9 กรกฎาคม 2550 15:44 น.
พงษ์ศักดิ์ สิงห์ขจร
จูงเจ้าทุยเดินลุยในทุ่งหญ้า
วันที่ฟ้าแจ่มใสไร้เม็ดฝน
พ่อแบกไถขึ้นบ่าหนักพอทน
แต่ก็ปนด้วยยิ้มที่พิมใจ
แม่หาบข้าวหาบน้ำเดินตามพ่อ
น้องบอกรอได้ไหมเดินไม่ไหว
พ่อหันหลังส่งยิ้มเดินไวไว
เดี๋ยวรีบไปเล่นน้ำที่ทุ่งนา
ในหนองน้ำมีปลาทั้งน้อยใหญ่
ลอยวนไปเวียนมาน่าหรรษา
ปลาลูกคอกฝูงใหญ่ในท้องนา
ชื่นอุราดูมีสุขสนุกดี
*** ปลากลูกคอก คือ ลูกปลาช่อนที่อยู่กันรวมเป็นฝูง
7 กรกฎาคม 2550 20:38 น.
พงษ์ศักดิ์ สิงห์ขจร
ฝนลงเม็ดยิ้มร่าพาใจสุข
แล้วรีบลุกถือจอบจับคันไถ
ลงไปลุยทุ่งนาพาสุขใจ
จับคันไถจูงเจ้าทุยลุยทุ่งนา
พ่อถือจอบเดินตามพลางผิวปาก
น้ำก็หลากมากมายสุขหรรษา
แม่นั่งยิ้มสุขใจในเถียงนา
ดูแล้วพาสุขใจในอีกวัน
หลานเดินตามคันไถพร้อมถังเหยื่อ
พร้อมทุกเมื่อหากเจอไส้เดือนนั้น
พ่อก็สับตีนคันคูเช่นทุกวัน
ส่วนตัวฉันจับหางไถเช่นทุกปี
*** เถียงนา คือ กระท่อมที่อยู่ทุ่งนา
สับตีนคันคู คือ สับดินที่ไหลลงจากคันนา
ไม่รู้อธิบายถูกหรือเปล่าครับ
22 พฤษภาคม 2550 22:36 น.
พงษ์ศักดิ์ สิงห์ขจร
ไก่ตัวแล้วตัวเล่าเดินผ่านหน้า
เดินวนมาเวียนไปน่าสงสัย
เดินมาหยุดตรงหน้าแล้วผ่านไป
เหตุอันใดจึงมาหยุดตรงหน้าเรา
ไก่ตัวแรกเดินมาพร้อมรอยยิ้ม
ชั่งเอิบอิ่มดวงใจไร้ความเหงา
ตัวที่สองเดินมาจ้องตาเรา
พูดเบาบาไก่ไหมเพ่สองไม้สิบ
20 พฤษภาคม 2550 17:41 น.
พงษ์ศักดิ์ สิงห์ขจร
ดิ้นรน ค้นหา ความรัก
ใจชัก ลังเล เงียบเหงา
เรียบเรียบ ง่ายง่าย ใจเรา
แสนเศร้า ฝืนทน ทำไม
ถามใจ ตัวเอง เหงาไหม
ทำไม ทนฝืน สงสัย
ตอบเอง ไม่ได้ เหงาใจ
มีใคร ตอบได้ ช่วยที
9 เมษายน 2550 22:27 น.
พงษ์ศักดิ์ สิงห์ขจร
ใน.....วันวานเมื่อวานก่อน
วัน.....ซ้อนซ่อนเลความรัก
ที่.......ใจนั้นดั่งรักปัก
ฉัน.....แอบทักรักเข้าจริง
มี.......หญิงหนึ่งทำให้รู้
รัก.....ต้องดูให้แน่ยิ่ง
ฉัน....ไม่อาจลืมทุกสิ่ง
แอบ...ลบทิ้งเพียงน้อยนิด
เหงา...ยังคงซึ่งความเหงา
ใคร ๆ ก็เหงาได้ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงเวลาใด
ขึ้นอยู่กับว่าเราจะยอมรับในความจริง
ซึ่งมีความเหงานั่นแอบแฝงอยู่