29 มกราคม 2552 11:08 น.
พิมญดา
เขียนกลอนอาบน้ำตามานานเนา
เขียนบอกเล่าความเป็นมาน้ำตาไหล
เขียนย้ำรอยแผลรักปักทรวงใน
เขียนเพื่อใครไหนกันฉันร้าวราน
กลอนหลายบทแบกความเศร้าเคล้าความโศก
อยากหยุดโลกความเป็นจริงที่หักหาญ
ความขื่นขมตรอมตรมทรมาน
เขียนประจานใจช้ำย้ำระทม
กลอนน้ำตามีมากอยากปลดปล่อย
แก้ด่างรอยมลทินชินขื่นขม
เขียนกลอนรักก็แค่ทักทายสายลม
เขียนแค่พรมใจน้อยคอยรักคืน
กลอนบรรเลงเพลงโศกอกแทบพัง
นอนน้ำตาไหลหลั่งฟังขมขื่น
เสียงเพลงกรีดอารมณ์ล้มทั้งยืน
อกสะอื้นด้วยหนาวเหน็บเจ็บอุรา
หนักเกินไปหรือไม่ใจเจ้าเอ๋ย
เขียนกลอนเผยเย้ยโลกโศกหนักหนา
เผื่อบรรเทาทุกข์มากหยาดน้ำตา
อักษราผ่อนปรนอารมณ์...เอย
28 มกราคม 2552 11:12 น.
พิมญดา
โลกกว้างใหญ่ยังไม่ใหญ่เท่าใจรัก
แบกก็หนักเหนื่อยก็พักตามความฝัน
สองมือเอื้อมไขว่คว้าเงาพระจันทร์
สูงปานนั้นได้แต่มองร้องเรียกเอา
อยากมีใครสักคนไว้เคียงข้าง
ยามอ้างว้างคิดถึงบ้างบนทางเหงา
คอยหยอกล้อยิ้มรับคำว่าเรา
ลบความเศร้าทุกคราวที่เข้ามา
แต่คงเป็นเพียงเสียงใจร่ำร้อง
ที่กู่ก้องร้องเรียกเพรียกใจหา
เขียนกลอนรักปลอบตัวเองอยู่เรื่อยมา
รอสัญญิงสัญญาหามีใคร
ดูลางเลือนเลือนลางทางแสนเปลี่ยว
ตัวคนเดียวบนโลกนี้ที่อ่อนไหว
มีท้องฟ้าสายลมคอยพรมใจ
ดอกหญ้าไหวคอยทักทายหายครั้งคราว
หากโลกนี้ไร้ความรักจะหนักไหม
หรือต้องคอยแบกหัวใจคืนเหน็บหนาว
จะมีไหมใครสักคนนั่งชมดาว
ดูห้วงหาวฟ้างามยามค่ำคืน........
26 มกราคม 2552 18:34 น.
พิมญดา
เฝ้าอบรมตัวเองอย่าใจอ่อน
คิดถึงตอนรักล่มจมสลาย
นอนร้องไห้เสียน้ำตาตั้งมากมาย
อย่าคิดหมายมีรักใหม่ให้ซ้ำรอย
อบรมใจตัวเองมาตลอด
อย่ามืดบอดตกหลุมพรางวางใจน้อย
เจ็บอีกครั้งคงไม่หวังนั่งตาปรอย
อมรมใจบ่อยบ่อยอย่าปล่อยไป
ยืนมองหน้าตัวเองเพ่งกระจก
น้ำตาตกยังไม่กลัวหรือไฉน
เจ็บเอ๋ยเจ็บคราวนั้นแทบขาดใจ
เกินรับไหวใจหนอใจใยไม่ฟัง
ดอกไม้สวยใช่ต้องคู่ภมร
ดูเสียก่อนใจจ๋าอย่าเพิ่งหวัง
หากเจ็บมาน้ำตาดั่งเขื่อนพัง
ภมรบินแตกรังนั่งโศกา
เตือนกี่ทีอย่าริรักคนตัวขาว
น้ำตาพราวอาลัยร้องไห้หา
รักคนดำดีกว่านะกานดา
อย่าห่วงหาคนขาวจะร้าวทรวง....
25 มกราคม 2552 21:13 น.
พิมญดา
คิดถึงเธอมากมายเลยรู้ไหม
คิดถึงเธอแทบขาดใจอาลัยหา
คิดถึงเธอคนไกลในสายตา
หนักอุรายิ่งนักเพราะรักเธอ
คิดถึงเธอที่สุดของที่สุด
ทำอะไรก็สะดุดมัวแต่เพ้อ
บางเวลาถึงจับไข้ใจละเมอ
เห็นไหมเอออาการหนักรักคอยตาม
คิดถึงมากจนท่วมท้นทนไม่ไหว
หากขาดใจใครจะต่อขอคำถาม
ยืนเหงาหงอยคอยเธอใต้ฟ้าคราม
ทุกโมงยามไม่เคยหยุดสุดหัวใจ
คิดถึงมากแบบนี้เห็นใจบ้าง
ความอ้างว้างคอยก่อเหงาเศร้าหวั่นไหว
หยิบดอกไม้มาเด็ดกลีบทีละใบ
กลีบสุดท้ายตัดสินใจยังไรกัน
คิดถึงจังฟังอยู่ไหมใครห่วงหวง
รอจนล่วงเวลาพาโศกศัลย์
นับวันรอพ้อกับดาวถามข่าวจันทร์
คิดถึงฉันบ้างไหมใจคนดี....
........บางเวลาที่เรารักใครหัวใจทำไมคิดถึงมากมาย.........
24 มกราคม 2552 07:47 น.
พิมญดา
ลมสุดท้ายปลายหนาวผ่าวพลิ้วไหว
ดุจใบไม้ร่วงหล่นบนถนน
เคยเกาะเกี่ยวกิ่งใหญ่ไม่ร้อนรน
พอร่วงหล่นพ้นกิ่งกล้าน่าอาลัย
ลมเหมันต์สั่นสะท้านนานคงกลับ
ลมเหนือจับใจน้องล่องไปไหน
ใยไร้หลักที่พักพิงหัวใจ
ลมหนาวใยค้างคาฟ้าพร่างพราว
ลมสุดท้ายปรายฟ้าอย่าลาลับ
ช่วยมาพับใจน้องคล้องห้วงหาว
แซมราตรีเดือนเด่นเช่นดวงดาว
กระต่ายขาวบนจันทรายังถ้าคอย
ลมฝากรักฝากฝันวันผันผ่าน
บทกลอนกานท์นานแล้วแผ่วเหงาหงอย
ใครคนหนึ่งฝากคำซึ้งยามดาวลอย
ยิ้มฝากรอยรับฝากจากใจเธอ
นานมาแล้วโค้งฟ้าริ้วรอยรัก
เขามาพักแล้วฝากใจเสมอ
ยืนหนาวลมห่มฟ้ามาละเมอ
คิดถึงเธอเหลือเกินอย่าเมินชัง
ลมหนาวผ่านกี่หนาวร้าวรานยิ่ง
คนรักจริงอยู่ที่ไหนไร้ความหวัง
หนาวสุดท้ายมองปรายฟ้าหาจีรัง
ใจถูกฝังกว่าหนาวผ่านนานนับปี