31 ตุลาคม 2554 22:09 น.

ผูกมิตร

พลายแก้ว เมืองกาญจน์

                         แว่วสำนวน ชวนให้ หลงใหลยิ่ง
                           สืบความจริง ใครนั้น เสกสรรแต่ง
                           เขียนบทกลอน ลึกล้ำ คำแจกแจง
                           เธออยู่แห่ง หนใด ที่ไหนนะ
                                     นามเธอว่า พิมพิลาไลย ใช่แล้วนี่
                                     กานท์กวี ชาญนัก อักขระ
                                     คารมหวาน ซ่านใจ ในวาทะ
                                    ใคร่อยากจะ ผูกจิต เป็นมิตรกัน
                            คนเมืองกาญจน์ บ้านไกล ไร้พ้องเพื่อน
                            ความเหงาเยือน เยี่ยมกมล จนไหวหวั่น
                            มีบ้านอยู่ ไม่ห่าง ทางสุพรรณฯ
                            ขอแบ่งปัน ไมตรี เป็นพี่น้อง
                                     จะรังเกียจ เดียดฉันท์ กันไหมหนอ
                                     พลายแก้วก้อ กังวล จนหม่นหมอง
                                     เกรงว่าเจ้า มิสนใจ ไม่เหลียวมอง
                                     มีคนจอง ตีตรา หรือว่าไร
                            เราไม่เก่ง เชิงกานท์ อยู่บ้านนอก
                            เคยโดนหลอก จนช้ำ น้ำตาไหล
                            ก็หลายครั้ง หลายครา จะว่าไป 
                            เพราะว่าใจ ไม่หลาบจำ คำหวานคน
                                      ฝากบทสร้อย ร้อยกรอง ของคนเศร้า
                                     ให้นงเยาว์ แม่พิมฯ ยิ้มสักหน
                                     มิอยากเป็น เช่นมิตร ผิดกมล
                                     อย่ากังวล เลยนะ ขออภัย

				
27 ตุลาคม 2554 22:16 น.

น้องใหม่

พลายแก้ว เมืองกาญจน์

                         เก็บปากกา ลาไป จับไถจอบ
                            งานเคยชอบ ละวาง จำห่างเหิน
                            ยังยากจน ทนทำ ย่ำเท้าเดิน
                            สู้เผชิญ ชีวิต มิคิดท้อ
                                    ถากถางไร่ ไถพรวน ล้วนงานหนัก
                                    เหน็ดเหนื่อยพัก ไม่นาน มุ่งสานต่อ
                                    พลิกแผ่นดิน ผืนใหม่ ไม่รั้งรอ
                                    เศรษฐกิจก้อ พอเพียง เพื่อเลี้ยงตน
                            ฟังสุนทร วาที ที่หวานแว่ว
                            เสียงเจื้อยแจ้ว หลายหลาก มากแห่งหน
                            จึงดวงจิต เบิกบาน ซ่านกมล
                            ก็เราคน เขียนกลอน แต่ก่อนมา

                                    ไฟประทุ คุสุม ร้อนรุ่มอก
                                    แม้ถูกหมก แต่ใจ ยังใฝ่หา
                                    ไม่มอดเชื้อ เหลือนิด ติดกายา 
                                    จับปากกา ลองร่าง อย่างเคยทำ
                            ห่างเขียนอ่าน นานวัน ปัญญาหย่อน
                            ทุกขั้นตอน เลือนลาง ช่างน่าขำ
                            นั่งทบทวน หวนถาม ความทรงจำ
                            แม้บางคำ เขียนไป มิไพเราะ
                                   อยากเยี่ยมย่าน ลานกวี ศรีอักษร
                                   แต่ยังอ่อน วาทะ ที่เสนาะ
                                   จึงฝากตัว กับทุกท่าน อย่าหยันเยาะ
                                   อนุเคราะห์ พลายแก้ว  แล้วอย่าชัง
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพลายแก้ว เมืองกาญจน์
Lovings  พลายแก้ว เมืองกาญจน์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพลายแก้ว เมืองกาญจน์
Lovings  พลายแก้ว เมืองกาญจน์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพลายแก้ว เมืองกาญจน์
Lovings  พลายแก้ว เมืองกาญจน์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพลายแก้ว เมืองกาญจน์