4 มิถุนายน 2551 01:09 น.
ฝากฝัน
ราตรีหนาวคราวหม่นคนท้องทุ่ง
เจรียงฟุ้งควันฟืนแห่งคืนหมอง
ร้อยเรื่องราวสาวไหมใส่ทำนอง
แว่วเสียงร้องครวญนางต่างฟืมฟัน
เพียรถักรุ้งพุ่งทอจากกรอไหม
วาวพลิ้วไหวไล้แสงแห่งความฝัน
ประจงลอดสอดใยไหมตะวัน
ด้วยมุ่งมั่นปัญญาจากผ้าไทย
จากหยาดเหงื่อเถือแรงสร้างแปลงหม่อน
มาเลี้ยงหนอนตัวงามด้วยหวามไหว
ค่อยสำรอกรอวันพันเส้นใย
ดั่งหัวใจไยหมั่นพันธนาการ
ก่อไฟสุมหุ้มห่มหม้อต้มไหม
จักสาวใยใส่กรอไว้ทอสาน
เจ้าหนอนน้อยแดดิ้นสิ้นชีพราน
ดั่งดวงมาลย์พล่านดิ้นยามสิ้นนาง
เรียงร้อยรัดจัดไหมไปมัดหมี่
ใส่เฉดสีเรื่องราวมาเคล้าสาง
พาดราวไผ่ใส่แสงเพียงเบาบาง
ดั่งรักสร้างสีสรรวันงดงาม
จากเส้นใยไหมกรอทอผ้าสวย
สองมือช่วยสอดรึ้งดึงสายล่าม
จังหวะเท้าเร่าร้อนถีบขอนตาม
ดั่งรักหวามงามได้ด้วยสองเรา
คือร้อยรุ้งเรียวไหมจากใจสาว
กับเรื่อราวงานศิลป์ถิ่นขุนเขา
ผ่านความเพียรเรียนร่ำในลำเนา
เริ่มบางเบาไร้คนมาสนใจ
อยากโอบกอดพรอดพร่ำรำพันเพ้อ
วอนให้เธอถักทอก่อรักษ์ไหม
ให้แพรวพราววาวรุ่งบ้านทุ่งไทย
ฟื้นสายใยโชติช่วงคู่รวงทอง
ฝากฝัน
๔ มิถุนายน ๒๕๕๑
2 มิถุนายน 2551 14:17 น.
ฝากฝัน
โอ้ย..พวกม๊อบมันบ้าพากันคลั่ง
คงได้ตังส์กันหลายหล่ะซีท่า
ไม่อย่างงั้นก็คงจะไม่มา
แดดก็กล้าฝนก็ปรายตายพอดี
แต่ละคนทนได้น้ำไม่อาบ
ตัวเหม็นสาบเต็มทนจนต้องหนี
ขุดอยู่ได้ความเลวที่เพื่อนมี
เขาอับปรีย์นี่รู้ได้อย่างไร
มานั่งกินข้าวกล่องไม่ต้องซื้อ
คนรวยรวยเขาถือรู้บ้างไหม
พวกทำร้านเหลาหรูอยู่อย่างไง
จะชิมไปบ่นไปให้ใครฟัง
เขาอุส่าห์เอาตะกร้ามาล้างลูก
ให้มันถูกที่ทางอย่างคนมั่ง
ก็ยังเอามาด่าประเดประดัง
ว่าน่าชั่งอุบาทว์แทบขาดใจ
จักรภพหลบแล้วยังแจวด่า
ไม่รู้ว่าด่าดึงไปถึงไหน
รู้ก็รู้ว่าเขาทำเพื่อใคร
ก็เจ้านายสั่งไงจึงต้องทำ
เจ้านายข้าฯมั่งคั่งคณานับ
ถึงยึดทรัพย์อย่าหวังจะเหลือหำ
ยังซื้อโน้นซื้อนี่ที่อยากทำ
ยังซุกงำมากมายสบายใจ
เจ้านายข้าฯนั้นเก่งเกินขนาด
เสกกระดาษเป็นเงินนะรู้มั๊ย
เพียงแค่นี้นะหรือประเทศไทย
เสกเมื่อไหร่ไทยหรือก็คือเงิน
เห็นมั๊ยนั้นลูกน้องเจ้านายข้าฯ
เอาเมียมานั่งแท่นไม่เคอะเขิน
ผัวติดกับเมียขยับอย่างเพลิดเพลิน
เขาเจริญเงินคุ้มคุมกระทรวง
ไร้ปัญญาหาใช่ประเด็นหลัก
มาล้วงควักงบประมาณนั่นของหวง
ในสมองลองผ่ามา กล้วง กลวง
ไม่ต้องห่วงนายดีมีปลอกคอ
รู้อย่างนี้นี่ยังประท้วงอีก
ไยไม่หลีกหลบนายข้าฯบ้างหนอ
นั่งประท้วงอยู่ได้ไม่รู้พอ
เดี๋ยวนายก็ผูกคอประท้วงตาย
ฝากฝัน
๒ มิถุนายน ๒๕๕๑
1 มิถุนายน 2551 21:19 น.
ฝากฝัน
เหล่าปี่พาทย์ระนาดโหมประโคมเสียง
เร้าสำเนียงเริ่งร่าประสาโขน
เล่นหุ่นเชิดลิงค่างต่างทโมน
ค่อยตะโกนโหวกเหวกวะวุ่นวาย
บ้างเต้นบู้ล้างผลาญสันดานดิบ
ทำงุบงิบหลบเร้นเป็นตัวร้าย
บ้างคอยจ้องมองเล่ห์เพทุบาย
ขอชุบกายลูกหลานผ่านความเลว
บางหุ่นลิงกลิ้งกลอกเต้นนอกบท
กำซาบซดดื่มแดกความแหลกเหลว
ทุรนร่านร้อนรนบนไฟเปลว
สร้างหุบเหวฟากฝั่งกลับฝังตัว
เสียงปี่พาทย์ระนาดกลองยังก้องโหม
หุ่นอวดโฉมกรุ้มกริ่มเต้นยิ้มหัว
ทุกข์ประชาแค่ไหนไม่หวั่นกลัว
เจ้านายตัวต้องรอดคดีโดน
เขายอมรับหน้าบานฉานขี้ข้า
เพียงให้มาแทนตัวสวมหัวโขน
เหล่าลิงค่างเสนาหน้าทโมน
ใช้เงินโยนโปรยปรายก็ได้ที
ยิ่งตาสียายมาที่บ้านนอก
เอาเงินกรอกลงให้ได้เป็นหนี้
มิต้องรู้ดูเห็นเรื่องอัปรีย์
เลือกตั้งทีเงินฟาดไม่พลาดเลย
พระคุณนายก่ายกองต้องทดแทน
มิอาจแขวนเจ้านายให้อยู่เฉย
รัฐธรรมนูญแก้สูญเลย
เจ้านายเอ๋ยทาสนี้ไม่รีรอ
ทุกข์ประชาวางไว้ช่วยนายก่อน
แล้วค่อยย้อนมาแลแก้ปมล่อ
ถูกต่อต้านพาลทำหน้าง้ำงอ
แล้วแกล้งหงอโอนอ่อนค่อยผ่อนตาม
เสียงปี่พาทย์ขาดห้วงน่าห่วงนัก
ยามโรงหักหุ่นตายคาไม้ง่าม
ทุ่มแรงโถมโหมไฟให้ลุกลาม
เผาหุ่นทรามให้สิ้นแผ่นดินไทย
ฝากฝัน
๑ มิถุนายน ๒๕๕๑
27 พฤษภาคม 2551 02:27 น.
ฝากฝัน
ณ ราตรีที่ดาวคงพราวฟ้า
คลื่นยังซ่าซัดสาดหาดทรายขาว
ลมคงพลิ้วต้องสนใบหล่นกราว
ทะเลเศร้าคืนนี้ที่ไร้นาง
สนต้นเก่าเราเคยนั่งตั้งเตาผิง
ปูปลาปิ้งอิงอุ่นอรุณสาง
เจ้าเคยบอกเสียงสนดั่งคนคราง
บอกคลื่นพร่างเงาดาวราววิมาน
แสงไฟพราววาววับจับเกลียวคลื่น
เรือดาษดื่นตื่นมาล่าอาหาร
ดั่งดาวฤกษ์แห่งท้องทะเลธาร
ราตรีผ่านคืนนี้ไร้วี่แวว
มองทะเลยามนี่ใจพี่เศร้า
มิมีเจ้าคืนนี้ก็ดีแล้ว
แม้ต้นสนยังคงเป็นแถวแนว
แต่เพลงแว่วมิหวานดั่งวานวัน
มองเห็นเตาเผาปิ้งถูกทิ้งขว้าง
กลิ่นหมึกย่างต่างไปจากคืนนั้น
ไร้คู่รักพร่ำพรอดออดอ้อนจันทร์
ลำเรื่อสั่นสนเศร้าคนร้าวราน
ไร้ไฟเรือเหลือแต่ทะเลเหงา
ตังเกเเก่าเฝ้าเรือจนเบื่อบ้าน
บทเพลงเรือคงเหลือเพียงตำนาน
ต้องขึ้นคานเกยหาดขาดชีวิน
เขาบอกพี่นี่คือธรรมชาติ
เมื่อประมาทย่อมมีที่สูญสิ้น
ม่านน้ำตาประมงคงหลั่งริน
ประชาชินอาจอดของสดคาว
คือบทเรียนของชนในชาตินี้
หานายดีมีปัญญาอย่าสามหาว
ไม่คุยเฟื่องลอยฟุ้งกระทุ้งดาว
จักปวดร้าวจากภูผาถึงทะเล
ฝากฝัน
๒๗ พ.ค. ๕๑
ป.ล. คิดถึงป้าแช่ม
เรือป้าแช่มก็คงจะเกยตื้น
ป้าจะตื่นจากฝันหรือเปล่าหนอ
บนฝั่งนี้ฝากฝันนั้นเฝ้ารอ
อยากจะขอปูปลามาแกล้มกิน
18 พฤษภาคม 2551 22:36 น.
ฝากฝัน
ดั่งเหมยหมอกหยอกล้อคลอภูผา
กลุ่มเมฆาเคลื่อนคล้อยลอยซบเขา
สายลมโบกโยกไหวเพียงบางเบา
คืนเงียบเหงาหนาวใจไม่มีเธอ
ฟังเรไรหริ่งหรีดกรีดเสียงหวาน
ยิ่งฟุ้งซ่านหวั่นไหวยามใจเผลอ
แว่วเสียงนกกลางคืนตื่นละเมอ
ดั่งคำเพ้อครวญคร่ำวันจำลา
หากมีเจ้าเคล้าคู่อยู่เคียงข้าง
ความอ้างว้างจางหายคลายอ่อนล้า
อ้อมอกอุ่นหนุนหมอนนอนสบตา
ล่วงทิวาพาล่องท่องไพรกัน
คล้อยฝนหลั่งพรั่งพรูสู่ขุนเขา
พนาเหงากลับฟื้นตื่นจากฝัน
เฝ้าดื่มด่ำกำซาบอาบตะวัน
มวลไม้ผันผลิใบไพรขจี
เหล่ากบเขียดเบียดกายจากรูร่อง
เสียงเพรียกร้องหาคู่อยู่อึงมี่
เกาะเกี่ยวกอดพรอดพร่ำอยู่ในที
เพียงราตรีผ่านพ้นออกผลพวง
ใบไม้อ่อนหนอนน้อยค่อยค่อยฟัก
ก่อนเป็นฝักดักแด้ใบแก่ล่วง
ยามผีเสื้อรำร่ายจากรังรวง
ลุเข้าช่วงดอกบานน้ำหวานพราว
สกุณีจิกหนอนป้อนลูกน้อย
สองปีกค่อยแกร่งกล้าท้าฝนหนาว
ในลำธารแดดส่องต้องเกล็ดวาว
ซิวสร้อยขาวฮุบแมลงแย่งกันเพลิน
ลองปล่อยใจให้ว่างวางงานหนัก
กลับมาพักชมป่าภูผาเหิน
มีเส้นทางมากมายให้เลือกเดิน
อยากชวนเชิญที่รักพักเรือนไพร
ฝากฝัน
๑๘ พฤษภาคม ๒๕๕๑