15 พฤษภาคม 2551 11:22 น.
ฝากฝัน
ยามฟ้าต่ำฉ่ำหนาวไร้ดาวส่อง
สายลมล่องต้องไพรไหวเอนลู่
ก่อนฝนพรำซ้ำหลั่งจนพรั่งพรู
เสียงราหูขว้างขวานสะท้านทรวง
ระริกไหวใบไม้ยามได้ฝน
แต่ใจคนหม่นเศร้าเฝ้าห่วงหวง
คะนึงนางห่างไกลฤดีดวง
เจ้าจะล่วงราตรีนี้อย่างไร
นางเคยย้ำสัญญาวันลาจาก
จะมิพรากนานเนิ่นเกินเดือนใหม่
น้ำตาหลั่งสั่งลาร่ำอาลัย
แม้ห่างไกลใจเราเฝ้าถึงกัน
เคยสวมกอดพลอดพร่ำน้ำคำหวาน
เฝ้าดื่มธารเกษียรจากสองถัน
เพียรเง้างอดออดอ้อนทุกคืนวัน
คอยสร้างฝันน้อยน้อยในดวงมาลย์
จงค้นหาความหมายในกายเจ้า
แล้วจงเฝ้าใฝ่รู้มาประสาน
เชื่อมตัวตนค้นหาจิตวิญญาณ
คือปราการด่านแรกเจ้าพึงมี
บนเส้นทางข้างหน้าท้าทายนัก
จงตระหนักคุณค่าอย่าคิดหนี
เข้าเรียนรู้ซึมซับกับชีวี
จะเหมือนมีศัสตราค่าควรเมือง
เพิ่งมาซึ้งถึงค่าเมื่อลาจาก
ยามตกยากแก้ได้ในหลายเรื่อง
เพราะโลกร้ายภัยรุกมาเนืองเนือง
ให้สิ้นเปลืองปัญญาพาปลอดภัย
คืนฉ่ำฝนทนหนาวอยู่ราวป่า
มิรู้ว่าป่านฉะนี้เป็นไฉน
แสนคิดถึงคะนึงหาสุดห่วงใย
อยากกลับไปเคียงข้างนางคงคอย
ฝากฝัน
๑๕ พฤษภาคม ๒๕๕๑
10 พฤษภาคม 2551 12:23 น.
ฝากฝัน
ดั่งผีซ้ำกรรมซัดวิบัติสูญ
แสนอาดูรพม่าจมล่มสลาย
พายุโหมโถมถั่งดั่งผีพราย
เสกมนต์ร้ายร่ายมายาฆ่าผู้คน
ด้วยการเมืองปกครองดั่งผองทาส
แพร่ระบาดความทุกข์ทุกแห่งหน
หลายชนเผ่าลำบากล้วนยากจน
ต้องจำทนอยู่ได้ใต้ควันปืน
เมื่อความจนปนพายุยิ่งดุเดือด
ละเลงเลือดล้มตายไร้ทางขืน
หยาดน้ำตาบ่าไหลไม่อาจกลืน
สุดแข็งขืนโชคชะตาพม่าชน
เคยเดินเล่นเห็นทุกข์ในร่างกุ้ง
เมืองคนยุ่งยุบยับล้วนสับสน
แทบทุกตรอกซอกซอยมีคนจน
เหล่านายพลพวกพ้องจ้องร่ำรวย
ยามเกิดทุกข์ท่วมท้นทั้งประเทศ
ก็อ้างเหตุระแวงแกล้งฉกฉวย
เพียงชาวบ้านนั่นเล่าที่เขาซวย
ไม่ต้องช่วยยิ่งจนยิ่งทนทาน
เห็นตัวอย่างมากมายหลายชนชาติ
ความพินาศช่วยได้หลายสถาน
ค่อยลดแลกแจกแถมไปนานนาน
คุมกบาลจูงได้ไร้คนชัง
ขอให้น้ำให้หญ้าเพียงเล็กน้อย
แล้วก็ปล่อยให้ปลักอย่ากักขัง
เมื่ออยากทำอะไรเพียรใช้ตังส์
ก็ขึ้นนั่งครองเมืองเรื่องสบาย
คือความคิดของเหล่าผู้เฉาโฉด
ผู้อิ่มโอษฐ์บนซากความฉิบหาย
ใครจะทุกข์ขุกเข็ญเป็นหรือตาย
ขอให้ได้อำนาจฟาดพุงกาง
เพียงอยากให้พายุในพม่า
ช่วยมาผ่าหัวใจคนไทยบ้าง
ปลุกให้ตื่นฟื้นมาหาหนทาง
ช่วยขัดขวางชั่วโฉดโคตรกินเมือง
ฝากฝัน
๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๑
9 พฤษภาคม 2551 01:03 น.
ฝากฝัน
ณ ลานลาดดาดผาดาราพร่าง
คือจุดวางแยกถิ่นดินอีสาน
เหล่าฮัญกูรยึดป่ามาช้านาน
เพียงวันวานล่มสลายคล้ายดั่งเงา
ทรราชหิวโหยขโมยป่า
ฮัญกูรล่าถอยร่นจนตกเขา
เหลือตำนานขานขับกับลำเนา
จากคนเก่าผู้เฒ่าเล่านิทาน
สายลมหวิวพลิ้วไหวในคืนหนาว
ใต้เงาดาวล้อจันทร์สั่นสะท้าน
เฝ้าคิดถึงคะนึงรักในวันวาน
กระเจียวบานบนลานนี้มีสองเรา
ยิ่งดึกดื่นดาวเดือนยิ่งเกลื่อนฟ้า
สุดโหยหาห่วงใยด้วยใจเหงา
เฝ้าคิดถึงคะนึงฝันยากบรรเทา
ด้วยสองเราเคยคู่อยู่ด้วยกัน
อยากทอดาวพราวฟ้ามาเป็นสร้อย
เก็บจันทร์ร้อยแทนจี้มณีสวรรค์
มอบให้เธอเก็บไว้เป็นรางวัล
ช่วยคุ้มครองป้องกันยามฉันไกล
กระเจียวสวยสดใสในม่านหมอก
เคยเย้าหยอกหลอกเดินจนเกินไหว
แต่คืนนี้เดียวดายเธอหายไป
จะหลอกใครพรุ่งนี้ไม่มีเธอ
ป่าหินงามความพิลาสธรรมชาติสร้าง
ให้คนว่างใจร้าวเศร้าเสมอ
แสนคิดถึงคะนึงหาพาละเมอ
ในฝันเธอคืนนี้มีใครเคียง
แว่วลำนำลมร้องผ่านร่องผา
ดั่งกานดาผวาตื่นสะอื้นเสียง
อยากกระซิบ รักมาก ฝากสำเนียง
ขอให้เพียงสองเราคิดถึงกัน
ฝากฝัน
๘ พฤษภาคม ๒๕๕๑
หมายเหตุ..
๑. ฮัญกูร... คือชนเผ่า ที่คนทั่วไปเรียกว่า ชาวบน หรือ ชาวดง ที่เร่ร่อนอาศัยอยู่ในป่าแถบ อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ พูดภาษาเขมรปนมอญ ปัจจุบัน ป่าไม่หมดพวกเขาจำเป็นต้อง อยู่เป็นหมู่บ้าน..ทุกวันนี้ ที่อยู่หนาแน่น ประมาณ 7 หมู่บ้าน..และวัฒนธรรมต่างๆก็ค่อยๆสลายไป น่าเสียดายมาก
๒. เจตนาของกลอนนี้ เนื่องจากใกล้จะถึงเทศกาลดอกกระเจียวบานแล้ว..สำหรับเพื่อนพ้องน้องพี่ ที่ชอบการท่องเที่ยวก็ควรจะเตรียมตัวได้แล้ว..และอยากเชิญชวนด้วย
๓. เนื่องจากฝากฝันได้รับความ เมตตา จากเพื่อนนักกลอน ที่เข้าไปเยี่ยมชมจำนวนมาก แต่ขณะเดียวกันก็เกิดเสียงสงสัย ฝากฝัน ทำอย่างไรตัวเลขถึงขึ้นมากอย่างนั้น ดังนั้นอยากวอนเพื่อนนักอ่าน..ช่วยแสดงสัญลักษณ์สักหน่อยจะดีมั๊ย...อย่างน้อย IP ก็จะบอกว่าฝากฝันไม่ได้ทำเอง..
ขอบคุณครับ
ฝากฝัน
5 พฤษภาคม 2551 23:41 น.
ฝากฝัน
ยามเมฆคล้อยลอยเลื่อนเคลื่อนลงต่ำ
โหมกระหน่ำพรำฝนจนฉ่ำหนาว
สายฟ้าแลบแปลบวาบสว่างพราว
ทอดกายหนาวอิงอุ่นหนุนตักนอน
นับร้อยคดพันโค้งทุกแว่นแคว้น
ดั่งดินแดนปลดปล่อยที่คอยหลอน
ทุกเส้นทางห่างไกลไหวรอนรอน
ใจเหนื่อยอ่อนล้าโรยระโหยแรง
ขอหลบฝนพักกายพอหายล้า
ใจโหยหาอิ่มเอมได้เข้มแข็ง
สัญญารักจากใจไม่เปลี่ยนแปลง
อย่าระแวงรักเราให้ร้าวราน
ล้าเพียงกายหมายหลับก็กลับฟื้น
ใจคงตื่นคืนล้าครารักหวาน
รอฝนสร่างพร่างนภามิช้านาน
ดอกรักบานท่วมฟ้าขอลาไกล
นับพันบ้านล้านชนที่ทนทุกข์
รอการปลุกฟื้นกลับจากหลับใหล
อย่าทับทุกข์ทดท้อหนอชนไทย
ลองสู้ใหม่อีกครั้งอย่ารั้งรอ
สังคมก่อนวิถีเก่าเรารู้ชัด
ห่อนวิบัติขัดสนมิจนหนอ
เพียงมีกินมีอยู่รู้จักพอ
ได้ถักทอรุ้งเรียวเครือเดียวกัน
มาเกี่ยวก้อยร้อยแขนด้วยแก่นรัก
ช่วยกันผลักโลกใหม่ด้วยใจมั่น
ปลดปล่อยทาสการค้าเย้ยตาวัน
โน้มสวรรค์บ้านนากลับมาคืน
ให้เพลงขลุ่ยพลิ้วแผ่วคงแว่วหวาน
ทุกสายธารหลั่งไหลพงไพรฟื้น
เหล่าคนทุกข์อิ่มท้องทุกคำกลืน
จักกลับคืนอิงแอบแนบเนื้อนวล
ฝากฝัน
๕ พฤษภาคม ๒๕๕๑