13 กรกฎาคม 2552 08:58 น.
ฝากฝัน
น้ำกกเอื่อยเรื่อยไหลในม่านฝน
ช่างขุ่นข้นปนเปื้อนเหมือนใจฉัน
ปัญหาสุมรุมรุกทุกคืนวัน
มองฝั่งฝันพลันหายคล้ายไม่มี
กกกล้ำกลืนฝืนใจบ้างไหมหนอ
ยามทดท้อขอพ่ายยอมหน่ายหนี
เพียงตัวฉันหวั่นไหวในชีวี
ทุกนาทีมีแต่พ่ายแพ้ใจ
สายฝนหลั่งพรั่งพรูลงสู่กก
ราวเม็ดหยกตกหล่นบนแก้วใส
ต้องร้าวแตกแหลกลาญทั้งบานใบ
ดั่งปวดใจในคราวรักเศร้าตรม
แม่กกเอ๋ย เคยใสไม่ขุ่นข้น
กลับถูกคนก่นป่าไหลมาถม
แม่สะอื้นฝืนใจในโคลนตม
ร้าวระบมขมขื่นทุกคืนวัน
หัวใจเอ๋ย เคยอุ่นละมุนหวาน
กลับซมซานด้านชาไล่ล่าฝัน
ดั่งลงน้ำดำหาหมายคว้าจันทร์
จนหนาวสั่นพลันล้มลงจมธาร
น้ำกกเอื่อยเรื่อยไหลในม่านฝน
ฝากใจหม่นคนหมองล่องสนาน
ลบความหลังครั้งท้อทรมาน
ให้สราญซ่านใสไม่ระทม
ฝากฝัน
๑๓ กรกฎาคม ๒๕๕๒
9 กรกฎาคม 2552 11:36 น.
ฝากฝัน
อยากเรียงถ้อยร้อยรักษ์อักษรสาส์น
เริงสราญกานต์กลอนให้อ่อนไหว
ดั่งสายลมพรมไล้จูบปลายไพร
สื่อจากใจไปถึงแด่หนึ่งนาง
อันมายาหาใช่ไร้จริต
ด้วยความคิดจิตแท้แต่เมินหมาง
ตัวอักษรซ่อนเงื่อนจนเลือนลาง
สื่อจากนางบางตอนซ้อนมายา
หากใจเปื้อนเกลื่อนกลาดซ้ำขาดรัก
คือกับดักนักกลอนอ่อนพรรษา
แม้เสแสร้งแต่งล่อต่อวาจา
แต่ภาษามายื้อมิสื่อใจ
ยิ่งใจรกปกคลุมมาหุ้มไว้
อักษรไซ้ไร้ท่าลีลาไหว
แม้เจนจัดชัดแจ้งแต่งเท่าใด
เป็นดั่งไฟไหม้สุมเห็นกลุ่มควัน
ปลดความเครียดเกลียดชังสักครั้งไหม
ปล่อยหัวใจใสสว่างมาสร้างสรรค์
มีสิ่งใดไขข้อข้องใจพลัน
ค่อยร้อยจันทร์พันดาวให้วาววาม
อยากร้อยรักษ์อักษราภาษาศิลป์
ชุบกวินกลิ่นใจให้ไหวหวาม
บรรจงถ้อยร้อยรสอันงดงาม
ให้สมนามสยามชนคนเสรี
ฝากฝัน
๙ มิถุนายน ๒๕๕๒
6 กรกฎาคม 2552 14:36 น.
ฝากฝัน
มองสายฝนหล่นพร่างจากปรางสรวง
ค่อยหลั่งล่วงห้วงหาวหยดวาวใส
สายฟ้าแลบแปลบปลาบวาบทรวงใน
เสียวถึงใจไหวหวั่นพลันหลับตา
ปล่อยฝนพรมห่มร่างล้างรอยร้าว
ให้ลมหนาวพราวพรูสู่ใบหน้า
กลบร่องรอยคล้อยผ่านกาลเวลา
สุดโหยหาล้านักเมื่อรักจาง
สายน้ำไหลไหนเลยเคยย้อนกลับ
ก้มหน้ารับกับรักหักใจหมาง
ดั่งสายใยใสเบาเช่นเงาบาง
รอก้าวย่างทางแพรกแยกกันเดิน
โอ้ น้ำฟ้าบ่าพรูลงสู่พื้น
หลั่งชุ่มชื้นฟื้นพนาป่าโขดเขิน
ฝนไฉนไยเล่าเฝ้าหมางเมิน
ให้เผชิญเดินเหี่ยวเพียงเดียวดาย
หลั่งเถอะหลั่งพรั่งพรายสายลมฝน
ไหลรินหล่นท้นมาอย่าขาดสาย
ขับรุ่มร้อนผ่อนพรากไปจากกาย
หวังโศกคลายหายเศร้าร้าวระทม
มองสายฝนหล่นพร่างจากกลางหาว
เก็บเรื่องราวหนาวเหน็บรักเจ็บขม
ดั่งหนองฝีมีแต่แผลระบม
ถึงฝนพรมลมปรายมิหายเลย
ฝากฝัน
๖ กรกฏาคม ๒๕๕๒
30 มิถุนายน 2552 11:50 น.
ฝากฝัน
เฝ้ามองเรื่องเมืองใต้ให้ห่วงหนัก
ห่วงยิ่งนักจักแก้ได้แค่ไหน
หลายเรื่องราวหนาวเหน็บเจ็บปวดใจ
จะมีใครใดหนามาช่วยที
สามจังหวัดจัดว่าปัญหาแรก
ความแตกแยกแทรกรุกทุกพื้นที่
มุ่งทำร้ายหมายฆ่าทุกนาที
ประชาชีหนีตายนับรายวัน
คนอาสามาแก้ของแท้หรือ
ถึงได้ยื้อดื้อยาจนหน้าขัน
งบประมาณผลาญเล่นเห็นเห็นกัน
คนนับพันนั้นค่อยทะยอยตาย
อีกปัญหาป่าไม้และชายหาด
ยับพินาศขาดดุลจนสูญหาย
ถูกกัดเซาะเลาะตลอดจนวอดวาย
ความมักง่ายหลายหลากเพราะอยากรวย
ป่าชายหาดปาดเลนเป็นนากุ้ง
ลงทุนพุ่งมุ่งใจไปได้สวย
ความรู้น้อยคอยท่าพากันซวย
ป่ากลับม้วยห้วยนาพากันเค็ม
เมื่อยางปาล์มลามมาป่าก็หมด
ลำน้ำหดลดแห้งกลับแล้งเข้ม
ฝนตกมาห่าใหญ่ไหลท่วมเต็ม
น้ำตาเค็มเต็มหน้าบ่าทุกปี
ดั่งเวรซ้ำกรรมซัดวิบัติใต้
เหมือนป่วยไข้ไร้ทางจะย่างหนี
ความอุดมจมต่ำถูกย่ำยี
ใต้วันนี้พี่น้องนองน้ำตา
ฝากฝัน
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๒
27 มิถุนายน 2552 13:49 น.
ฝากฝัน
ตะวันแผดแดดกล้าคราบ่ายคล้อย
ดอกหญ้าผล็อยลอยคว้างกลางเวหา
ยิ่งลมพลิ้วปลิวไหวยิ่งไกลตา
ฤา ร้างราลาหายคล้ายบางใคร
เคยงามงดสดพราวดั่งดาวแต้ม
ดอกบานแย้มแซมช่อล้อลมไหว
หมู่ภมรร่อนบินยอมสิ้นใจ
หวังโลมไล้ได้ลิ้มชิมดอกงาม
โอ้ วัยหวานวานวันช่างสั้นนัก
แต่รอยรักปักใจยังไหวหวาม
เมื่อโรยราล้าแห้งลมแล้งตาม
ดอกหญ้างามยามเฉาต้องเหงาตรม
จำใจพรากจากไปไม่อาจขืน
มิอยากยืนฝืนสู้ดูรักขม
ฝากกลีบบางร่างน้อยลอยตามลม
รอฝนพรมห่มร่างในต่างแดน
คือดอกหญ้าลาดินถิ่นรักเศร้า
ทิ้งรากเง้าเฝ้าห่วงสุดหวงแหน
ลานรักเก่าเหงาใจไร้ใครแทน
ในอ้อมแขนแสนว่างไร้นางนอน
ตะวันแผดแดดกล้าคราบ่ายคล้อย
ดอกหญ้าผล็อยลอยวาบคล้ายภาพหลอน
โอ้สายใจใยเจ้าเฝ้าตัดรอน
อยากวิงวอนย้อนคืนผืนดินเดิม
ฝากฝัน
๒๗ มิถุนายน ๒๕๕๒