15 มีนาคม 2556 21:43 น.
พลายแก้ว เมืองกาญจน์
เหมือนผ่าวร้อน ตอนป่วย ด้วยพิษไข้
เสียงหัวใจ ตึงตัง เต้นดังถี่
คนบ้านเหนือ นั้นเอ่ย เผยวจี
ฟังแล้วมี ความนัย ใจกังวล
อยากจะจอง ห้องใจ ไว้พิงพัก
ถึงอึกอัก วุ่นวาย ให้สับสน
ทั้งแขนขา เกะกะ ดูปะปน
แปลกพิกล พิกุล ใจวุ่นวาย
รู้อุรา ว่าร้าว คราวพิมฯจาก
เจ็บปวดมาก เวลา รักษาหาย
สงสารคน เคยช้ำ ทุกข์กล้ำกราย
ปลอบพี่พลาย คลายจำ ลืมตำนาน
อยากจะจอง ห้องใจ เราไว้หรือ
คนหน้าซื่อ วาจา น่าสงสาร
แล้วเล่าใคร ไหนซึ้ง ถึงดวงมาน
คำไขขาน จริงหรือ คือจากจินต์
ดูใจยัง ฝังอยู่ คู่กับเขา
แม้ไร้เงา เฝ้าคะนึง ถึงมิสิ้น
เมื่อความหลัง มิจาง ห่างชีวิน
อย่าถวิล ว่าใจ คลายอาดูร
เหมือนโลเล เฉไฉ ไม่คงมั่น
ถ้าเชื่อกัน ชีวิน เกรงสิ้นสูญ
นั่งไตร่ตรอง มองครบ บวกลบคูณ
อยากเกื้อกูล แต่ใจ วุ่นวายจัง
พิกุล กาญจนบุรี
14 มีนาคม 2556 22:39 น.
พลายแก้ว เมืองกาญจน์
นั่งรับลม ชมดาว ที่พราวฟ้า
ปล่อยวิญญา ล่องไป ในความฝัน
แล้วเดือนเสี้ยว เลี้ยวลับ หนีกลับพลัน
ใจเรานั้น สับสน จนวุ่นวาย
พอจันทร์ลา ฟ้าเหงา ทิ้งเราหมอง
เหม่อตามอง จ้องไป ไร้จุดหมาย
ด้วยลมเย็น พลิ้วผ่าน สะท้านกาย
ความหลังพราย ผุดเห็น เช่นวันวาน
เคยเคียงพิมฯ คนสุพรรณ ในวันก่อน
เมื่อคิดย้อน ยังจำ คำไขขาน
แต่วันนี้ พี่เดี่ยว เปลี่ยวดวงมาน
ทุกเหตุการณ์ ก่อนเก่า เราอยากเลือน
มิอยากตรม จมทุกข์ จนสุขสิ้น
หวังชีวิน มีคู่ อยู่เป็นเพื่อน
แต่ว่ารัก หนหลัง ยังย้ำเตือน
ยึดเสมือน เป็นหลัก ที่พักใจ
ฤๅเพราะสาว บ้านใต้ พาใจพรั่น
ยิ่งพบกัน บ่อยบ่อย พลอยอ่อนไหว
มีความสุข ลึกลึก นั่งนึกไป
หาเหตุใด ใคร่รู้ ดูความจริง
เป็นแรงใจ ให้กัน ในวันก่อน
วันนี้อ้อน งอนง้อ ขอสักสิ่ง
เพียงหนึ่งห้อง ของใจ ให้พักพิง
ยังเกรงกริ่ง มิกล้า จะพาที