22 กันยายน 2545 21:05 น.
พรระวี
นั่งหมองเหม่อเผลอกายริมท้ายทุ่ง
ม่านสายรุ้งทาบฟ้าคราเย็นย่ำ
กบเขียดก้องลองไนร่ายระบำ
ปรอยฝนฉ่ำโลมหล้ามาเบาเบา
แล้วแพรุ้งก็เคลื่อนเลือนลับหาย
เยือกเย็นกายวาบหวามกับความเหงา
คนพ่ายรักไหวร่างอย่างซึมเซา
ทั้งขลาดเขลาเซื่องเซ่อหมองเหม่อลอย
ฟ้าทอสีเทาหม่นอยู่บนฟ้า
คล้ายดังว่าฟ้าเล่าก็เศร้าสร้อย
ยามสายรุ้งลับลาสุดตาคอย
สะอื้นอ่อยอัดอั้นตันในทรวง
คนพ่ายรักเหลือบมองแล้วตรองตรึก
ความรู้สึกบาดใจอย่างใหญ่หลวง
เหมือนสูญสิ้นความหวังในทั้งปวง
น้ำใสร่วงเปื้อนหน้าชุ่มตาโรย.
21 กันยายน 2545 21:37 น.
พรระวี
ยืนหยัดกายหงายหน้ามองฟ้ากว้าง
เพื่อรับความเวิ้งว้างกลางลมหนาว
พรายน้ำค้างพร่างพรมจากลมพราว
ประกายดาวเย้ยพ้อล้อนวลจันทร์
ยามกลางคืนชื่นช้อยจากสร้อยสรวง
นับล้านดวงตื่นตาเพลาค่ำ
ระยิบไหวก่องเถกิงเริงระบำ
ร่ายลำนำกล่อมสวรรค์อันอำไพ
มนต์เสน่ห์รินหยาดไม่ขาดสาย
จากดาวรายส่งฝันก่อนวันใหม่
สู่ชาวดินรอรับประทับใจ
เก็บเกี่ยวไว้ย้อมขวัญนิรันดร.
18 กันยายน 2545 22:37 น.
พรระวี
ฉันอาจเป็นฟอนไฟดับไปแล้ว
ไร้วี่แววเปลวไฟให้ใครเห็น
มีหัวใจว่างเปล่าเฉาชาเย็น
หลบกายเร้นด้วยหน่ายพ่ายเกมรัก
ตั้งสติมาดมั่นหมั่นสำนึก
ความรู้สึกกลับย้อนสท้อนหนัก
ในหัวใจเจ้ากรรมกลับจำหลัก
คนเคยรักเคยใคร่ฉายภาพมา
ทั้งทั้งที่ร้าวรานปานถูกเชือด
กลับหายเหือดหวังใจได้พบหน้า
ถึงปะเหมาะเคราะห์ซ้ำจักนำพา
อนิจจา...กลับไม่กลัวนะหัวใจ...
15 กันยายน 2545 13:06 น.
พรระวี
ใบไม้ปลิวลิ่วคว้างกลางป่าสวย
ลมระรวยกลิ่นพยอมมาย้อมขวัญ
ใต้แสงอ่อนโรยราของตาวัน
ริ้วหมอกพันเคลียเคล้าทั่วราวไพร
ร่องลำธารซ่านสายพรายแพรน้ำ
กระซิบร่ำเว้าวอนอย่างอ่อนไหว
ไผ่เสียดกอล้ออ้อนทอดถอนใจ
เป็นเพลงไพรระงมพรมพนา
อยากทรุดกายรายเรียงลงเคียงข้าง
ฝากฝังร่างทอดอยู่กับภูผา
มีกระท่อมพรานไพรอยู่ใกล้ตา
แนบนิทราหลับฝันนิรันดร.
14 กันยายน 2545 13:32 น.
พรระวี
อยากเรียงร้อยสร้อยศรีกวีหวาน
ก่องตระการพริ้วไหวเหมือนใยแก้ว
อาบสีทองผ่องจันทร์อันพรายแพรว
เคล้าแต้มแววระยิบพราวแห่งดาวพราย
อยากสืบสานกานท์กวีที่แสนซึ้ง
สักบทหนึ่งในชีวิตอุทิศให้
แด่พี่น้องผองเพื่อนไว้เตือนใจ
ฝากประทับเอาไว้ในวิญญาณ์
ร้อยรัดแทนสายใจให้สุขสม
จากอารมย์มุ่งมาตรปราถนา
จากแก่นใจใสสันต์ทุกวันมา
ด้วยศรัทธามั่นคงวงกวี.