12 มีนาคม 2550 16:29 น.
ฝนสีน้ำเงิน
...ถนนสายเหงา...
ต้นไม้ทึบเทาเหว่ว้า
ปลิดใบสีเหลืองร่วงลา
น้ำค้างหยาดมารินอาทร
นกเปลี่ยวกลางไพรร้องก้อง
ขับร้องเพลงฝันอันแออ่อน
เพลงบาดพิษแผลร้ายรานรอน
เพลงอ้อนความเดียวดายในหนทาง
ความเหงาเจ้าเหมือนเพื่อนสนิท
แม้ชีวิตจะสับสน...เคว้งคว้าง
มืดมิดมิเห็นแม้เลือนราง
ความเหงาเจ้ายังปลอบคนตรม
12 มีนาคม 2550 09:41 น.
ฝนสีน้ำเงิน
ดวงอาทิตย์จะลับแล้ว
เมฆสีแดงพราวแพรวบนฟ้า
น้ำสะท้อนแวววับจับตา
จิ้งหรีดเรไรเริงร่าส่งเสียงระงม
คลื่นกระทบฝั่งครืนครืน
ต้มมะพร้าวยืนชมสุขสม
รอคอยกระแสแห่งสายลม
พัดมาให้รื่นรมย์เย็นใจ
เหล่านกกาบินกลับบ้าน
รัตติกาลเริ่มมาใกล้
มองไปยังขอบฟ้าทะเลไกล
แสงไฟเรือประมงวับแวม
ดวงอาทิตย์ลับไปแล้ว
ความวาวแววของน้ำก็จางหาย
เหลือแต่คลื่นที่ยังซัดอยู่ไม่วาย
ดวงดาวเริ่มเผยกายพร้อมดวงจันทร์
ดึกแล้วแก้วตาจ๋า.......
โอ้น้องยา..เจ้าจงหลับฝัน
รอคอยแสงรุ่งแห่งตะวัน
ปลุกเจ้าให้ตื่นขึ้นอีกครั้งวันใหม่เอย
12 มีนาคม 2550 09:16 น.
ฝนสีน้ำเงิน
ถ้าฉันต้องการกำลังใจจากใครสักคน
ขอให้เธอเป็นคนนั้นจะได้ไหม
ถ้าฉันต้องการความชุ่มชื้นในหัวใจ
จะไหลผ่านมาได้ไหม.....สายน้ำ-สีทอง
11 มีนาคม 2550 18:33 น.
ฝนสีน้ำเงิน
ดอกไม้ดอกหนึ่ง....
ร่วงลงบนผืนดิน...ไร้ค่า
กลีบสีม่วงบอบบาง บอบช้ำ...แหว่งวิ่น
เหมือนจิตใขของฉันเวลานี้
ฉันค่อยๆก้มลงเก็บดอกไม้ดอกนั้น
และนำมันกลับมา.........
ไม่ใช่สำหรับเธอ
หรือสำหรับตัวเอง
แต่หาก.....สำหรับความรู้สึกที่ดีงามระหว่างเรา
.....ที่กำลังจะตายไป
11 มีนาคม 2550 16:40 น.
ฝนสีน้ำเงิน
คือช่วงเวลาแห่งความเหงา
เศร้าที่ใจของเราถูกเชือดเฉือน
เจ็บที่คนแสนรักทำแชเชือน
ใยเธอเบือนหน้าหนีเหมือนชิงชัง
โอ้ว่าเพลานี้...........
ใจที่มีนึกย้อนถึงความหลัง
ยามที่สุขยามไร้ทุกข์มาเบียดบัง
ใยจึงไม่จีรังไม่ยั่งยืน
คิดถึงเขา...เขาจะรู้บ้างไหม
ว่าหัวใจดวงนี้สุดขมขื่น
ความทุกข์โถมกระหน่ำซ้ำสุดกล้ำกลืน
ที่ต้องยืนดูรักลาจากจร
ข้าต้องเศร้าเดียวดายใจข้ารู้
มิได้อยู่เคียงคู่สมสมร
รักจากไปใจข้าสุดอาทร
ยากจะย้อนให้รักคืนกลับมา