1 พฤษภาคม 2552 15:33 น.
ฝากฝัน
เมฆทะมืนครืนครั่นจนสั่นไหว
พรรณพฤกษ์ไพรไกวแกว่งแรงลมหวน
สายฝนโหมชโลมป่าฟ้าแปรปรวน
ใจเรรวนป่วนปั่นหวั่นอารมณ์
ลืมตาตื่นฝืนใจนอนไม่หลับ
กระส่ายกระสับขยับลุกไม่สุขสม
มองนภาฟ้าฝนคงหล่นพรม
ยิ่งระทมถมซ้ำกระหน่ำทรวง
สุดคิดถึงคะนึงหายามลาจาก
ยากแสนยากพรากใจไม่ห่วงหวง
เหมือนนกกาลาร้างห่างรังรวง
ดั่งดาวดวงห่วงฟ้าทิวาเยือน
มองน้ำฝนหล่นหยดสลดเศร้า
น้ำตาเจ้าเฝ้าหลั่งดั่งเสมือน
จูบอำลาคราหลังยังย้ำเตือน
บอกอย่าเลือนลืมกันนับวันรอ
มินานนักรักเอ๋ยได้เชยชิด
แนบสนิทพิสมัยในห้องหอ
ดั่งลมฝนทนต้านไว้นานพอ
อาทิตย์ทอทับทาบอาบอุ่นดิน
แม้ราตรีนี้ร้าวทั้งราวป่า
ห้วงนภาบ้าคลั่งยังมิสิ้น
อยากร้องบอกออกไปให้ได้ยิน
ว่าใจจินต์ดวงนี้มีเพียงเธอ
ฝากฝัน
๑ พฤษภาคม ๒๕๕๒
27 เมษายน 2552 23:05 น.
ฝากฝัน
มองดาวเดือนเกลื่อนฟ้าทุกคราค่ำ
หัวใจร่ำพร่ำเพ้อละเมอหา
สุดคำนึงถึงนางอยู่ห่างตา
ฝากดารามาเตือนอย่าเลือนคำ
เคยสัญญาหน้าพระจะรักมั่น
ทุกคืนวันหมั่นบอกคอยตอกย้ำ
ภาพเรื่องราวคราวหลังยังฝังจำ
ดั่งลำนำซ้ำฟังจนฝังใจ
ราตรีหม่นคนหมองเฝ้ามองฟ้า
ถามดาราว่าเจ้าเศร้าแค่ไหน
ยามจันทราลาจากฟากฟ้าไกล
มีบ้างไหมไหวหวั่นกลัวจันทร์เลือน
แต่ใจฉันสั่นเจ็บจนเหน็บหนาว
ให้ปวดร้าวราวมีดมากรีดเฉือน
นานเท่าใดไหนหนาจะมาเยือน
หรือต้องเหมือนเดือนดาวเพียงเฝ้ารอ
อยู่ไกลห่างต่างแดนแสนคิดถึง
คือดาวหนึ่งซึ้งในดวงใจหนอ
สว่างวาวขาวล้วนนวลลออ
ส่องแสงทอทับทาบอาบล้นทรวง
โอ้ดาวเด่นเห็นไหมใครคนนั้น
ฝากใจฝันมั่นรักภักดิ์และหวง
เธออยู่ดีหรือไรในดาวดวง
ส่งใจล่วงห่วงหาจากฟ้าไกล
ฝากฝัน
๒๗ เมษยน ๒๕๕๒
7 เมษายน 2552 23:39 น.
ฝากฝัน
มองลูกมองสองตามองหล้าโลก
ชนวิโยคโศกเศร้าเจ้าเห็นไหม
ทุกเขตคามลามรุกลุกเป็นไฟ
โลกวันใหม่ไหนเลยเคยร่มเย็น
หากลูกลองมองไทยในวันนี้
ทุกถิ่นที่มีทุกข์เข้ายุคเข็ญ
ศีลธรรมถอยถ่อยล้นชนลำเค็ญ
เขายอมเต้นเซ่นเงินเผชิญกัน
ดูสิดูผู้มักอ้างรักชาติ
สติขาดมาดร้ายทำลายขวัญ
เฝ้ายุยงส่งเสริมเพิ่มทุกวัน
เขาขายฝันวันกลับมาคับเมือง
ลูกเห็นไหมใครเอ่ยเคยฉ้อฉล
เขาคือคนปล้นไทยในยุคเฟื่อง
แก้กฎหมายขายไทยไปนองเนือง
มินับเนื่องเรื่องวิหารเขาผลาญไป
ลูกจำไว้ให้แม่นแผ่นดินนี้
คนอัปรีย์มิว่ามันหน้าไหน
มิควรคู่อยู่กินบนดินไทย
เหล่าจัญไรไหนเลยเคยภักดี
ลูกจงกล้าท้าทายคนขายชาติ
อย่าเขลาขลาดหวาดกลัวมุดหัวหนี
จงปกป้องผององค์วงศ์จักรี
เอาชีวีพลีค้ำมินำพา
ลูกรู้ไหมใครดำรงองค์อำมาตย์
กษัตราธิราชทรงคัดหา
ถวายงานผ่านพระเนตรเหตุพารา
ฤาควรค่าด่ากราดจากทาสชน
ตรองเถิดตรองลองดูนะลูกรัก
เลือกจงรักภักดีที่ฉ้อฉล
หรืออำมาตย์มนตรีที่ช่วยคน
ลูกอดทนค้นดูจะรู้เอง
ฝากฝัน
๗ เมษายน ๒๕๕๒
5 เมษายน 2552 23:49 น.
ฝากฝัน
เมื่อดินนุ่มชอุ่มเขียวด้วยเรียวพฤกษ์
หากลองตรึกนึกตรองจะมองเห็น
คราวทุกข์ร้อนผ่อนคลายอยู่ให้เป็น
รอฟ้าเย็นเด่นดาวค่อยก้าวเดิน
ยามแล้งร้อนผ่อนผัดผลัดใบทิ้ง
เหลือเพียงกิ่งนิ่งสงบซบโขดเขิน
หยุดชะงักพักใบไม่เจริญ
แต่ใช่เมินเพลินขอรอฝนปราย
ตอนหยุดพักจักบ่มปมตาดอก
ให้ทุกซอกดอกพราวราวสร้อยสาย
เสริมรากฝอยคอยท่าฝนฟ้ากราย
ดอกสยายร่ายร่ำลำนำไพร
เปรียบชีวิตผิดพลาดที่วาดฝัน
ความเชื่อมั่นสั่นคลอนจนอ่อนไหว
โอ้รักเอ๋ยเคยหวังยังห่างไกล
ดั่งพฤกษ์ไพรใบกิ่งนิ่งระทม
ขอพักร่างสร้างใจให้เข้มแข็ง
ฟื้นเรี่ยวแรงแกร่งกล้าฝ่าใจขม
เฝ้ารอวันขวัญหล้ามาภิรมย์
ดั่งฝนพรมลมไหวไพรเบ่งบาน
ยามรักมั่นหวั่นไหวดั่งไพรแล้ง
อย่าสิ้นแรงแสร้งรักหรือหักหาญ
แต่งตารอช่อใบอีกไม่นาน
รักเบ่งบานหวานล้ำชุ่มฉ่ำทรวง
ฝากฝัน
๕ เมษายน ๒๕๕๒
27 มีนาคม 2552 23:09 น.
ฝากฝัน
สายลมหวิวพลิ้วกลิ่นแผ่นดินหอม
ได้สูดดอมพร้อมปรายแห่งสายฝน
ดั่งเมตตามาฝากจากฟ้าบน
ประทานฝนหล่นอาบกำซาบไพร
มวลพฤกษ์พันธุ์สั่นใบไหวระริก
กระซี้ซิกพลิกฟื้นตื่นหลับใหล
บ้างผลิดอกออกช่อต่อกิ่งใบ
ช่วยดับไฟไหม้แรงแห่งตะวัน
เปรียบดวงใจไหวหวั่นมักสั่นเหงา
ซุกซึมเซาเฉาแห้งไร้แรงฝัน
อยู่โดดเดี่ยวเดียวดายใต้เงาจันทร์
ทุกคืนวันฝันลวงแห่งดวงดาว
นับแต่เจ้าเข้ามาเริ่มฟ้าใส
เมฆบังใจไหลสลายคลายสั่นหนาว
ประกายหม่นพ้นผ่านตระการวาว
ดั่งฟ้าพราวดาวพร่างอยู่กลางใจ
ได้ตักอุ่นหนุนนอนยามอ่อนล้า
ตาสบตาราตรีที่พลิ้วไหว
ร่วมบรรเลงเพลงกล่อมจากอ้อมใจ
ปลุกเปลวไฟใฝ่ฝันอย่างมั่นคง
สายลมหวิวพลิ้วแผ่วแว่วเพลงหวาน
ฝนขับขานผ่านไพรให้ใหลหลง
ดั่งความรักภักดีที่ซื่อตรง
จักดำรงคงไว้ให้สองเรา
ฝากฝัน
๒๗ มีนาคม ๒๕๕๒