22 เมษายน 2548 14:42 น.
พรวิสาข์
มุมเดิมๆในห้องแคบๆ โคมไฟดวงน้อยและรูปถ่ายหลายรูปถูกจัดวางบนโต๊ะเขียนหนังสือ อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย น่าแปลกก็ตรงที่รูปถ่ายเหล่านั้นไม่ใช่ของเจ้าของห้องเลยแม้แต่น้อย ผ้าม่านลูกไม้ผืนสีฟ้าถูกรวบมารวมกันเพื่อเปิดหน้าต่างกระจกรับลมสายลมที่พัดผ่านให้ได้สัมผัส
ฉันเดินไปเปิดหน้าต่างรับสายที่พัดโชยมาอย่างเบาๆ มองบรรยากาศกรุงเทพฯยามค่ำคืน แสงสว่างจากตึกรามบ้านช่องส่องแสงสว่างไปทั่ว แหงนหน้ามองดูท้องฟ้าจากตึกสูงเห็นเพียงดวงดาวไม่กี่ดวง มองขึ้นไปบนฟ้าเหมือนดาวเหล่านั้นอยู่ใกล้ๆแต่ถ้าให้เอื้อมเท่าไหร่ก็คงเอื้อมไม่ถึง สายลมที่พัดโชยแผ่วเบาเมื่อครู่เริ่มทวีความแรงมากขึ้น ฉันตัดสินใจที่จะปิดหน้าต่างเอาผ้าม่านลง ภายหลังจากสูดอากาศภายนอกมาพอสมควร และมาสัมผัสบรรยากาศแบบในห้องแคบๆ บรรยากาศเดิมๆที่ฉันคุ้นเคยอยู่ทุกวัน
เสียงโทรศัพท์ภายในห้องดังขึ้น ทำให้ฉันตื่นจากภวังค์ เหลือบมองดูนาฬิกาที่แขวนไว้เหนือประตูห้องด้านในบอกเวลาเกือบ 5 ทุ่ม ถ้าฉันเดาไม่ผิดต้องเป็นเสียงโทรศัพท์ที่บอกให้ฉันเอา KEY CARD ไปเปิดประตูให้กับผู้มาเยือน ซึ่งเป็นกิจวัตรที่ฉันต้องทำทุกคืนวันอังคารอยู่แล้ว และวันนี้ก็คงเช่นกัน ภายหลังจากที่ฉันรับสายถึงได้รู้ว่าสิ่งที่ฉันคิดในตอนแรกไม่ถูกต้องซะแล้ว เพราะว่าคืนนี้พี่ของฉันต้องเข้าเวรควบ 2 กะ กว่าจะได้กลับก็พรุ่งนี้สายๆ
อีกครั้งที่ฉันต้องนอนคนเดียว ความเงียบเหงา ความอ้างว้างวูบเข้ามาในหัวใจ ฉันเหลือบมองดูนาฬิกาอีกครั้ง เพิ่งจะ 5 ทุ่มกว่านิดๆที่บ้านฉันคงยังไม่เข้านอน ฉันตัดสินใจที่จะโทรศัพท์กลับบ้านเพียงแค่ได้คุยกะพ่อหรือแม่สักนิดก่อนนอนคืนนี้เพื่อให้ฉันได้หลับสนิท ก็เท่านั้น เรื่องราวสารทุกข์สุกดิบถูกถ่ายทอดระหว่างฉันกับพ่อแม่ มันคงจะทำให้ฉันมีความสุขและนอนหลับสนิทถ้าหากว่าแม่ไม่ถามคำถามเรื่องของขวัญกล่องนั้น ของขวัญกล่องใหญ่ถูกห่อด้วยกระดาษสีฟ้า ขาว และผูกด้วยโบว์ฟ้า - ขาวมีระบายลูกไม้ติด แถมพ่วงด้วยระฆังใบเล็กๆ และเส้นด้ายสีทองเส้นเล็กๆตัดกับสีของกล่องของขวัญ มองดูสวยงามมาก เป็นของขวัญที่ฉันได้รับเนื่องในวันพิเศษ ฉันน่าจะเปิดมันตั้งแต่ได้รับ หากเพียงเพราะฉันไม่กล้าพอที่จะรับรู้ว่าข้างในมันเป็นอะไรฉันจึงไม่ยอมเปิดของขวัญกล่องนั้น แต่ใช่ว่าฉันจะลืมหรอกน่ะฉันคิดอยู่เสมอว่าสักวันฉันจะไปเปิดดูว่าของข้างในมันคืออะไร วันนี้คำพูดของแม่ทำให้ฉันคิดขึ้นมาอีกครั้งมันอาจจะถึงเวลาแล้วก็ได้ที่ฉันจะเปิดของขวัญกล่องนั้นเสียที
ฉันกลับมาเอนตัวนอนอีกครั้งหลังจากวางสายจากแม่ แต่มันไม่ทำให้ฉันหลับลงไปได้ เปิดดูรายการทางทีวีก็ไม่มีอะไรน่าสนใจ ฉันเลยตัดสินใจหยิบแผ่นหนังที่เรียกน้ำตาจากคนดูไปได้มากโข หยิบขึ้นมาดูอีกครั้งหลังจากที่ไปดูเมื่อตอนเข้าฉายใหม่ๆ The letter: จดหมายรัก เป็นครั้งที่สามที่ฉันดูหนังเรื่องนี้ ความรักที่ถูกถ่ายทอดผ่านตัวละคร ไม่รู้นะว่าโลกนี้จะมีความรักแบบนี้จริงหรือไม่ คนที่มีความรักน่าจะให้คำตอบได้ว่ามีหรือไม่มี???
หนังจบไปแล้ว ฉันยังไม่ง่วง เลยตัดสินใจหยิบ postcard ที่ฉันสะสมมานานส่งไปให้ใครคนหนึ่ง เกือบ 5 ปีแล้วมั้งที่ฉันเริ่มส่ง postcard ให้คนๆนี้ (เจ้าของรูปถ่ายที่ฉันวางไว้บนโต๊ะเขียนหนังสือ) นั่งคิดอยู่ตั้งนานว่าด้านหลัง postcard ฉันจะเขียนว่าอะไรดี สุดท้ายมาจบที่เลียนแบบหนังรักที่ฉันเพิ่งดูจบไปหมาดๆดีกว่า
The letter : จดหมายรัก ตัวแทนความรัก...ความห่วงใย ของชายหนุ่มที่มอบให้หญิงสาวผู้เป็นที่รักยิ่ง ความรักที่ไม่มีวันหมดสิ้น แม้ว่าลมหายใจของชายหนุ่มจะหมดลงไปแล้ว แต่ความรักจะยังคงอยู่ชั่วนิรันดร์................
The postcard : ไปรษณียบัตร ตัวแทนความรัก ความห่วงใย ความอาทร ของคนๆนึงที่มอบให้ใครอีกคน ผู้ซึ่งเป็นคนพิเศษในความรู้สึก ความห่วงหาอาทร...ความห่วงใยที่ไม่มีวันหมดสิ้น...ตราบเท่าที่ลมหายใจยังมี
ฉันเข้านอนด้วยใบหน้าที่อมยิ้ม พรุ่งนี้เช้าฉันจะเอา postcard ไปหย่อนตู้ไปรษณีย์ อีกไม่เกิน 3 วัน ผู้รับปลายทางคงได้รับ รับแล้วจะรู้สึกยังไงบ้าง อยากรู้จัง???
เมื่อไหร่ที่ฉันกลับบ้าน ฉันจะทำการแกะกล่องของขวัญกล่องนั้นดู แล้วฉันจะมาเล่าให้ฟังนะ ว่าของขวัญชิ้นนั้นคืออะไร รอลุ้นเป็นเพื่อนหละกัน !!!
หลับเถอะนะ พรุ่งนี้ก็เช้าแล้ว ราตรีสวัสดิ์ค่ำคืนแห่งความเงียบเหงา
30 มีนาคม 2548 15:30 น.
พรวิสาข์
สักวันฉันจะจากไป...จากไปพร้อมเปลวควันและสายลมทิ้งไว้แค่เพียงผงธุลีและเถ้าถ่าน ทิ้งเอาไว้แค่เพียงคนที่รักฉันให้อาวรณ์อยู่กับความรักที่มอบให้กับฉันมาโดยตลอด อาจจะทิ้งร่องรอยความเศร้าเอาไว้บ้างแต่คงไม่นานก็คงจะลืมฉันไปตามวันเวลา
สักวันฉันจะจากไป...จากไปพร้อมกับความรักที่ฉันมีให้เธอ เอาติดตัวฉันไปทุกที่...ที่ฉันก้าวไป ไม่ทิ้งร่องรอยความรักเอาไว้ให้ผู้อื่นได้สัมผัส เพียงเพราะมันเป็นความรักที่ฉันมีให้เธอ...เธอผู้เดียวเท่านั้น
ทำไมเธอต้องใช้ชื่อในการเขียนของเธอว่า ดวงจักร คงเป็นชื่อของคนที่เธอรักหละสิ ถึงเอามาเป็นตัวแทนของชื่อตัวเอง งั้นคงไม่แปลกนะ ถ้าฉันจะใช้ชื่อของคนที่ฉันรักมารวมกับชื่อของฉันเพื่อเป็นตัวแทนชื่อของฉันในการเขียนเรื่องราวต่างระหว่างฉันและเธอ
พรวิสาข์ คือชื่อที่เกิดขึ้นจากการนำชื่อจริงของเธอและของฉันมารวมกัน ชื่อแห่งความรักที่ฉันบรรจงสร้างมันมาตลอดเวลาที่ได้รู้จักกับเธอ ฉันถึงบอกไงหล่ะ เมื่อไหร่ที่เธอผ่านมาเจอ เมื่อไหร่ที่เธอได้อ่านเรื่องราว
เหล่านี้ ไม่ว่าเธอจะกลายเป็นคนรักใคร หรือไม่ว่าใครจะเป็นคนรักของเธอ รู้ไว้เพียงอย่างเดียวว่า ฉันรักเธอนั่นคือสิ่งที่ฉันรู้มาโดยตลอด
28 มีนาคม 2548 13:13 น.
พรวิสาข์
ฉันรู้จักเว็บไซต์นี้มานานแล้ว เพราะฉันก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบเรื่องขีดๆเขียนเหมือนกัน ฉันเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกเอาไว้นานพอสมควร แต่ไม่ค่อยได้เข้ามาใช้บริการมากนัก เพราะด้วยภาระงานที่หนักอึ้งและเรื่องต่างๆที่สุมเข้ามาในช่วงนี้ทำให้ต้องว่างเว้นไปจากโลกไซเบอร์นานโขอยู่เหมือนกัน จนกระทั่งวันนี้ฉันได้รับ Mail forward เมื่อ Link เข้าไปดูปรากฏว่าเป็นเรื่องสั้น
น่ารักๆอ่านแล้วรู้สึกดีและที่สำคัญมาจากเว็บไซต์ที่ฉันเป็นสมาชิกอยู่ด้วย มันทำให้ฉันเกิดแรงกระตุ้นที่จะขีดเขียนเรื่องราวของตัวเองลงไปบ้าง และเหมือนกับเว็บนี้จะมีอิทธิพลกับฉันมากยิ่งขึ้นเมื่อฉันได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนบอกว่าให้เข้าไปที่ http://www.thaipoem.com/web/memberhome.php?idxxxx ฉันเฝ้าถามเพื่อนอยู่หลายครั้งว่ามีอะไร คำตอบจากเพื่อนทำให้ฉันลุกลงจากเตียงไปเปิดเว็บไซต์นั้นทันที ไม่น่าเชื่อ ฉันเฝ้าบอกตัวเองอยู่หลายครั้ง คนๆนี้มีอะไรแปลกๆที่ฉันคาดไม่ถึงอยู่เสมอ ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน เค้าเป็นสมาชิกของเว็บไซต์นี้ด้วย หัดปล่อยปล่อยความรู้สึกของตัวเองให้เป็นไปตามความต้องการของหัวใจ เป็นสโลแกนที่โดนใจฉันมากๆ มันสร้างคำถามขึ้นในตัวฉันทันที แล้วตอนนี้ตัวเธอปลดปล่อยใจของตัวเองบ้างแล้วยัง
ฉันคิดเรื่องราวต่างๆระหว่างฉันและเธอตลอดเวลาที่ผ่านมา ระหว่างเธอและฉันมันไม่มีเรื่องราวระหว่างเรา มาถึงวันนี้ในเมื่อเธอก็เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเว็บนี้ และฉันก็เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเว็บนี้ สักวันมันอาจจะนำเรื่องราวของฉันและเธอให้มารวมกันได้ แม้ว่าความเป็นจริงการรวมเรื่องของเธอและฉันมันจะมีความหวังแค่น้อยนิดแต่ไม่เป็นไร ฉันหวัง หวังว่าสักวันเธออาจผ่านเข้ามาและอ่านเรื่องราว (ที่นับจากนี้ฉันจะมีแต่เรื่องของเธอ) ของฉัน แล้วเธอคงได้รู้ว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทุกๆสิ่งที่ฉันทำ ฉันทำลงไปเพราะอะไร แล้วเธอจะได้รู้ รู้ว่าเพราะ ฉันรักเธอ