6 มีนาคม 2547 21:52 น.
พระอาทิตย์เจ้าเอย
ข้าแตพระเจ้าผู้โชลมความรักดุจนำบริสุทธิ์ เหนือชีวิตคนธรรดาดุจข้าพระบาท ของกราบแทบเท้าและมอบความวางใจแด่พระเจ้าเสมอเหมือนเมื่อวานไม่บิดเบือน ของทรงสดับ หยาดหยดแห่งคำอธษฐาน หากมีสักคนที่ทุกข์ใจและขายตนเองสู่พันธนาการแห่งความพ่ายแพ้ มัสักคนที่มอบไม่เห็นหนทางภายหน้า มีสักคนที่ยอมให้ความทุกข์ปรกครุมเสมือนเมฆา ดำทมึน ในชีวิต มีสักคนเหนือราวเดินทางไร้จุดหมาย มีสักคนที่ย่อยยับลงท่างกลางภาพลวงตาแห่งความทุกข์แสนสาหัส
ข้าพระบาทเดือดร้อน แทบเขาเหล่านั้น เพราะสำหรับเค้าเค้ามองไม่เห็นวันพรุ้งแม้มันจะอยู่ตรงหน้าเขา ข้าพระบาทเจ็บชำราวถูกฟันจากโจรหิวกระหาย ของเป็นข้าพระบาทที่เจ็บช้ำแทนเขา เอาความเศร้าตรมไปจากเขา ขอให้เขามีพรุ้งนี้ มีพระอาทิตย์ทอแสบส่องสว่างในหัวใจ มีแรงบรรดาลใจต่อสู้อุปสัก ขอที่ตาเขาจะไม่เจ็บเพราะอดีตที่ทำร้าย ขอให้เขามัความสุขที่สุดเท่าที่เขาจะเป็นได้ในขณะที่ ต้องการ ขอให้ดาวประจำรุ่งบอกทางเขานำทางเขา ให้ประสบการณ์บอกเขาที่เค้าควรจะเดินที่เขาควรจะทำ
โปรดประทานจิตใจกล้าหาญแก่เขากล้าที่จะบอกว่าตนเองไม่แพ้ กล้าที่จะเดินต่อไปจะที่สุด ผมขออ้อนวอนต่อพระเจ้าที่ผมเชื่อ และต่อพระองค์ผู้ทรงเมตตา ช่วยเหนือคนอย่างผม น้อยที่สุด 6 ปีมาแล้ว ขออธิษฐานให้คนเหล่านี้ก่อนที่ผมจะหลับและตื่นมาเพื่อโอบกอดวันพร้งนี้อีกครั้ง
ผมขอมอบการโอบกอดแห่งความหวังใจแด่ผู้สิ้นหวัง ขอมอบการจุมพิศแด่ผู้เหน็บหนาว ขอมอบสายใยแห่งความห่วงหาแด่ทุกดวงใจ สุดท้ายขอมอบพันธแห่งความรักแก่ผู้ที่อ่อนแรง เป็นแรงบรรดาลใจให้ ... ดุจเวลาพระอาทิตย์ที่ไม่เคยหยุดงานแม้วันอาทิตย์ ในนามพระเยซูคริสตร์เจ้าอาเมน
6 มีนาคม 2547 20:59 น.
พระอาทิตย์เจ้าเอย
ถ้าคุณเป็นคนนึงที่คิดว่าบางสิ่งไกลเกินเอื้อมถึง สูงเกินหยิบจับ ลึกเกินแหวกว่าย ผมเคยดิดเช่นนั้น เคยมีเวลาที่จิตใจฝ่อลง มีเวลาที่ท้อแท้และรู้สึกว่าการดำเนินชีวิตเป็นสิ่งที่ยากลำบาก ทุกคนตื่นมายามเช้าพบความหวังแต่สำหรับผมมันเป็นความเจ็บปวดที่ทิ่มแทง ผมคิดเช่นนั้นเพราะผมไร้ความหวัง ผมไร้ที่ไป ไม่มีเป้าหมายเพราะไม่รู้จะตั้งไปทำไม
ดวงตาทั้งซ้ายและขวาบอบช้ำ มีนำตาเป็นเพื่อนเสมอมา ในช่วงนั้นผมอาจเป็นเหมือนคนโรคจิต เก็บตัวอยู่แต่ในห้อง ไม่เคยเลยที่จะเห็นหน้าตนเองในกระจก ไม่บอกใครคงรู้ว่าความเศร้าใจมีทวีมากขึ้น ผมดูเหมือนมีความสุขในความทุกข์เหล่านั้น ผมดูเหมือนสะใจที่จะจมอยู่ในความเศร้า จนวันนึง มีใครบางคนกระซิบความจริงข้างใบหูของผมว่า ไม่จำเป็นที่เราต้องเป็นอย่างนี้อีกไม่จำเป็นที่เราต้องสมน้ำหน้าตนเอง ไม่จำเป็น ไม่จำเป็นอีกต่อไป ....
ผมมีท่าที่เห็นด้วยกับคำพูดนั้น ถ้ามีสักคนที่เป็นอย่างผมในวันนั้ ผมขอบอกว่า จงลุกขึ้นต่อสู้กับความลำบากใจ ที่เจออยู่มันเล็กน้อย ที่ดูหนักหนาเพราะตาใจเราจำกัดและเราเป็นเพียงมนุษย์ ที่ส่วนใหญ่มองอะไนแคบๆกว่าที่มันเป็นอยู่ มักมีหน้าต่างที่เปิดอยู่ท่ามกลางประตูที่ปิดสนิท มักมีที่อุดมสมบูรณ์ท่ามกลางทุ่งหญ้าร้างเปล่า ผมของให้กำลังใจทุกหัวใจที่ต้องการ มันคงไม่ง่ายนักสำหรับนักเขียนมือใหม่เช่นผม ที่จะสื่อ ออกมาอย่างมีระบบแบบแผน
หากแต่ความจริงใจต่อเรื่องที่เขียนนั้นมีอย่างเต็มเปี่ยม วันนี้ผมได้ทำสิ่งที่ผมชอบ คือการให้กำลังใจคน ผมก็ยินดีกับสิ่งนี้ ผมมีชีวิตด้วยความหวังที่ก้าวเข้าสู่ความเป็นจริง ของผม ทุกวันนี้ผมมีความสุขมากกับการเขียน ของผมเอง ปรารถนาให้คนทุกคนมีความหวัง และมีกำลังในหัวใจ ยืนหยัดแม้ปัญหาจะรุมเร้าจนแทบขาดใจ ยืนหยัดแม้คนรอบข้างใส้ร้าย และทำร้ายทั้งทางวาจาและการกระทำ ยืนหยัดแม้ไม่มีใครเห็นคุณค่า ยืนหยัดแม้ไม่มีแรง ไม่มีพลังแม้แต่จะหายใจ แข็งใจอดทด จนเป็นยอดแห่งความอดทน
ไม่รอโชคชะตา ฟ้ากำหนด ทยานขึ้น สู้ฟ้ากว้าง บอกใจตนเองว่า เราจะเป็นตำนาน เป็นบรรพบุรุษที่ทั่งโลกจะไม่ลืมเรื่องของเรา หากรักดีใฝ่ดีต้องสำเร็จ ที่สำคัญอย่าปล่อยให้นำตาเป็นเพื่อนนะ ตรงนี้มีเพื่อนอีกคน อีกคนที่เคยมีปัญหา อีกคนที่เข้าใจ ชีวิต คนดุจใบไม้จำต้องผลัด จำต้องอำลา จำต้องร่วงโรย แต่ไม่ได้หมายความว่าพรุ้งนี้จะไม่มีวันมาถึง ไม่ได้หมายความว่าอนาคตอยู่แสนไกลนักหนา แท้จริงมันคือวันนี้ของเมื่อวาน มอบความรักและเห็นใจคนมากๆนะ ความทุกข์อยู่ไม่นานหรอกมันจะจากไปแน่ ถ้าสู้คือแพ้หรือชนะ ถ้าไม่สู้คือแพ้ราบคาบ สู้เถอะชีวิตจะคุ้มค่า
ของมอบถ้อยคำที่จริงใจ ให้ทุกดวงใจที่อย่างลำบาก เป็นกำลังใจให้ ... เสมอ