14 ตุลาคม 2551 22:42 น.

อิจฉาความรัก จันทรา...ดารา

ฝนทอง

สิ้นวสันต์ฟ้าใสในกลางคืน
ทั่วแผ่นพื้นนภาดาราพราว
พระจันทร์ส่องแสงสุกสกาว
สายลมหนาวพัดผ่านสะท้านจิต  

นั่งคนเดียวมองดาวเดือนบนฟ้า
แสงจันทราส่องสว่างทั่วทุกทิศ
หมู่ดาราระยิบแสงตามสิทธิ์
เพียงน้อยนิดที่เปล่งแสงแห่งราตรี

คล้ายจะบอกความนัยให้รับรู้
พระจันทร์อยู่แห่งใด ไปทุกที่
แม้ดวงเดือนส่องแสงที่มากมี
แสงริบหรี่ที่มีจะส่องไป

ยามทิวาจันทราหลับลับขอบฟ้า
มวลดาราก็จะอยู่ไม่ไปไหน
ยามราตรีพระจันทร์ส่องแสงไกล
ดาวทั้งหลายจะให้แสงวะวับวาว

เห็นดาวเดือนเคลื่อนไปในโพยม
ดาวคู่โสมส่องแสงล้อลมหนาว
ดาวเคียงเดือนเคลียคลอทอแสงพราว
อยู่กลางหาวห่มรักสลักทรวง

เริ่มเหมันต์วันฟ้าใสในราตรี
ฉันคนนี้อยู่ที่เก่าเหงาเหนี่ยวหน่วง
ไร้ผู้คนเคียงข้างอย่างเป็นห่วง
ใจทั้งดวงจึงเหงาหงอยและน้อยใจ

นึกอิจฉาจันทราดาราคู่
ดาวเดือนอยู่เคียงกันดูสดใส
ส่องแสงนวล...ระยิบระยับทั่วไป
แสงแขไขคู่แสงของดารา

ลมหนาวพัดเย็นเยือกจนตัวสั่น
แลเห็นจันทร์เคียงดาวเศร้านักหนา
เมื่อไหร่หนอตัวฉันจะมีคนมา
อยู่เคียงข้างกายาเหมือนเดือนดาวฯ				
11 ตุลาคม 2551 17:31 น.

เพราะว่ารักเต็มทรวง

ฝนทอง

เพราะว่ารักเต็มทรวง
จึงได้ห่วงดวงสมร
จิตใจยังอาทร
ตอนเธอจากถูกพรากไป

เพราะรักปักดวงจิต
อยากมีสิทธิ์ติดตามไป
แต่ต้องจำห่างไกล
ไม่อาจทำตามใจตน

เพราะเจียมจึงต้องเจ็บ
และหนาวเหน็บดวงกมล
ปวดแปลบดวงใจจน
ทนไม่ไหวใจเจ้ากรรม

เพราะรักปักดวงใจ
อยู่อย่างไรเมื่อใจช้ำ
ยิ่งรักยิ่งระกำ
ซ้ำถูกเย้ยเยาะเพราะรัก

เพราะว่ารักไร้สิทธิ์
ความใกล้ชิดจึงประจักษ์
ด้วยเธอแปรเปลี่ยนรัก
ปักปันใจไปจากเรา

เพราะเจ็บจึงต้องจาก
แม้รักมากเพียงแต่เขา
ขอจบความรักเรา
เอาไปเก็บกับใจตน

เพราะว่ารักเต็มทรวง
เวลาล่วงทวงอีกหน
ขาดรักจากใจคน
ที่เธอรักจงกลับมา ฯ				
5 ตุลาคม 2551 22:18 น.

โลกร้องไห้

ฝนทอง

ไร้เมตตาปรานีมีมากมาย
ล้างทำลายธรรมชาติอยู่ดาษดื่น
ทั้งทางตรงทางอ้อมพร้อมหยิบยื่น
ความขมขื่นให้กับโลกโศกโศกา

บ้างตัดไม้ทลายไพรไปหลายแห่ง
บ้างแอบแฝงทำดีเพื่อบังหน้า
อนุรักษ์ธรรมชาติสะอาดตา
สร้างเคหาเป็นรีสอร์ทบอกปลอดภัย

อ้างว่าตนเป็นคนดีมีคุณค่า
เก็บรักษาธรรมชาติอย่าสงสัย
เพียงจัดระบบนิเวศเขตอภัย
เพื่อโชคชัยสรรพสัตว์สุขสงบ

ไม่ระรานผลาญพร่าธรรมชาติ
ขยะขาดจากโลกจะไม่พบ
อ้างอวดอ้างความสะอาดต้องประสบ
หวังสยบความชั่วที่ตัวก่อ

สร้างธรรมชาติวาดความดีหนีความผิด
ด้วยความคิดพิชิตชัยใครเล่าหนอ
อ้างคุณธรรมในใจมีมากพอ
สุดท้ายก็ทำลายโลกโศกาลัย

ไร้ขยะอย่างไรใคร่อยากรู้
จะเก็บกู้ธรรมชาติกี่ยุคสมัย
ให้งดงามสมดุลอุ่นหทัย
แหล่งอาศัยบรรดาสัตว์วัฒนา

ธรรมชาติเป็นธรรมชาติที่สมบูรณ์
ไม่เสื่อมสูญสิ้นสวยไร้คุณค่า
เพราะน้ำมือมนุษย์นานา	
ที่มุ่งมาศึกษาสร้างทางของตน

บ้างสร้างเขื่อนเปลี่ยนน้ำเป็นไฟฟ้า
มหึมากักเก็บซึ่งน้ำฝน
เอาไว้ใช้อำนวยสุขผองผู้คน
ดูสุขล้นถ้วนหน้าไฟฟ้ามี

แล้วเคยนึกบ้างไหมอะไรเปลี่ยน
วังวนเวียนวัฏจักรสิ้นแล้วนี่
สิ่งเคยพบสิ่งเคยเห็นและเคยมี
มาบัดนี้ก็สูญสิ้นจากถิ่นทาง

บ้างทำลายภูเขาเอาสร้างบ้าน
ดูโอฬารโอ่อ่าและกว้างขวาง
เป็นที่อยู่ภูมิฐานดังองค์ปราง
ทำทุกอย่างเพื่อสร้างสุขแห่งตน

ไร้เมตตาปรานีมีมากมาย
ล้างทำลายธรรมชาติเสียปี้ป่น
ทั้งทางตรงทางอ้อมย้อมหลอกคน
ให้ยินยลความดีที่กระทำ

ธรรมชาติเสื่อมสูญสิ้นสุดแน่
ความปรวนแปรเปลี่ยนไปใครจักขำ
เมื่อโลกย้อนรอยให้ระกำ	
สร้างความช้ำให้บ้างเป็นอย่างไร

โถ...มนุษย์สุดโหดโกรธร้องว่า
เจ้าโลกาบ้าบิ่นไปยกใหญ่
สร้างพายุและสร้างภูเขาไฟ
แผ่นดินไหวไปทั่วปัถพี

ไร้เมตตาปรานีที่ได้พบ
พอประสบกับตนบ่นอึงมี่
ธรรมชาติเอาคืนแล้วครานี้
โถ...ชีวีคงม้วยด้วยเวรกรรม 

ไร้เมตตาปรานีมีมากมาย
ล้างทำลายธรรมชาติล่วงถลำ
ทั้งทางตรงทางอ้อมพร้อมกระทำ
ความชอกช้ำให้กับโลกโศกโศกา ฯ				
1 ตุลาคม 2551 23:46 น.

...จากไกลใจเหงา...

ฝนทอง

สุริยัน จันทรา
เมื่อจากฟ้ายังย้อนกลับ
ไปแล้วไม่ลาลับ
กลับมาเยือนยังถิ่นเดิม

แต่เธอเป็นชาวนา
ไม่กลับมายังถิ่นเดิม
จากไปหมายเพิ่มเติม
เสริมความรู้ที่เมืองกรุง

เธอคงลืมพ่อแม่
ที่เฝ้าแลทางกลางทุ่ง
รอเธอกลับจากกรุง
มุ่งมองจ้องทางกลางนา

แสงแดดที่แผดเผา
พ่อแม่เจ้าเอากายา
ต่อสู้ ฝน ลม ฟ้า
ท้าชีวิตพิชิตกรรม

ตายายสองผู้เฒ่า
ต่างรบเร้าถามประจำ
ฉันตอบอย่างระกำ
ทำใจรออีกต่อไป

มองฟ้าที่เวิ้งว้าง
เฝ้าแลทางอย่างน้อยใจ
มองฟ้าครั้งคราใด
ใจก็เหงาเฝ้าแต่คอย

สุริยัน จันทรา
เมื่อจากฟ้ายังย้อนรอย
กลับมาที่เดิมบ่อยบ่อย
ไม่ปล่อยฟ้าให้ว้าเหว่

แต่เธอเป็นชาวนา
ไม่กลับมายังเตร็ดเตร่
อยู่กรุงสนุกฮาเฮ
เสเพลเที่ยวสำราญใจ

แสงสีของเมืองหลวง
ได้เหนี่ยวหน่วงเธอเอาไว้
ได้ข่าวว่าเธอไร้
ซึ่งเพื่อนรักจากท้องนา

เขากลับเธอไม่กลับ
เธอได้รับความเมตตา
จากชายชาวเมืองฟ้า
ดูแลเธออย่างดิบดี

สงสารแต่แม่พ่อ
ที่เฝ้ารอเธออย่างนี้
รอเธอมาหลายปี
มิเคยมีวี่แววเธอ

มองฟ้าที่เวิ้งว้าง
มองดูทางนั่งรอเธอ
แววตาหมองหม่นเหม่อ
เฮ้อ ! ลูกเอ๋ยพ่อแม่รอ ฯ				
24 กันยายน 2551 20:49 น.

รักแท้แพ้อะไร

ฝนทอง

มีคนกล่าวถึงรักแท้แพ้หลายอย่าง
เป็นคำอ้างอิงเอ่ยเคยรู้ไหม
บ้างบอกรักแท้แพ้เงินไง
รักจึงได้แต่ช้ำระกำทรวง

บ้างบอกว่ารักแท้แพ้ใกล้ชิด
ต่อไม่ติดเพราะห่างไกลไม่อาจหวง
บ้างบอกว่ารักแท้แพ้ที่ดวง
รักจึงร่วงโรยร้างเหินห่างไป

บ้างบอกว่ารักแท้แพ้คารม
รักไม่สมอารมณ์รักถูกผลักไส
บ้างบอกว่ารักแท้แพ้ที่ใจ
จะใจใครก็ใจตนคนรวนเร

มีคนบอกมีรักแท้แพ้อยู่แล้ว
เพราะมีแววรักวืดถูกหักเห
มีรักแท้แพ้ง่ายเพราะทุ่มเท
ด้วยหลงเล่ห์ความรักปักฤดี

มีคนกล่าวถึงรักแท้แพ้ทางรัก
เพราะต้องหักใจลาพาตัวหนี
เพื่อหลีกทางความรักด้วยหวังดี
ให้คนที่เรารักสมอารมณ์ปอง ฯ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟฝนทอง
Lovings  ฝนทอง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟฝนทอง
Lovings  ฝนทอง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟฝนทอง
Lovings  ฝนทอง เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงฝนทอง