19 ธันวาคม 2551 00:57 น.
พลายลิขิต ณ เมืองพาน
หญิงวัยรุ่นคนหนึ่ง ได้เสียตัวให้กันคนรัก ตั่งแต่ อายุ17 ย่าง 18 คบหากันไม่นาน หญิงวัยรุ่นตั้งท้องขึ้นมา ชายวัยรุ่นคนนี้ให้ไปทำแท้ง แต่หญิงวัยรุ่นกลับไม่ยอมและปล่อยให้คลอดลูกออกมา
ชายคนนี้กลับไม่สนใจและไปมีผู้หญิงคนอื่น ลูกของเขามีชื่อว่าน้องบูท
โรงพยาบาล 1 เดือนยังไม่ตื่น สมองได้รับการกระทบการเทือนอย่างหนัก หมอบอกว่าเขาจะไม่ปกติ เพื่อนคนขับรถกลับมาซ่าและเกเรอีกครั้ง แต่เขายังนอนอยู่ที่บ้าน ดดยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างที่ผ่านมา แม่และพ่อขายทรัพย์สินเพื่อรักษาตัวสิ้นเนื้อประดาตัว ผู้เป็นพ่อทนไม่ไหว หย่าร้างออกไปจากชีวิตเขาและแม่ เวลาผ่านไปกว่า 4 เดือนเขาเริ่มรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นบ้างแล้ว แม่ของเขามีความรู้สึกที่บอกใครไม่ได้ น้ำตาแห่งความเป็นแม่ไหลออกมาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
แม้เขาจะตื่นจากนิทราแล้วก็ตาม แต่เขายังพูดไม่ได้ ทำอะไรเองไม่ได้ ต้องนอนอยู่กับเตียง มีแม่ที่เฝ้ารอการหายเป็นปกติของเขา มีแต่แม่เท่านั้นที่คอยดูแลเอาใจใส่ เช็ดตัว ป้อนข้าว ให้ยา ซักผ้า เช็ดขี้ เช็ดเยี่ยว แม่ไม่ได้ไปทำงานหาเงิน พ่อหนีหาย ทรัพย์ที่มีเริ่มหายไปทีละน้อย
โปรดติดตาม
(เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับชายคนหนึ่ง)
18 ธันวาคม 2551 00:23 น.
พลายลิขิต ณ เมืองพาน
วันเวลาที่ผ่านมา
ชีวิตผ่านช่วงที่เหนื่อยล้าและท้อแท้ใจอย่างยิ่ง หากเมื่อมีสิ่งที่ทำให้สิ่งที่รอคอยนั้นกลับมาอีกครั้ง
ชายหนุ่มย่างเข้าวัยรุ่น มีชีวิตที่มีพ่อแม่เลี้ยงอย่างตามใจ ให้ความรักและสิ่งของมากมาย
วันเวลาผ่านไปเขาได้เป็นวัยรุ่นที่เกเรคนหนึ่ง เที่ยวหญิง กินเหล้า เสพยา และนักเลง
วันหนึ่งหลังกินเหล้าเสร็จ เขาและเพื่อนอีกสองคน ขับจักรยานยนต์ทั้งที่เมา เขานั่งหลังสุด มีคนขับอยู่ตรงกลางและเพื่อนอีกคนอยู่ข้างหน้า ขับด้วยความเร็วสูง ไปชนท้ายรถเก็บขยะ คนข้างหน้าตายคาที่ คนขับบาดเจ็บ เขาบาดเจ็บสาหัตุ เขานอนโรงพยาบาล 1 เดือนกว่า
มีต่อ วันอื่น
25 พฤศจิกายน 2551 23:44 น.
พลายลิขิต ณ เมืองพาน
คุณเคยจีบและหลงรักใครสักคนไหม ผมเป็นคนหนึ่งที่จีบคนๆหนึ่งที่คิดว่านานมาก
ผมไปหลงรักรุ่นน้องคนหนึ่ง ผมจีบเธอมาตั่งแต่ตอนนั้น จนป่านนี้ผมก็ยังจีบและรักเธออยู่ เป็นเวลา เกือบ5ปีแล้ว ผมรู้ว่ามันคงเป็นไปได้ยากมาก แต่ผมก้ยังรักเธออยู่ หวังว่าสักวันคงมีวันที่ผมจะได้สมหวัง ผมรู้ว่าเธอเป็นยังไง ผมรับสภาพนี้ได้ เธอมีใครต่อใครผมก็รู้ดีแต่ไม่รู้ทำไม มาวันนี้ผมอยู่ห่างจากเธอมาก แต่ผมก็ยังพยายามติดต่อกับเธอและยังรักเธออยู่ โทรหาทุกวัน ส่งข้อความให้เสมอ วันที่ผมจะจากเธอมา ผมบอกกับเธอว่าอย่าลืมผมและอย่าเกลียดผมก็พอ ไม่รักไม่ว่า ขอแค่นี้ผมก็พอใจมาก แต่ก็ยังคอยวันนั้น และจะคอยอยู่เรื่อยไป
12 ตุลาคม 2551 19:10 น.
พลายลิขิต ณ เมืองพาน
จำได้ว่าสมันยังเล็กนั้น แถวหมู่บ้านมีอะไรที่แตกต่างจากปัจจุบันอย่างมากมานมหาศาล สมัยนั้นผมเป็นเด็ก เด็กแถวบ้านก็จะมีการรวมตัวกันเพื่อไปเล่นน้ำหรือเล่นอะไรต่างที่เป็นการออกกำลังกายบ้างเป็นการฝึกสมอง สร้างสามัคคีบ้าง มีการเล่นพื้นบ้านต่างๆนานา
แต่ปัจจุบันผมเห็นเด็กแถวบ้านไปนั่งเล่นเกมแถวตลาด ตกเย็นมาไม่ไปเล่นบอลเหมือนแต่ก่อน อย่าว่าแต่เด็กเลยวัยรุ่นแถวบ้านก็เหมือนกัน พากันไปนั่งกินเหล้า วันก่อนผมไปสนามบอลหวังว่าจะได้เล่นบอลกับเพื่อนๆและเด็กๆ แต่ไม่มีใครไปเล่นเลย มารู้อีกทีตอนปั่นจักรยานกลับเห็นนั่งกินเหล้ากันเป็นกลุ่ม
คุฯๆทั้งหลายเคยเล่นลูกแก้วไหม ว่าวล่ะ หรือแม้แต่การเล่นเก่าๆที่มีมานานเคยไหม เดียวนี้แถวบ้านผมมันม่มีแล้วครับ
เห็นไปนั่งคุยเอ็มบ้าง เล่นเกมคอมพิวเตอร์ และอื่นๆ ผมพอเข้าใจว่ายุคสมัยมันเปลี่ยนไป แต่ก็เสียดายเหมือนกันนะครับ เด็กๆไม่สามัคคีกัน ไม่ออกกำลังกาย และมีการเปลี่ยนไปมาตลอด
หันกลับมาดูผู้ใหญ่เขาบ้าง แต่ก่อนตกเย็ยมาก็จะมานั่งคุยกันแถวๆศาลาประจำหมู่บ้าน นั่งคุยกันสารพัดเรื่อง ตอนทำนาก็จะพากันไปช่วยทั้งหมู่บ้าน ตอนเช้า กลางวัน เย็น ทานข้าวก็จะเรียกกันไปทาน หรือไม่ก็จะเอากับข้าวมาแบ่งปันกัน รั้วบ้านก็ยังไม่มีเลยครับ
ปัจจุบันภาพเหล่านั้นได้หายไปเกือบหมดแล้ว ไม่มีการนั่งคุยกัน ทำนาก็จ้างกันแทน ทานข้าวก็ต่างคนต่างทำต่างคนต่างทาน มีรั้วกั้นทุกๆบ้าน ตกเย็นหรือกลับจากการทำนาทำสวนก็อยู่บ้านของตัวเอง ปิดไฟหน้าบ้านปิดประตู้บ้านอยู่แต่ในบ้าน
ผมไม่รู้ว่ามีคนเห็นเหมือนที่ผมเห็นไหม ยิ่งคุณจากบ้านไปนานๆแล้วได้กลับมา สังเกตุกันบ้างไหม ว่าแถวๆบ้านเปลี่ยนไป สังคมเปลี่ยนไป ชีวิตอันคุ้นเคยได้เปลี่ยนไปแล้ว
7 ตุลาคม 2551 21:54 น.
พลายลิขิต ณ เมืองพาน
วัฒนธรรมเกาหลี ได้ถูกถ่ายทอดผ่าน ดารา นักร้อง และละครเกาหลี สิ่งเหล่านี้ได้ทำให้คนไทยบางส่วนคลั่งไคล้ ดารา นักร้องเกาหลีเท่านั้น พร้อมทั้งวัฒนธรรมเกาหลีเพียงเปลือกนอก จนลืมวัฒนธรรมไทย อีกทั้งยังทำให้เศรษฐกิจของไทยบางส่วนตกต่ำลงไป
วัฒนธรรมเกาหลี มีอิทธิพลอย่างมากในสังคมไทย ทำให้คนไทยบางส่วนหลงลืมวัฒนธรรมของไทยเอง ทั้งศิลปะการแสดงต่างๆ การละเล่น อาหารการกิน หรือแม้กระทั้งสถานที่ท่องเที่ยวของไทยเอง ได้รับความสนใจจากคนไทยในระดับที่น้อยมาก สาเหตุหนึ่งเกิดจากละครเกาหลีหรือดารา นักร้องเกาหลี ซึ่งได้ถูกผลักดันให้เข้ามาสู้สังคมไทย โดยได้รับการสนับสนุนที่ดีและจริงจังจากรัฐบาลกลางประเทศเกาหลี คนไทยรับเอาความเป็นเกาหลีมาโดยไม่ได้มองเห็นหรือพิจารณาสิ่งที่ละครเกาหลีได้นำเสนอ คนไทยรับมาเพียงแต่ความสวยงามของเครื่องแต่งกายหรือภูมิประเทศ ซึ่งละครเกาหลีได้นำเสนอการใช้ชีวิตประจำวันที่สะท้อนถึงการทำงานตั่งแต่ต้น และพยายามทำให้ตนเองขึ้นไปสู่ระดับที่สูงขึ้น เพื่อความสำเร็จในชีวิต
เมื่อคนไทยมองเห็นแต่ความสวยงาม เห็นเพียงเปลือกนอก ก็พยายามที่จะสัมผัสถึงความเป็นเกาหลี โดยการกินอาหาร พูด ฟังภาษาเกาหลี ท่องเที่ยวในประเทศเกาหลี เพียงเพื่อความสมบูรณ์ทางความรู้สึกเท่านั้น ทำให้เกิดการสูญเสียทางเศรษฐกิจ โดยการท่องเที่ยวต่างประเทศ ทำให้การท่องเที่ยวภายในประเทศตกต่ำลงไป อัตราการท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มขึ้นเพียง 11 % จากปี 2550 แต่การท่องเที่ยวต่างประเทศมีอัตราเพิ่มขึ้น 15 % จากปี 2550 ผู้ประกอบการโรงแรมระบุว่าอัตราการเข้าพักลดลงถึง 8 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
หากคนไทยยังหลงใหลความเป็นต่างชาติ ไมสนใจวัฒนธรรมไทย รัฐบาลขาดการสนับสนุนอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ศิลปะ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี และความเป็นไทยในหลายๆด้าน ก็จะถูกลืมและกลืนหายไปในที่สุด