31 มกราคม 2554 20:31 น.
พงษ์ สุนนท์
หน้าหม่นหมองของเธอดูเพ้อหา
ปลดแววตาทิ้งไปเกินไถ่ถอน
มันถึงขีดเก็บกดหมดอาทร
แหล่ะแน่นอนต้องจบการทบทวน
หยิบเสื้อผ้ากองลงบรรจงพับ
เช่นเดียวกับหัวใจอย่าให้หวน
ปิดกระเป๋าสีดำเกินคร่ำครวญ
เก็บบางส่วนไปลับไม่กลับมา
หันหลังให้ห้องเก่าที่เขาทิ้ง
ภาพความจริงไม่อาจปรารถนา
ลบบาดแผลใครทำคราบน้ำตา
เมื่อเวลาถึงคราวต้องก้าวเดิน
ยังมีความพันผูกถึงลูกน้อย
แม่จะคอยอยู่ข้างไม่ห่างเหิน
เป็นหน้าที่ยิ่งใหญ่ให้เผชิญ
กับการเมินทิ้งขว้างของบางคน
ด้วยสายตาเหม่อมองเกินร้องเรียก
แก้มที่เปียกเป็นทางอยู่บางหน
พร้อมกระดาษหนึ่งใบไหลปะปน
เพื่อเตือนตนทุกครั้งอย่างตั้งใจ
เกียรติบัตรปลอบใจคือใบหย่า
ที่ผ่านมาท้อแท้เกินแก้ไข
เรียนรู้ในความรักมักเปลี่ยนไป
แม้แต่ใครไม่อาจจะคาดเดา
เมื่อถึงการพลัดพรากฉากสุดท้าย
ถูกทำลายพ่ายพังความหวังเก่า
อาจเป็นความหมองมัวของตัวเรา
เลิกบอดเขลาแน่วแน่อย่างแท้จริง
เธอจะเลือกอย่างไรในวันนี้
ขอให้มีความสุขกับทุกสิ่ง
แม้วันนี้ไร้หลักให้พักพิง
จากความจริงที่สู้อยู่ลำพัง.
........................................
18 มกราคม 2554 22:11 น.
พงษ์ สุนนท์
จากเหตุการณ์สมมุติไม่หยุดหย่อน
คอยกรัดกร่อนสังคมนิยมฝูง
เมื่อความจริงไม่หนักถูกชักจูง
เปลี่ยนจากสูงเป็นต่ำแทบช้ำใจ
มีกลิ่นอายบางอย่างลางสังหรณ์
เข้าตัดตอนเชื่อมโยงไม่โปร่งใส
เจตนาที่เขียนก็เปลี่ยนไป
เชื่อมั่นในความจริงหรือชิงชัง
ไม่มีใครสำเหนียกการเรียกร้อง
หันมามองข้างในอยู่ไกลฝั่ง
ตะเกียกตะกายยื้อยุดสุดกำลัง
หมดความหวังอ่อนล้าน้ำตาริน
เมื่อคำถามบางประโยคว่าโชคร้าย
ถูกกฎหมายกำหนดจนหมดสิ้น
ท่ามกลางปวงปัญหาเป็นอาจิณ
พร้อมหนี้สินหดหู่สู้คดี
ภายในห้องรโหฐานสำราญทั่ว
สร้างความกลัวมืดมนจนบัดสี
ใช้อำนาจเข้าทำคอยย้ำยี
ตามหน้าที่ปฏิบัติไม่ชัดเจน
หวังเพียงคุณธรรมนำเสริมส่ง
คอยดำรงแน่นหนักขมักเขม้น
มีศรัทธากำหนดรู้กฏเกณฑ์
ไม่เบี่ยงเบนถูกผิดไร้ทิศทาง.
..........................................