24 พฤศจิกายน 2551 05:35 น.
พงษ์ภูษา
.....เริ่มจากอะไร ความจริญงอกงาม โตเต็มที่ เฉาลงไปตามกาลเวลา.....
.....ออกมาหายใจกับโลกที่ไม่รู้ ด้วยเหตุผลร้อยแปด แล้วแต่จะให้เป็นไป
สู่อ้อมอกอันอบอุ่น ภายหลังความเจ็บปวดที่มีอยู่ในโลกมารวมกัน ณ. ที่นี้
ความรัก ทั้งหมดเริ่มก่อตัว สายสัมพันธ์ กำลังใจที่ทำให้อยากมีลมหายใจ
เจริญพันธุ์ขั้นตอน จากเล็ก เติบโต สู่ใหญ่วัยรุ่น มากมายปัญหา
เสาะแสวง ค้นคว้า วิชาชีวิต ต่อสู้แข่งขันแย่งชิงเพื่อไปให้ถึงยังจุดหมายสุงสุด
ชีวิต หน้าที่ การงานพันพัว ยากแท้ลำบากสาหัสหมดเรี่ยวไร้แรงกายใจ
บ้างคิดสั้นไป นรกหมกไหม้ ไร้สิ้นความคิด พินิจไตร่ตรองสมองคน
เข้าสู่ใต้เงา แห่งความไร้ทุกข์ สุดแสนแห่งแดน ทุกอย่างว่างเปล่า
แก่เฒ่าตามวัย สังขารไม่เที่ยงร่วงรวยตามวันเวลา สุดเหนี่ยวรั้งให้ยั่งยืน
หมดลมหายใจ สิ้นสุดแห่งตัวตน คน มนุษย์ สุดประเสริฐเลิศล้ำกว่าใคร
เป็นเพียงเถ้าถ่านลมพัดพาไป หายสิ้นในดินน้ำ .....
........................................................................................................................
.....ยังไม่สิ้น ติฉินนินทาว่ากล่าว เรื่องราวยามความเป็นคน
แม้พ้นตนตัว ชื่ออยู่ ให้รู้ดีร้ายมากมายหลายอย่าง พร่างพรูชูช่อ
สรรเสริญเยินยอ ด่าทอกับการกระทำยามคน ถ้วนทั่วปากคนบนดิน
........................................................................................................................
.....อยากเป็นแบบไหน ทำไปให้ดู ชื่ออยู่กายไป ตราตรึงใจไว้ชั่วกัปชั่วกัลป์
12 ตุลาคม 2551 14:50 น.
พงษ์ภูษา
..... เจ็บปวดยิ่งกว่า มีดพันเล่มทิ่มแทงลงบนร่าง
.....ยิ่งกว่าใคร ควักหัวใจออกมา ฉีก กระชาก แล้วลากไปตามทาง
.....ถ้าโลกนี้ไม่มีใคร อยากจะ กรีดร้อง ร่ำไห้ โหยหวล อย่างไม่อาย
.....ให้มันสาสมกับ ความทุกข์ ทรมาน ความเจ็บปวด ขาดใจตายไปตรงนั้น
.....................เสียงสะอึกสะอื้นพร้อมกับเสียง..หือที่สลับกันปานจะขาดใจ
.
....น้ำตาทีไหล กลั่นจากหัวใจที่ เจ็บปวดรวดร้าว..สุดแสนจะทน ทรมาน
.....ความสิ้นหวัง ขมขื่น โศกเศร้า สะเทือนใจ ที่เก็บกดอยู่ข้างใน
.
....ราวกับว่า เอาความเจ็บทั้งหมดบนโลก มารวมไว้ ณ.ที่นี้
.
....พังทลายไหลพุ่งออกมา ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
..............บ่งบอกถึง ความเจ็บปวดแสนสาหัส ในห้วงแห่ง ก้นบึ้งของความรู้สึก
..............สุดที่จะบรรยาย สงสารจับใจ
.......................................................................................................................
.....................พอได้รับรู้ความรู้สึกนี้ ..ถึงกับน้ำตาไหล กับความรู้สึก ที่ผิด
พร้อมยอมรับ ด้วยความเป็นลูกผู้ชาย และหาทางแก้ไข สิ่งผิด พลาดนั้น
ด้วยความตั้งใจ หรือ ไม่ตั้งใจ ....อยากจะพูดว่า ..ขอโทษ.. จากใจ
ทุกคน ผิดพลาด ได้ ขอเพียงแต่ยอมรับ และปรับปรุบตัวเองเสียใหม่
ผู้คนที่รับรู้ จะให้อภัย
.......................................................................................................................
ด้วยสำนึก___
ด้วยความผิดพลาด ทำให้คนที่รักเราต้อง เจ็บปวด
การเดินล้ำเส้น ที่คนเดินมาก่อนหน้า เขาขีดไว้
วันหนึ่ง เมื่อใบไม้ผลิ คืนที่ไร้ดาวเดือน ความอบอุ่นหมดไป
ความมืดจะมาเยือน ความสิ้นหวังจะมาแทนที่ ความเหน็บหนาวจะผ่านเข้ามา
ดังนั้น___
.......................... อย่าทำลายความหวังของใคร เขาอาจเหลือเพียงน้อยนิด
เพื่อจะได้ใช้เป็น กำลังใจ ในการมาชีวิตอยุ่ต่อไป
..............................................ด้วย สำนึก ที่ดี...................................................
28 กันยายน 2551 16:40 น.
พงษ์ภูษา
..... มีอะไรที่ได้ง่ายเข้ามา
ทุกอย่างหามายากถึงได้เห็น
ยิ่งความรักนั้นแสนจะยากเย็น
เหมือนงมเข็มในสมุทรสุดประมาณ.....
..... แต่จะอยู่อย่างไรยากยิ่งกว่า
เพราะยังกลัวความรักไม่นานแสน
จึงต้องเฝ้าใส่ใจไม่คลอนแคลน
เธอเป็นแฟนของเราต้องเข้าใจ .....
..... คอยโทรหาเวลาที่เปลี่ยวเปล่า
จะต้องเอาหัวใจให้เสมอ
เติมความสุขทุกวันเมื่อพบเจอ
เธอเสนอเราสนองต้องระวัง .....
..... ทุกทุกครั้งที่ทำให้มีสุข
อย่าให้ทุกข์มาทำให้หมองศรี
เคืองใจนิดผิดใจหน่อยอย่าได้มี
ทำเช่นนี้เธอที่รักจักอยู่นาน .....
.....ตอนเธองอนเราง้อขอโทษครับ
คนสดับรับฟังโกรธพลันหาย
ทุกรสชาดของชีวิตปนกันไป
เหมือนต้มยำต้องใส่หวานเปรี้ยวเค็ม .....
..... ยากหรือเปล่าที่กล่าวอ้างมาข้างต้น
หากเป็นคนที่คุณรักทำได้ไหม
ยากที่สุดอย่าเผลอใจไปให้ใคร
ถ้าทำได้เธอยกใจให้ทั้งดวง .....
25 กันยายน 2551 12:18 น.
พงษ์ภูษา
..... ไม่ว่าโศก เคร้าสร้อย เหงาหงอยรัก
จะอกหัก จากรัก ที่ผิดหวัง
ใจสลาย อยากอยู่ เพียงลำพัง
ต้องมานั่ง หม่นหมอง นองน้ำตา
..... หรือว่าเป็น คนที่รัก เขาจากไป
ทำให้ใจ ห่วงหา อาวรณ์ถึง
จากส่วนลึก ของดวงจิต คิดคำนึง
จนต้องพึ่ง พระธรรม คอยนำทาง
..... ใครลิขิต ขีดเขียน เรียงเป็นสาย
ครั้นไม่ได้ เป็นดั่ง สมประสงค์
ชีวิตนี้ นั้นย่อม มีขึ้นลง
บ้างสุขสม บ้างโศกเศร้า เคล้ากันไป
..... อย่าน้อยใจ ในโชค วาสนา
ไม่นำพา ก็อย่าคิด หมดสิ้นหวัง
เปลี่ยนความเศร้า ให้กลับกลาย เป็นพลัง
ให้ความหลัง จากไป เหมือนสายลม
..... กำลังใจ ยังมีอยู่ ทุกแห่งหน
เราต้องค้น ให้พบ เพื่อความหวัง
ทั้งบ้านกลอน เพื่อนใหม่ ให้กำลัง
สุดท้ายยัง อยู่ตรงนี้ มีอีกคน.....
23 กันยายน 2551 11:30 น.
พงษ์ภูษา
.....นานแค่ไหน อยากใคร่ ขอไถ่ถาม
ว่าความงาม ในบ้านนี้ มีแต่ไหน
รักเหงาเศร้า ช่างไพเราะ เกาะกินใจ
ใครต่อใคร ที่เขียนไว้ ในบทกลอน.....