3 สิงหาคม 2552 16:53 น.
พิมญดา
หัวใจ!ฉันมันเป็นอะไร
ทำไมไหวหวามอยู่อย่างนี้
มองฟ้างามยามสุนทรีย์
ณ.ราตรี..นี้ที่พร่างพราย
หัวใจ!ฉันมันเป็นอะไร
เหม่อ-เหงา-เศร้าทรวงไม่หาย
พิลี้พิไลกระวนกระวาย
เหมือนลมหายใจปลิวคว้างทางลม
หัวใจ!ฉันมันเป็นอะไร
ร่ำร่ำจะไปให้ใจสุขสม
คิดถึงอยู่ไหนจะไปชื่นชม
หวังใครมาห่มให้สมใจปอง
หัวใจ!ฉันมันเป็นอะไร
มองดอกหญ้าไหวหัวใจลอยล่อง
สายลมผ่านพลิ้วลิ่วตามครรลอง
หอบหัวใจฟ้องลอย..ตามหาเธอ
หัวใจ!ฉันมันเป็นอะไร
หวังให้บางใครมาใกล้เสนอ
ฝากสุนทรถ้อยร้อยกานท์บำเรอ
ได้แต่ละเมอ..เพ้อพร่ำรำพัน
หัวใจ!ฉันมันเป็นอะไร
อยากได้หัวใจของคนในฝัน
อยู่คู่แนบชิดสนิททุกวัน
ตราบชั่วนิรันดร์..มีฉันคู่เคียง
2 สิงหาคม 2552 16:31 น.
พิมญดา
จากน้ำตามาเป็นกลอนนอนสะอื้น
เขียนระบายความขมขื่นฟื้นไม่ไหว
ความปวดร้าวยากกลบลบจากใจ
เหนืออื่นใดภาพเธอยังฝังวิญญาณ
กลั่นอักษรออกมาน้ำตาริน
หวังยลยินบางใครใคร่มาอ่าน
อยู่ลานกลอนสุดท้อทรมาน
มีแต่งานอกหักรักร้าวรอน
หยดน้ำใสไหลลงบนกระดาษ
ใจเหมือนขาดจรดถ้อยร้อยอักษร
จับปากกาสั่นไหวใจอาวรณ์
นึกถึงตอนรักหวานนานนับปี
รีบกำหนดบทขึ้นบรรทัดแรก
เหมือนมีดแทรกกลางทรวงร่วงกับที่
ที่รักจ๋า..ยังรักเธอ..นะคนดี
กลอนบทนี้..บันทึกมาน้ำตาคน
จากน้ำตามาเป็นกลอนอักษรร้าว
จะกี่ร้อนกี่หนาวเฝ้าใจหม่น
โลกสร้างรักนักกวีนี้มืดมน
สีหมึกปนน้ำตา..มาเป็นกลอน
31 กรกฎาคม 2552 15:29 น.
พิมญดา
สายฝนพรำคำหวานซาบซ่านนัก
ฝนทายทักท่องเยือนเตือนคำมั่น
พี่ชายจากบ้านไปตั้งหลายวัน
มุ่งฝ่าฝันเมืองใหญ่ไกลบ้านนา
เสียงฟ้าร้องต้องหม่นคนรอข่าว
สักข่าวคราวเงียบงันรำพันหา
จดหมายน้อยบ่อยเคยเชยสายตา
แต่เพลาหน้าฝนทนคอยรอ
คำสัญญาหน้าฝนรอปลูกข้าว
มาขอสาวเก็บเงินเดินเข้าหอ
กลับว่างเปล่าหรือมีใครใหม่พะนอ
ใจคนท้อก็ป่วยด้วยห่วงใย
มองดอกหญ้าพลิ้วไหวในสายฝน
ปลิวร่วงหล่นจากฟ้าคราร้องไห้
ฟ้าเอ๋ยฟ้าร้องเถิดเกิดเหงาใจ
คนอยู่ไกลลืมสัญญามาแต่งงาน
คำสัญญาลมลมข่มใจแล้ว
ปล่อยน้องแก้วเหงาจริงยิ่งสงสาร
ในชะตาตัวเองเคว้งมานาน
โปรดกลับบ้านคืนมา..สัญญาใจ
31 กรกฎาคม 2552 15:10 น.
พิมญดา
รอยฟกช้ำใบหน้าพาใจหาย
ทั่วร่างกายเขียวช้ำย้ำรอยหม่น
หยาดน้ำใสไหลรินแก้มกมล
นี่คือผลของความรักที่รับมา
ด้วยเป็นหญิงยอมทุกสิ่งบนทางรัก
พ่อแม่ทักตักเตือนเหมือนไร้ค่า
เอาความรักเป็นใหญ่ไว้บูชา
อนิจจา!ไร้เดียงสาน้ำตาริน
ยามแรกรักน้ำต้มผักก็ว่าหวาน
พออยู่นานเริ่มขมก่นด่าสิ้น
เริ่มไอ้-อี-มึง-กู อยู่ให้ชิน
รักบ้าบิ่นแหว่งเว้า..เน่ารุนแรง
มหันตภัย!ในครอบครัว
เงาสลัวครอบคลุมทุกหนแห่ง
เศรษฐกิจรุกเร้าข้าวของแพง
ดิ้นรนแข่งครองชีพ.ถีบรักกลาย
คิดให้ดีสตรีเอ๋ยอย่าผลีผลาม
หากโดนหยามศักดิ์ศรีมีเสียหาย
อนาคตดับวูบเพราะผู้ชาย
ก่อนจะสาย.ใคร่ครวญคิดพินิจดู
ข่าวรายวันสามีทุบตีหญิง
จากเรื่องจริงน่าเศร้าจนหดหู่
ฆาตกรรมความรักน้ำตาพรู
ความเป็นอยู่ด้วยแข้ง-ขา สามีตัว
หยุดเสียที!ความรุนแรงที่ก่อเกิด
สัตว์ประเสริฐคือคนกันถ้วนทั่ว
เมื่อมีรักอย่าทำรักจนน่ากลัว
สร้างครอบครัวด้วยเข้าใจ..ในรักเอย
ไทยติดกลุ่มประเทศที่ผู้หญิงถูกทำร้ายจากสามี
โดย INN News วัน ศุกร์ ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2549 11:42 น.
ประเทศไทยเป็นหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มประเทศที่มีการทำร้ายผู้หญิงอย่างรุนแรงจากสามีและแฟนจากการวิจัยขององค์การอนามัยโลก
องค์การอนามัยโลกระบุผลการวิจัยโดยการสัมภาษณ์ผู้หญิงอายุระหว่าง 15-49 ปีมากกว่า 24,000 คนในพื้นที่ 15 แห่งของ 10 ประเทศ ได้แก่ บังกลาเทศ บราซิล เอธิโอเปีย ญี่ปุ่น นามิเบีย เปรู ซามัว เซอร์เบีย ไทย และแทนซาเนีย สรุปว่า ในประเทศส่วนใหญ่ทั่วโลก ผู้หญิง 29%-62% ถูกทำร้ายทางกายหรือทางเพศจากคนใกล้ชิดไม่ว่าจะเป็นสามี หรือ แฟน
โดยเมืองโยโกฮามา ของญี่ปุ่น เป็นสถานที่ที่ผู้หญิงได้รับความปลอดภัยที่สุดในบรรดาประเทศ ที่ถูกสำรวจ โดยมีเหตุรุนแรงกับผู้หญิงเพียง 15% ขณะที่เขตบูทาจิราเขตชนบทในเอธิโอเปีย มีอัตราการทำร้ายผู้หญิงถึง 71% นอกจากนี้การทำร้ายผู้หญิงที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะใน เอธิโอเปีย เปรู ต่างจังหวัดในไทย และพื้นที่ชนบทในแทนซาเนีย จัดอยู่ในขั้นรุนแรง เช่น เตะ หรือ ทุบตี บีบคอ ใช้ของแข็งตี หรือ ข่มขู่ด้วยมีด ปืน หรือ อาวุธอื่น
30 กรกฎาคม 2552 15:24 น.
พิมญดา
ฤา !ไร้รักสิเน่หามาเชยชิด
เอามือปิดแผ่นฟ้าคราหมองหม่น
ไม่อยากคิดอันใดให้ยินยล
เพียงเพราะคนเปลี่ยนไปใช่ดูแคลน
ฤา!ชาตินี้ไร้ชายมาเคียงคู่
ปิดประตูหัวใจให้หนาแน่น
พอกันทีชาตินี้คำว่าแฟน
ไม่ทดแทนเวลา..คราเจ็บใจ
ฤา!ชาตินี้ไร้หวังดั่งใครอื่น
ดอกไม้ชื่นด้วยฝนจนสวยใส
แต่ดอกรักไฉนแห้งเหี่ยวไป
เหลือดอกร้างกลางใจ..ให้ครางครวญ
ฤา!ชาตินี้ไร้ชายที่พึงเชย
จะกอดคานเสียเลยอย่าคืนหวน
พลาดโอกาสรถไฟท้ายขบวน
ขอทบทวนหน้าที่..ยอดพธู
ฤา!ชาตินี้สิ้นรักหักสวาท
พรหมตัดขาดวาสนาหามีคู่
ต้องทำใจแล้วล่ะ.แม่โฉมตรู
มีคานทองรออยู่...คู่นิรันดร์