29 ธันวาคม 2554 22:07 น.
พลายแก้ว เมืองกาญจน์
ต้องพลิกฟื้น ชีวา ผืนนาไร่
พัฒนา ขึ้นใหม่ ให้เหมาะสม
หญ้าขึ้นรก ปรกนา มิน่าชม
ลอกโคลนตม ก้นบ่อ น้ำก็มี
เตรียมหาควาย กำยำ ไถดำหว่าน
เรื่องการงาน เราขยัน ขมันขมี
แม้เหงื่อกาฬ ไหลรวม ท่วมกายี
ทั้งชีวี นี้อยู่ เพื่อสู้งาน
บ้านทรุดโทรม ลมพา หลังคาหลุด
ก็รีบรุด เอาจากมุง มุ่งประสาน
เปลี่ยนเสาผุ ต้นเดิม เสริมนอกชาน
เกลี่ยดินลาน นวดข้าว เอาอย่างเดิม
เกวียนเล่มเก่า กงหลุด รีบรุดซ่อม
เปลี่ยนคอกล้อม เสียใหม่ ใช้ไม้เสริม
แอกมันหัก ก็หา มาเพิ่มเติม
พอฝนเริ่ม โปรยลง นาคงคืน
เป็นไร่นา สวนผสม น่าชมนัก
ปลูกพืชผัก พันธ์ไม้ ให้ร่มรื่น
ขุดบ่อปลา เล้าไก่ ให้กลมกลืน
เร่งพลิกฟื้น พื้นที่ นี้เร็วไว
แต่ตกค่ำ ลมครวญ ก็หวนคิด
ถึงชีวิต ครั้งก่อน ตอนสดใส
คิดถึงเจ้า คนดี ที่จากไกล
นึกคราใด ความเศร้า ก็เข้าเยือน
พลายแก้ว
22 ธันวาคม 2554 23:00 น.
พลายแก้ว เมืองกาญจน์
กลับจากดง พงไพร ไกลเขตขันธ์
ที่ด้นดั้น ฟันฝ่า หามรรคผล
อยากสงบ หลบทุกข์ ที่รุกลน
เพราะสุดทน ขมขื่น จำฝืนใจ
สิ่งที่หวัง พลั้งพลาด มลาศสิ้น
วางชีวิน อนาคต ต้องสดใส
ด้วยมุ่งมั่น ปณิธาน มองการณ์ไกล
กับทรามวัย คนรัก จักมิคลาย
เหตุเธอลา พาให้ ใจหมองหม่น
เจ็บกมล เกินกว่า รักษาหาย
ลองหลบหลีก สังคมเมือง เรื่องวุ่นวาย
ขอท้าทาย เข้าป่า รักษามาน
เอาพฤกษ์ไพร ขุนเขา เข้ามาช่วย
สงบด้วย ธรรมะ มาประสาน
ธรรมชาติ สดใส ใจเบิกบาน
เวลาผ่าน นานปี มีความจริง
ย้อนกลับมา นาไร่ เป็นไงหนอ
ไร้คนรอ ท้อทด สลดยิ่ง
เห็นนารก ไร่ร้าง น่าชังชิง
เพิงเคยพิง พักอาศัย ไร้คนแล
ใต้เงาแจ่ม แสงจันทร์ คืนวันนี้
กับใจที่ มุ่งหวัง อย่างแน่วแน่
เธอยังอยู่ ในใจ ไม่เปลี่ยนแปร
มีก็แต่ ที่เรา ยังเศร้าตรม
พลายแก้ว