3 กรกฎาคม 2551 23:11 น.
พระจันทร์ลอยน้่ำ
1.
ทุกครั้งที่ผมเงยหน้ามองดูห้องทำงานของตัวเอง ผมรู้สึกอยากถอนหายใจให้ได้ทุกครั้งไป จากชั้น 7 ของตึกนี้ ผมมองเห็น สวนสาธารณะด้านล่าง อาจเรียกได้ว่านี่เป็นเรื่องดีๆ เรื่องเดียวบนความโชคร้ายของผม ทุกๆ บ่าย ความรู้สึกที่เบื่อหน่ายมักจะมาเยี่ยมเยียนผมเสมอ โดยไม่สนว่าผมจะต้องการหรือไม่ บางทีการได้มองสีเขียวๆ ของต้นไม้นั้นก็พอที่จะเจือจางความหน้าแน่นของความเบื่อหน่ายที่ทับถมในจิตใจของผมได้ดีทีเดียว
เหมือนกับบ่ายวันนี้ (และทุกๆ วัน) หลังการประชุมที่เต็มไปด้วยการคิดเพื่อแสวงหารายได้และกำไร อุบายแห่งการแย่งชิงเงินตรา และกลวิธีแห่งการดึงผู้คนให้ห่างไกลจากวิถีแห่งธรรมชาติ เพื่อให้กลมกลืนกับความแปลกแยกในสังคมเมือง ที่หาได้ง่ายยิ่งในทุกวันนี้ ผมมักเฝ้าถามตัวเองว่า...ผมอยู่ที่ไหนกันนะ...สิ่งที่คุ้นเคยกลับดูแปลกแยกมากขึ้นทุกวัน....
ผมหยิบแก้วกาแฟที่เย็นชืดแล้วเดินไปที่กระจกบานใหญ่ มองทะลุผ่านเส้นกั้นบางใสนั้นไปยังพื้นที่สีเขียวด้านล่าง ผมค่อยๆ หลับตาลงช้าๆ เพื่อจะเกี่ยวเก็บความชุ่มชื่นนั้นไว้ เพื่อให้เพียงพอกับการที่ผมต้องใช้ชีวิตในห้องนี้ไปอีกวัน
ในขณะหนึ่ง...บางที...ผมอาจจะตาฝาดก็ได้..แต่ผมเห็นร่างของเด็กสาว ไม่ก็หญิงสาวคนหนึ่ง ร่างกายแน่นิ่ง เหมือนกับเป็น...เป็น...ไม่รู้ว่าเป็นคนจริงๆ หรือว่า....
น่าแปลก
กว่า 10 นาทีที่ผมอยู่ระหว่างความเป็นไปได้ต่าง ๆ นานา ยิ่งคิดก็เหมือนกับว่าจะมีแต่เรื่องไม่ดีมากกว่าเรื่องดีๆ ผมตัดสินใจวางแก้วกาแฟแล้วดิ่งลงไป ผมวิ่งหาที่ที่น่าจะเป็นตรงที่เธออยู่ ตรงที่ที่จะมองเห็นห้องทำงานของผม ไม่นาน...ราวกับว่าผมรู้ทาง..และ...เธอยังอยู่....