7 เมษายน 2548 10:07 น.
พระนคร
แสงอรุณสาดส่องลอดช่องม่าน
วิหคขานรับเป็นคลื่นระรื่นหู
ชะเง้อหาการกลับมาของโฉมตรู
ทั้งที่รู้ว่าอาจจะไม่มีทาง
เมื่อวันวานตะวันลอยคล้อยยามบ่าย
เธอนั้นได้ติดต่อมาทางมือถือ
เสียงรอบข้างตัวเธอไม่อึงอื้อ
พี่นั้นหรือได้แต่นั่งแปลกใจ
ถามกลับไปว่าเป็นอะไรเล่า
เธอนั้นเศร้าสิ่งใดจงขานไข
พี่เป็นห่วงสุดที่รักแทบขาดใจ
เธอตอบว่าไม่เป็นไรสบายดี
เธอถามทำไมดีกับเธอนัก
ที่เธอหักเธอหาญน้ำใจพี่
พี่โกรธเธอไม่ลงหรอกนะคนดี
เพราะพี่นี้รักเธอจนหมดใจ
(พี่ยังรักและให้อภัยเธอเสมอ.......)
6 เมษายน 2548 14:54 น.
พระนคร
ตื่นมาไม่มีแม้นเสียงไก่ขัน
รถราพลันวิ่งขวักไขว่ไปอย่างหนอน
เรื่องชีวิต คิดมากมีหลายตอน
หลายคนวอนขอร้องเทพเทวา
หลายชีวิตติดอยู่กับความเศร้า
หลายคนเฝ้านอนคอยแต่วาสนา
หลายคนอยู่อย่างเทวดา
หลายคนน่าเศร้าใจไม่มีกิน
ทุกชีวิตต้องดิ้นรนต่อสู้
เพื่อให้มีขึ้นมาเพื่อทรัพย์สิน
ไปทางไหนก็มองเห็นเป็นอาจิณ
ชั่วชีวิน นี้อยู่ในพระนคร
5 เมษายน 2548 09:33 น.
พระนคร
ตื่นนิทราเมื่อแสงอรุณสาด
กลิ่นสะอาดหอมฟุ้งปรุงสมอง
เสียงสายน้ำไหลไปตามแนวคลอง
ชายตามองตามกระแสแนวพัดพา
เช้าวันนี้หาเป็นเช่นวันเก่า
ความรู้สึกหงอยเหงาเข้ามาหา
ไม่มีแล้ว ไม่มีเธอยอดชีวา
เธอมาลาจากไป ไม่ใยดี
พี่นั้นรักสุดจะหักห้ามใจได้
ไม่หวั่นไหวพวกนินทา พวกป้ายสี
สู้อดออม ถนอมรักมาเป็นปี
แต่เดี๋ยวนี้เธอกลับมาบอกลากัน
พี่นั้นคงอยู่ต่อไปไม่ได้แล้ว
เสียงเจี้อยแจ้วที่เคยมีของจอมขวัญ
หายไปพร้อม ความรู้สึกที่ดีต่อกัน
คงไม่มีวันที่จะกลับมาเหมือนเดิม
เหมือนธาราไหลไปไม่อาจกลับ
ตะวันดับความมืดมาแทนที่
ดั่งหิมพานท์ไร้ซึ่งกินรี
ชีวิตมีแต่ขาดซึ้งซึ่งชีวา
พี่เฝ้ารอตัวน้องนั้นย้อนกลับ
พี่รอรับหากว่าเจ้ากลับมาหา
ให้อภัยในทุกเรื่องที่ผ่านมา
โอ้แก้วตาพี่รักเจ้าปักดวงใจ
4 เมษายน 2548 14:10 น.
พระนคร
ตราบใดที่อยู่ตรงนี้
อาจมีเธอเป็นเพียงแค่ความฝัน
ถึงแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ใกล้กัน
หาใช่ว่าฉันนั้นไม่รักเธอ