัวยิ่งนักรักผลักใส
สมมุติเขามาแค่หยอกบอกลาไป
แล้วฤทัยจะจบลงตรงไหนเอย
สมมุติว่าโลกไซเบอร์จับต้องได้
คงไม่มีใครเสียใจให้เอื้อนเอ่ย
ภาพลวงตาลวงใจจนคุ้นเคย
หากจะเผยเคยเจ็บหนักเพราะรักลวง.....