25 มกราคม 2553 10:24 น.
พฤหัส กฤษชยรักษ์
ปวดใจจี๊ดคิดหนักรักต้องจบ
ให้เลือนลบความจำอย่านำฝัน
สิ่งที่เกิดผ่านแล้วให้แล้วกัน
เหมือนตื่นเช้าแปรงฟันบ้วนน้ำไป
โอ้รอยรักสลักลึกผนึกแน่น
เทวดาบนแถนแก้ไม่ไหว
มันจำหลักหนักอึ้งถึงแกนใจ
ลาวาร้อนภูเขาไฟก็ไม่ปาน
รอเพียงวันระเบิดเตลิดออก
โปรดอย่าบอกให้จบลบสังขาร
หัวใจทุกข์ทับถมยิ่งซมซาน
ทรมานเกินกว่าเยียวยาคืน
จะขอรักสลักซึ้งตรึงอย่างนี้
ถึงร้อยวันพันปีไม่มีฝืน
แม้จะถูกทิ้งสลัดจะหยัดยืน
ทำหน้าชื่นอกตรมข่มภายใน
ปณิธานแน่แน่วตามแนวเดิม
มีแต่เสริมหาแง่ต้องแก้ไข
ให้มองเห็นแก่นแท้จนแน่ใจ
อุปสรรคเพียงใดอาจกลายดี
4 มกราคม 2553 10:52 น.
พฤหัส กฤษชยรักษ์
ในความฝันสีเศร้าเหงาดวงจินต์
เกินถวิลร่ำร้องเกินมองหา
เธออยู่ห่างแสนไกลสุดสายตา
แต่มีค่าเกินใครในอารมณ์
ใน"ราตรีสีดำ"ยังจำได้
เธอหมองไหม้สุดฝืนใจขื่นขม
อยากอำลาหล้าโลกด้วยอกตรม
ชีวิตบ่มทุกข์ตรอมเกินยอมทน
หลายขวบปีผ่านล่องยังครองเศร้า
ทุกข์เหมือนเงาเกินแก้แม้หลายฝน
จนสิ้นแรงอ่อนไหวใจร้าวหม่น
อสุชลพร่างพรายฟายน้ำตา
อย่าห่วงเลยเคยทุกข์เคยปลุกปลอบ
คนชังชอบเพียงไรไม่ไร้ค่า
จงแข็งใจลุกยืนยื่นมือมา
จะนำพาปลอดภัยไปด้วยกัน
4 มกราคม 2553 08:10 น.
พฤหัส กฤษชยรักษ์
มองดวงเดือนเคลื่อนคล้อยลอยลิบลิ่ว
หัวใจปลิวพลิ้วผ่านตระการสรวง
ดาวน้อยใหญ่ไหวอิงแย่งชิงดวง
จนเลยล่วงราตรีคลี่ฟ้าพราว
เลื่อมแสงทองส่องหล้านกกาว่อน
ฤทัยถอนทรวงเจ็บแสนเหน็บหนาว
อนาคตไกลห่างทางยืดยาว
คงปวดร้าวอาวรณ์ก่อนสิบปี
"รักมั่นคงหมายเคียงเพียงหนึ่งเดียว"
เป็นได้เพียงเศษเสี้ยวต้องหลีกหนี
เพียงหนึ่งเดียวไกลลิบสิบสี่ปี
ฟ้าคืนนี้เวิ้งว้างสิ้นทางจร
ทุ่มชีวิตมอบหวังจึงตั้งทุกข์
แท้เป็นเพียงนึกสนุกไม่สังหรณ์
ประโลมใจใส่หวานผ่านกานท์กลอน
สร้างผลลัพท์ร้าวรอนเต็มหัวใจ
หยุดเสียเถิดอย่าสร้างหวังลมแล้ง
เหมือนกลั่นแกล้งให้พลังมีหวังใหม่
ใจเปราะบางระหกระเหินจนเกินไป
ทนไม่ไหวกับน้ำคำย้ำหมายเคียง