22 เมษายน 2549 23:11 น.
ผู้ไม่มีหัวใจ
เมื่อคราวที่แล้ว ผลการต่อสู้ปรากฏว่าท่านเสมาขุนศึกเป็นฝ่ายได้ชัยชนะ เนื่องจากบรรดาคนดูส่วนมากจะเป็นคนไทยกัน ก็เลยทำให้ท่านเหล็งฮู้ต้องพ่ายแพ้ไป แต่ไม่เป็นไรครับ แพ้เป็นหลวงจีน ชนะเป็นพรรคมาร
โฆษกสนามประกาศว่า สวัสดีพี่น้องชาวไทยโพดำทุกท่าน วันนี้นะครับเราจะได้ชมคู่ต่อสู้ที่มีลีลาสูสี อายุก็สูสี มีเมียมากก็สูสี ก็จะได้รู้กับไปสักทีว่าใครจะแน่กว่าใคร
นักสู้คนแรก เป็นนักสู้สมัยศตวรรษที่ 21 แต่มาดังในสมัยจิ่นซี ผู้หญิงที่ฝ่านทางหรือพบหน้า เมื่อได้เห็นหน้าเขา หุ่นเขา ลีลาการพูดการจากของเขาแล้ว มักจะเสร็จเขาเสมอๆ และที่สำคัญ เพลงกระบี่ม๊อจิ๊อ ของเขา 13 เพลงทำให้เขาได้ผงาดในยุคจิ๋น เขาก็คือ ท่านเซี่ยงเส้าหลงๆ ใช้วิชาตัวเบา ออกมายืนยิ้มอยู่บนเวที ขอให้ทุกคนปรบมือด้วยครับ
ว่าแล้วคนดูและตัวท่านผู้อ่านก็ปรบมือเกรียวกราว บางท่านยังมีความป่าเถิ่อนอยู่ก็ใช้การโห่ฮาป่า และแล้วพิธีกร ก็ชูมือเป็นสัญญลักษณ์ให้ทุกคนเงียบ นักสู้คนต่อไป เป็นศิษย์เอกแห่งกุโสดอ และ ตาคะยีครูดาบ หน้าตาสุดหล่อ คารมคมคาย และสาวๆเพียบ เขาก็คือ จะเด็ด ผู้ชนะสิบทิศ
ทันใดนั้นเองผู้ชนะสิบทิศก็ขึ้น บรรดาผู้บังคับบัญชา หัวหน้าส่วนราชการ ก็พร้อมใจกันร้องเพลงนี้ ทำให้ในสนามประลองนั้นสนุกครึ๊กครื้นยิ่ง เจ้าจะเด็ดตัวสำคัญ ก็โพกผ้า ถือดาบออกมาอย่างสง่าผ่าเผยจนกระทั่งขึ้นมาบนเวที
นักสู้ทั้งสองต่างมองหน้ากัน แล้วแต่ละคนก็ชักดาบอย่างพร้อมเพรียง แต่ทว่าคนดูทั้งหมดจะเห็นได้ว่า ขาทั้งสองข้างของทั้งสองคน นั้นสั่นอยู่พั่บๆ นั่นย่อมแสดงว่าผู้กล้าทั้งสองไม่เห็นความตายเป็นอ่ย่างไร คือเห็นการตายเหมือนการกับสู่มาตุภูมิ แต่ผมว่านั่นคือคนที่คิดมองโลกในแง่ดี แต่ถ้ามองโลกในแง่ร้ายบ้าบงแล้วจะเห็นได้ว่า ทั้งสองนี้เป็นตัวเอาจริงๆ แม้จะต้องเสี่ยงชีวิตแล้วก็ขอขอมเสียวก่อนที่จะมาเสี่ยงกัน เอ้าละครับไม่พูดแล้ว ขอเชิญจวกกันได้เลยครั
ว่าแล้วทั้งสองก็วิ่งเข้าใส่กัน แต่อนิจจาครับทั้งสองคนสะดุดผินผ้าบนเวทีล้มลงพร้อมๆกัน กรรมการมองหน้ากรรมการใหญ่ แล้วก็เรียกกรรมการบนเวทีเข้าไปหารือ แล้วก็พยักหน้า กรรมการบนเวทีก็เลยมาถือไมค์ประกาศดังต่อไปนี้
กราบเรียนท่านพี่น้องที่เคารพ การชกระหว่าง ท่านเซี่ยง กับ ท่านมังฉงาย นี้ทางสนามไม่สามารถตัดสินได้ เนื่องจากทั้งสองล้มมวยทั้งคู่ ต่อสู้ไมสมศักดิ์ศรี และนอกจากนั้น ยังใช้ความเขี้ยวของตน มาหลอกลวงคนดู ดังนั้นจึงของให้ท่านได้สละเวทีออกไป
เซี่ยวออกไป ๆ มังฉงายออกไป ๆ ๆๆๆๆๆ
จะเห็นได้ว่า การที่มีเมียมากแล้วไม่บันยะบันยังบ้าง ก็ทำให้เสียชื่อเสียเสียง เสียโอกาศ เสียแรง และเสียอื่นๆอีกมากมาย
วันนี้แม้จะไม่มัน แต่อย่างไรก็ตาม วันหน้าจะเจอกันอีกครับ ขอบคุณที่ติดตามครับ
19 เมษายน 2549 21:07 น.
ผู้ไม่มีหัวใจ
เรื่องราวของพระเอกนานาชาติ 19042549
ผู้ไม่มีหัวใจ
เรื่องราวของพระเอกนานาชาติ
ผู้ไม่มีหัวใจ
พระเอกกระบี่เย้ยยุทธจักร ขณะกำลังนั่งโซ้ยสุรานารีแดง ก็บังเอิญให้เหลือบแลเห็นเจ้ามังฉงายผ่านมา ก็เลยทักเข้าว่า ไงท่านเกลอมังฉงายจะรีบร้อนไปไหนหรือท่าน เจ้าจะเด็ดผู้ชนะสิบทิศ ก็ทักทายตอบว่า เออเกลอเรา เรากำลังจะหลบเจ้าสอพินยาจากตองอู
เหล็งฮู้ชง ก็เลยเชิญเจ้ามังฉงายมานั่งร่ำสุรานารีแดง
เจ้าจะเด็ดความจริงไม่ชอบดื่ม ชอบแต่หลีอย่างเดียว บอกปัดน่าเกลียดจึงยอมทนอยู่ แต่ก็ระแวงว่า ไอ้คนคู่แค้นจะตามมา
จอมยุทธเหล็ง เห็นก็หัวเราะว่า ท่านมัง ท่านจะไปกังวลทำไม ผู้ไม่มีหัวใจเขาเขียนเรื่องนี้ขึ้น ให้ชื่อว่า เรื่องราวของพระเอกนานาชาติ ดังนั้นไม่มีตัวร้ายหรอง
เจ้าจะเด็ดรับฟังก็หันหน้าขึ้นมาถามคนไม่มีหัวใจๆก็ตอบว่า เป็นอย่างนั้นจริงๆ เจ้าจะเด็ดเลยยกเหล้าให้แก่ผู้ไม่มีหัวใจจอกหนึ่ง แต่ผู้ไม่มีหัวใจ กล่าวขอบคุณ เนื่องจากกำลังพิมพ์เรื่องของพวกท่านอยู่
ทั้งสองจึงกลับเข้าสู่เรื่องของมันต่อไป
จะเด็ดเริ่มคุยว่า ได้ข่าวว่า ท่านรักแล้วศิษย์น้องท่านไม่รัก ท่านจึงต้องเสพสุราจนเมามาย
เหล็งฮู้ชงตอนนี้เมามายแล้ว หลี่ตาพยักหน้าแล้วส่งเสียงอ้อแอ้ว่า จริงอยู่นะท่าน วันนี้ท่านมาก็ดีแล้ว ท่านจงบรรยายให้ข้าฟังหน่อยว่าท่านทำอย่างไร ถึงมีสาวๆหลงท่านเต็มแดนพุกามประเทศ
เจ้าจะเด็ดหัวร่อ งอหาย แล้วว่า ปู้ดโธ่ ไม่ใช่เรื่องยากอะไร แล้วจะเด็ดก็สาธยายไปเรื่อยๆจนกระทั่ง จอมยุทธจีน ยกมือว่า เดี๋ยวๆท่าน ข้าว่าท่านอย่ายกแม่น้ำทั้งห้า จนยาวยืดเลย เอาแบบสรุปๆได้ไหม เพราะตอนนี้ข้าฟังแล้วเวียนหัวมาก
จะเด็ดก็ว่า อะไม่ได้ซิท่าน ลีลาของจะเด็ดก็เป็นอย่างนี้แหละ น้ำท่วมทุ่ง จนคนฟังงง แล้วก็เคลิ้มตามเองแบบงง
จอมยุทธกระโดดขึ้น สุดตัว ตะโกนร้องว่า ไอซี ๆ แล้วก็วิ่งจากไป
เจ้าจะเด็ดส่ายหน้า กูว่าแล้วมันต้องมาแบบนี้อีกแล้ว ไอ้พวกจอมยุทธ กินแล้วชอบชักดาบ ว่าแล้วเจ้าจะเด็ดก็จ่ายค่าเหล้าแล้วเดินออกจากร้านมา
เดินมาได้สักพัก เอาละวะเจอเข้าแล้ว พระเอกจากเรื่องเจาะเวลาหาจิ๋นซี เซียงเส้าหลง ไอ้นีก็จอมยุทธเหมือนกัน ดังนั้นต้องระวังมันจะชักดาบเอาอีก
(เรื่องราวจะเป็นอย่างไรไม่มีใครทราบ โปรดติดตาม ไม่เกินสัปดาห์หน้า รับประกัน สาบาน)
ว่าไงท่านเส้า ดูท่าท่านจะรีบร้อนยังไงยังไงอยู่นา
อ้า ท่านจเด็ด ไม่เจอนานคิดถึงจัง
จะเด็ดก็เอามือลูบหนวดแล้วก็หัวเราะฮาๆ แล้วกล่าวว่า ข้าคิดว่าเจ้านะยิ่งกว่าข้าที่ได้ชื่อว่าผู้ชนะสิบทิศอีก
เซี่ยงเส้าหลง ทำท่าทางไม่รู้เท่า แล้วว่าแก่จะเด็ดว่า ข้าคงจะอยู่คุยกับเจ้ามากไม่ได้จะต้องรีบไปรับเด็กใหม่
อิ้อฮิอ ท่านเส้าหลง ข้านับถือด้วยความจริงใจ
ท่านก็กล่าวเกินไป ว่าแล้วก็ใช้วิชาตัวเบากระโดดสามวูบก็หายสาบสูญไป
ว่าแล้วเจ้ามังฉงายก็เริ่มไปวางแผนบุกประเทศไทยต่อไป
กล่าวถึง เจ้าเสมา เรื่องขุนศึก ณ ตอนนั้นหลังจากที่ได้ย่องออกจากห้องของแม่หญิงเรไรแล้วก็ค่อยๆเดินกลับบ้าน ท่าทางจะกระปกกระเปลี้ยอยู่บ้าง ก็พอดีพบกับ เซียวฮื้อยี้ และ บ่อข่วย นั่งก๊งสุราอยู่ เจ้าเสมาก็เลยเข้าไปถามว่า เอ้าพี่ท่านสบายดีเหรอ ทั้งสองพี่น้องเห็นไอ้เจ้าเสมาทักทายก็ทักทายตอบ ว่า มาๆเชิญนั่งท่านเสมา ไปไหนมาหละ เสมาก็อึกอักๆแต่ยังไม่ยอมตอบ สองพี่น้องเห็นก็หัวเราะงอหายแล้วกล่าวว่า ไม่ต้องอายพวกเราหรอพี่เสมา พวกเราสองพี่น้องรู้ดีว่าพี่ไปทำไรมา มาๆพี่มาซดกันซักจอกสองจอกก่อน แต่เสมาเนื่องจากวันรุ่งขึ้นต้องไปออกศึก ดังนั้นจึงขออนุญาต กลับบ้านก่อน ทั้งสองจอมยุทธเห็นดังนั้นก็ไม่ว่าอะไร วิถึคิดของคนแต่ละคนยากหยั่ง แต่ละคนมีอุดมการณ์ ใยต้องขัดขวางกัน ทั้งสองจอมยุทธกล่าวว่า พบกันใหม่ก็แล้วกันจะพี่ท่าน
เจ้าเสมา ก็ยิ้มแล้วโบกมือ วิ่งหายไปในความมืด
เซียวฮิ้ยยี้ คุยกับบ่อข่วยต่อว่า เอพี่เรื่องนี้นี่ไม่ค่อยมีสาระเลยนะพี่
บ่อข่วยว่า เออ ข้าก็คิดแบบเดียวกะเอ็งเหมือนกันละว่ะ
เอไอ้เจ้าคนเขียนเนี่ยะ วันๆมันคิดแต่เรื่องนี้อย่างเดียวจริงๆหรือ
ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงของผู้ไม่มีหัวใจ ตอบว่า ตอนนี้มันเกริ่นนำโว้ย เข้าใจไหม เข้าใจไหม
ทั้งสองจอมยุทธได้ยินดังนั้น ก็เริ่มรู้แล้วว่า ผู้ไม่มีหัวใจ เริ่มฉุน แล้วดังนั้นขยิบตาแล้วตีลังกากลางอากาศหลบหนีไป
(ตอนต่อไป อีกไม่นานนะครับ)
19042549
บทที่ 1 การละเลงเพลงดาบ
พวกเรานักอ่านทั้งหลายก็รู้อยู่ว่าพระเอกของเราแต่ละคนนั้นมีฝีมือดาบชั้นพระกาฬเรียกพี่ทุกท่าน และในวันนี้เราจะได้มาชมกันว่าเพลงดาบของใครมันจะเจ๋งมากกว่ากัน
ผู้ไม่มีหัวใจได้รับเชิญมาเป็นกรรมการตัดสินในวันนี้ ผู้ไม่มีหัวใจแต่งกายด้วยสูทอย่างดี หวีผมเรียบ ก้าวเดินออกไป บนเวทีแล้วเริ่มกราบเรียนต่อท่านผู้ชมว่า ท่านสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษครับ ณ บัดนี้เราจะได้พบกับการต่อสู้ของพระเอกจอมยุทธ ในวันนี้ 2 ท่าน ท่านแรก ท่านเป็นนักดาบจอมเมามาย ท่านเหล็งฮู้ชม แห่งสำนักหัวซาน ว่าแล้ว ท่านเหล็งฮู้ชง ก็เดินเซซัดโซออกมาจากทางออกนักกีฬา เสียงคนที่ชอบอ่านเรื่องกระบี่เย้ยยุทธจักร ก็ตบมือกันสนั่นเกรียวกราว พระเอกของเราหัวเราะในใจว่าแล้วก็กระโดดตีลังกา 3 รอบ ใส่เกลียวอีก ครึ่งเกลียวแล้วลงมายืนอย่างมั่นคงบนเวที บรรดาผู้ชมต่างเงียบกริบเนื่องจากรอผลการให้คะแนนจากกรรมการริมเวที เมื่อกรรมการทุกท่านได้ชูป้ายคะแนน ปรากฏว่าทุกท่านให้ 10 หมาดเลย คนดูก็ตบมือเป่าปากแสดงความยินดีกันลั่นเวที
และแล้วผู้ไม่มีหัวใจก็กระแอมไออยู่หลายครั้ง จนกระทั่งคนดูเงียบ ทุกคนเผ้าฟังว่าคู่ต่อสู้ของเหล็งฮู้ชงจะเป็นใครด้วยใจจดจ่อ
เรียนท่านผู้ชม ต่อไป เป็นคู่ต่อสู้ที่น่าจะเหมาะสมด้วยกันทั้งปวง นั่นก็คือ ท่านขุนศึก หรือ ท่านเสมา
เมื่อผู้ชมได้ยิน ดังนั้น ด้วยความรู้สึกรักชาติอย่างรุนแรง ก็เลยตบมือกันจนกระทั่งพลังเสียงที่ตบทำให้คนชมเกือบจะทนทานไม่ได้
ทันใดนั้นเองท่านเสมาก็แต่งตัวออกมาในชุดของยขุนศึกไทย ดาบคู่ที่สพายอยู่กลางหลังนั้นอันเบ้อเริ่ม แม้จะไม่มีกำลังภายในแบบพระเอกในนวนิยายจีนแต่เสมาก็ยังมีอาคมอยู่
คนดูต่างพากันปรบมือจนกระทั่งท่านเสมาได้ขึ้นเวทีเรียบร้อย
ยกที่ 1 เริ่มแล้วครับ
เหล็งฮู้ชงชักกระบี่ของมันออก ปลายชี้เฉียงลงเบื้องล่าง ปลายกระบี่ยังคงแน่วนิ่งไม่สั่นไหว
ฝ่ายเจ้าเสมา ใช้มือทั้งสองข้าง ชักดาบที่สพายกลางหลังออกมาอย่างรวดเร็วและสวยงาม เสียงลมเมื่อวาดดาบมาตั้งท่าคุมนั้นดังหวีดหวิว ทำให้คนดูพลอยรู้สึกเสียวสยิวไปทุกรูขุมขน
และแล้วเจ้าเสมาก็กล่าวว่า ท่านเหล็งเชิญ
เหล็งฮู้ชง ผงกหัวนิดเดียวแล้วก็เริ่มท่าแรกในเพลง กระบี่หัวซาน ฝ่ายเจ้าเสมาก็กระโดดเข้าไปในเงาร่างของเจ้าเหล็งฮู้ชง ในม่านเงาพร่าพรายของท่าร่างของคนทั้งสองดูไป คลับคล้ายกับลมบ้าหมู 2 ลูกที่หมุนบิดไขวัไปมา เสียงดาบที่ประทะกันดังเช้งช้าง ประกายไฟย่งมาดังกับหม้อดอกไม้ไฟที่พวยพุ่งออกรอบข้าง
ฝ่ายคนดูทีแรกก็ตั้งใจดู แต่เนื่องจากความเร้วของทั้งสอง จึงทำให้ดูไม่ทันแต่ก็นั้งลุ้นนิ่งเงียบหมดทั้งเวที
เมื่อผ่านไปได้ราวสัก 30 นาที เงาร่างของคนทั้งสองก็เริ่มปรากฏแล้ว เหล็งฮู้ชงยืนเหมือนท่าตอนแรกแต่ทว่าขาสั่นเล็กน้อย ขณะที่เจ้าเสมา เหงื่อกาฬไหลถะถั่งออกจากใบหน้าและแขนเหมือนกับอาบน้ำแต่ไม่มีอาการหอบ จากนั้นเจ้าเสมาจึงกล่าวต่อท่านเหล็งฮู้ชงว่า เพลงกระบี่หัวซาน 13 ท่าอันยอดเยี่ยมนัก ฝ่ายเล่งฮู้ชงก็เอื้อนเอ่ยออกมาบ้างว่า เพลงดาบสำนักพุทธไธสวรรค์ของท่าน ไม่เสียทีที่เลื่องลือวันนี้ได้เปิดหูเปิดตามากแล้ว ละแล้วทั้งคู่ก็เก็บดาบกระบี่เข้าฝักและรอผลการตัดสิน
เนื่องจากรายการนี้มันคล้ายกับรายการ เดอะสตาร์ ดังนั้นจึงต้องให้ท่านผู้อ่านได้กรุณาช่วยกันตัดสินว่าจะให้ใครชนะ ซึ่งผู้ไม่มีหัวใจจะได้ประกาศให้ทราบก่อนที่จะเริ่มการเข่งขันคู่ที่สองต่อไป
การแข่งขันคู่ที่สองใครจะแข่งกับใคร และจะมันเร้าใจแค่ไหนโปรดติดตามด้วยความระทึกใจต่อไป ไม่นาน
ในครั้งหน้าผมจะไม่เท้าความยาวอีกแล้วจะเริ่มขึ้นบทที่สองเลย
วันนี้พักก่อนครับ เจอกันใหม่ครับ
14 เมษายน 2549 22:34 น.
ผู้ไม่มีหัวใจ
เรื่องราวของพระเอกนานาชาติ
ผู้ไม่มีหัวใจ
พระเอกกระบี่เย้ยยุทธจักร ขณะกำลังนั่งโซ้ยสุรานารีแดง ก็บังเอิญให้เหลือบแลเห็นเจ้ามังฉงายผ่านมา ก็เลยทักเข้าว่า ไงท่านเกลอมังฉงายจะรีบร้อนไปไหนหรือท่าน เจ้าจะเด็ดผู้ชนะสิบทิศ ก็ทักทายตอบว่า เออเกลอเรา เรากำลังจะหลบเจ้าสอพินยาจากตองอู
เหล็งฮู้ชง ก็เลยเชิญเจ้ามังฉงายมานั่งร่ำสุรานารีแดง
เจ้าจะเด็ดความจริงไม่ชอบดื่ม ชอบแต่หลีอย่างเดียว บอกปัดน่าเกลียดจึงยอมทนอยู่ แต่ก็ระแวงว่า ไอ้คนคู่แค้นจะตามมา
จอมยุทธเหล็ง เห็นก็หัวเราะว่า ท่านมัง ท่านจะไปกังวลทำไม ผู้ไม่มีหัวใจเขาเขียนเรื่องนี้ขึ้น ให้ชื่อว่า เรื่องราวของพระเอกนานาชาติ ดังนั้นไม่มีตัวร้ายหรอง
เจ้าจะเด็ดรับฟังก็หันหน้าขึ้นมาถามคนไม่มีหัวใจๆก็ตอบว่า เป็นอย่างนั้นจริงๆ เจ้าจะเด็ดเลยยกเหล้าให้แก่ผู้ไม่มีหัวใจจอกหนึ่ง แต่ผู้ไม่มีหัวใจ กล่าวขอบคุณ เนื่องจากกำลังพิมพ์เรื่องของพวกท่านอยู่
ทั้งสองจึงกลับเข้าสู่เรื่องของมันต่อไป
จะเด็ดเริ่มคุยว่า ได้ข่าวว่า ท่านรักแล้วศิษย์น้องท่านไม่รัก ท่านจึงต้องเสพสุราจนเมามาย
เหล็งฮู้ชงตอนนี้เมามายแล้ว หลี่ตาพยักหน้าแล้วส่งเสียงอ้อแอ้ว่า จริงอยู่นะท่าน วันนี้ท่านมาก็ดีแล้ว ท่านจงบรรยายให้ข้าฟังหน่อยว่าท่านทำอย่างไร ถึงมีสาวๆหลงท่านเต็มแดนพุกามประเทศ
เจ้าจะเด็ดหัวร่อ งอหาย แล้วว่า ปู้ดโธ่ ไม่ใช่เรื่องยากอะไร แล้วจะเด็ดก็สาธยายไปเรื่อยๆจนกระทั่ง จอมยุทธจีน ยกมือว่า เดี๋ยวๆท่าน ข้าว่าท่านอย่ายกแม่น้ำทั้งห้า จนยาวยืดเลย เอาแบบสรุปๆได้ไหม เพราะตอนนี้ข้าฟังแล้วเวียนหัวมาก
จะเด็ดก็ว่า อะไม่ได้ซิท่าน ลีลาของจะเด็ดก็เป็นอย่างนี้แหละ น้ำท่วมทุ่ง จนคนฟังงง แล้วก็เคลิ้มตามเองแบบงง
จอมยุทธกระโดดขึ้น สุดตัว ตะโกนร้องว่า ไอซี ๆ แล้วก็วิ่งจากไป
เจ้าจะเด็ดส่ายหน้า กูว่าแล้วมันต้องมาแบบนี้อีกแล้ว ไอ้พวกจอมยุทธ กินแล้วชอบชักดาบ ว่าแล้วเจ้าจะเด็ดก็จ่ายค่าเหล้าแล้วเดินออกจากร้านมา
เดินมาได้สักพัก เอาละวะเจอเข้าแล้ว พระเอกจากเรื่องเจาะเวลาหาจิ๋นซี เซียงเส้าหลง ไอ้นีก็จอมยุทธเหมือนกัน ดังนั้นต้องระวังมันจะชักดาบเอาอีก
(เรื่องราวจะเป็นอย่างไรไม่มีใครทราบ โปรดติดตาม ไม่เกินสัปดาห์หน้า รับประกัน สาบาน)
ว่าไงท่านเส้า ดูท่าท่านจะรีบร้อนยังไงยังไงอยู่นา
อ้า ท่านจเด็ด ไม่เจอนานคิดถึงจัง
จะเด็ดก็เอามือลูบหนวดแล้วก็หัวเราะฮาๆ แล้วกล่าวว่า ข้าคิดว่าเจ้านะยิ่งกว่าข้าที่ได้ชื่อว่าผู้ชนะสิบทิศอีก
เซี่ยงเส้าหลง ทำท่าทางไม่รู้เท่า แล้วว่าแก่จะเด็ดว่า ข้าคงจะอยู่คุยกับเจ้ามากไม่ได้จะต้องรีบไปรับเด็กใหม่
อิ้อฮิอ ท่านเส้าหลง ข้านับถือด้วยความจริงใจ
ท่านก็กล่าวเกินไป ว่าแล้วก็ใช้วิชาตัวเบากระโดดสามวูบก็หายสาบสูญไป
ว่าแล้วเจ้ามังฉงายก็เริ่มไปวางแผนบุกประเทศไทยต่อไป
กล่าวถึง เจ้าเสมา เรื่องขุนศึก ณ ตอนนั้นหลังจากที่ได้ย่องออกจากห้องของแม่หญิงเรไรแล้วก็ค่อยๆเดินกลับบ้าน ท่าทางจะกระปกกระเปลี้ยอยู่บ้าง ก็พอดีพบกับ เซียวฮื้อยี้ และ บ่อข่วย นั่งก๊งสุราอยู่ เจ้าเสมาก็เลยเข้าไปถามว่า เอ้าพี่ท่านสบายดีเหรอ ทั้งสองพี่น้องเห็นไอ้เจ้าเสมาทักทายก็ทักทายตอบ ว่า มาๆเชิญนั่งท่านเสมา ไปไหนมาหละ เสมาก็อึกอักๆแต่ยังไม่ยอมตอบ สองพี่น้องเห็นก็หัวเราะงอหายแล้วกล่าวว่า ไม่ต้องอายพวกเราหรอพี่เสมา พวกเราสองพี่น้องรู้ดีว่าพี่ไปทำไรมา มาๆพี่มาซดกันซักจอกสองจอกก่อน แต่เสมาเนื่องจากวันรุ่งขึ้นต้องไปออกศึก ดังนั้นจึงขออนุญาต กลับบ้านก่อน ทั้งสองจอมยุทธเห็นดังนั้นก็ไม่ว่าอะไร วิถึคิดของคนแต่ละคนยากหยั่ง แต่ละคนมีอุดมการณ์ ใยต้องขัดขวางกัน ทั้งสองจอมยุทธกล่าวว่า พบกันใหม่ก็แล้วกันจะพี่ท่าน
เจ้าเสมา ก็ยิ้มแล้วโบกมือ วิ่งหายไปในความมืด
เซียวฮิ้ยยี้ คุยกับบ่อข่วยต่อว่า เอพี่เรื่องนี้นี่ไม่ค่อยมีสาระเลยนะพี่
บ่อข่วยว่า เออ ข้าก็คิดแบบเดียวกะเอ็งเหมือนกันละว่ะ
เอไอ้เจ้าคนเขียนเนี่ยะ วันๆมันคิดแต่เรื่องนี้อย่างเดียวจริงๆหรือ
ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงของผู้ไม่มีหัวใจ ตอบว่า ตอนนี้มันเกริ่นนำโว้ย เข้าใจไหม เข้าใจไหม
ทั้งสองจอมยุทธได้ยินดังนั้น ก็เริ่มรู้แล้วว่า ผู้ไม่มีหัวใจ เริ่มฉุน แล้วดังนั้นขยิบตาแล้วตีลังกากลางอากาศหลบหนีไป
(ตอนต่อไป อีกไม่นานนะครับ)
13 เมษายน 2549 09:41 น.
ผู้ไม่มีหัวใจ
พระเอกกระบี่เย้ยยุทธจักร ขณะกำลังนั่งโซ้ยสุรานารีแดง ก็บังเอิญให้เหลือบแลเห็นเจ้ามังฉงายผ่านมา ก็เลยทักเข้าว่า ไงท่านเกลอมังฉงายจะรีบร้อนไปไหนหรือท่าน เจ้าจะเด็ดผู้ชนะสิบทิศ ก็ทักทายตอบว่า เออเกลอเรา เรากำลังจะหลบเจ้าสอพินยาจากตองอู
เหล็งฮู้ชง ก็เลยเชิญเจ้ามังฉงายมานั่งร่ำสุรานารีแดง
เจ้าจะเด็ดความจริงไม่ชอบดื่ม ชอบแต่หลีอย่างเดียว บอกปัดน่าเกลียดจึงยอมทนอยู่ แต่ก็ระแวงว่า ไอ้คนคู่แค้นจะตามมา
จอมยุทธเหล็ง เห็นก็หัวเราะว่า ท่านมัง ท่านจะไปกังวลทำไม ผู้ไม่มีหัวใจเขาเขียนเรื่องนี้ขึ้น ให้ชื่อว่า เรื่องราวของพระเอกนานาชาติ ดังนั้นไม่มีตัวร้ายหรอง
เจ้าจะเด็ดรับฟังก็หันหน้าขึ้นมาถามคนไม่มีหัวใจๆก็ตอบว่า เป็นอย่างนั้นจริงๆ เจ้าจะเด็ดเลยยกเหล้าให้แก่ผู้ไม่มีหัวใจจอกหนึ่ง แต่ผู้ไม่มีหัวใจ กล่าวขอบคุณ เนื่องจากกำลังพิมพ์เรื่องของพวกท่านอยู่
ทั้งสองจึงกลับเข้าสู่เรื่องของมันต่อไป
จะเด็ดเริ่มคุยว่า ได้ข่าวว่า ท่านรักแล้วศิษย์น้องท่านไม่รัก ท่านจึงต้องเสพสุราจนเมามาย
เหล็งฮู้ชงตอนนี้เมามายแล้ว หลี่ตาพยักหน้าแล้วส่งเสียงอ้อแอ้ว่า จริงอยู่นะท่าน วันนี้ท่านมาก็ดีแล้ว ท่านจงบรรยายให้ข้าฟังหน่อยว่าท่านทำอย่างไร ถึงมีสาวๆหลงท่านเต็มแดนพุกามประเทศ
เจ้าจะเด็ดหัวร่อ งอหาย แล้วว่า ปู้ดโธ่ ไม่ใช่เรื่องยากอะไร แล้วจะเด็ดก็สาธยายไปเรื่อยๆจนกระทั่ง จอมยุทธจีน ยกมือว่า เดี๋ยวๆท่าน ข้าว่าท่านอย่ายกแม่น้ำทั้งห้า จนยาวยืดเลย เอาแบบสรุปๆได้ไหม เพราะตอนนี้ข้าฟังแล้วเวียนหัวมาก
จะเด็ดก็ว่า อะไม่ได้ซิท่าน ลีลาของจะเด็ดก็เป็นอย่างนี้แหละ น้ำท่วมทุ่ง จนคนฟังงง แล้วก็เคลิ้มตามเองแบบงง
จอมยุทธกระโดดขึ้น สุดตัว ตะโกนร้องว่า ไอซี ๆ แล้วก็วิ่งจากไป
เจ้าจะเด็ดส่ายหน้า กูว่าแล้วมันต้องมาแบบนี้อีกแล้ว ไอ้พวกจอมยุทธ กินแล้วชอบชักดาบ ว่าแล้วเจ้าจะเด็ดก็จ่ายค่าเหล้าแล้วเดินออกจากร้านมา
เดินมาได้สักพัก เอาละวะเจอเข้าแล้ว พระเอกจากเรื่องเจาะเวลาหาจิ๋นซี เซียงเส้าหลง ไอ้นีก็จอมยุทธเหมือนกัน ดังนั้นต้องระวังมันจะชักดาบเอาอีก
(เรื่องราวจะเป็นอย่างไรไม่มีใครทราบ โปรดติดตาม ไม่เกินสัปดาห์หน้า รับประกัน สาบาน)
13 เมษายน 2549 09:19 น.
ผู้ไม่มีหัวใจ
ปีหนึ่งในอดีต ซึ่งผมนั่งคิดย้อนกลับไป ก็พบเรื่องราวหนึ่ง ในท่ามกลางป่าเขา แก่งน้ำเหือง แม่น้ำโขง ประเทศลาว ซึ่งทำให้ได้รับความรู้ซึ้งแก่ใจประดับสติปัญญา นั่นก็คือ ความรัก ครับ
แม้เราจะได้เตรียมตัวเตรียมใจดีแล้วที่จะไม่รัก แต่ก็รักจนได้
เธอชื่อว่า พิสมัย อายุน้อยกว่า 12 ปี อาชีพเสริมสวย หะแรกผมไม่ได้คิดว่าจะจีบเนื่องจากว่าผมมีครอบครัวแล้ว แต่ทว่าจากความหึงหวงของแฟนเธอ และจะทำร้ายผม ผมก็เกิดความแค้นที่จะครอบครองตัวเธอ แกล้งไอ้หมอนั่นมันเล่น
ความที่ว่า นั่งดูย่อมเห็นดีกว่านั่งเล่นเอง การที่คิดลองเล่นๆดู ก็กลับทำให้มีกลเม็ดเด็ดพรายเยอะแยะกว่าที่จะตั้งใจจริง แล้วก็เรียบร้อย
อยู่กันได้ไม่นาน ก็ต้องย้ายที่ทำงาน แต่ก็ไม่คิดทอดทิ้ง ผมได้ตั้งใจพาเธอมากราบไหว้เมียหลวง แต่ทว่า กลับทำให้ภรรยาต้องเข้าโรงพยาบาล เจ็บปวดใจมาก รักก็รัก แต่การที่ได้ลำบากมาด้วยกันนั้นมีภาษีมากกว่า ดังนั้น จึงต้องใจแข็ง แต่อย่างไรก็ตาม ผมได้บอกเธอไปก่อนล่วงหน้าแล้ว หากจะต้องมีการเลือกผมก็จะเลือกเพียงหนึงเดียว
ปัจจุบัน ปากหมันก็ยังคงเป็นปากหมัน น้ำเหืองก็ยังคงให้เห็นเป็นแค่ภาพอยู่ในใจ สิ่งต่างๆที่ทำไว้ในอดีต ได้ผุดย้อนขึ้นมาในความคิด ประดุจแก่งน้ำเหืองที่ไหลเชี่ยวใสเย็น ในเดือนก่อนพฤษภาคม และขุนช้ำหลังพฤษภาคมของทุกปี
แต่อย่างว่าครับ ต่างคนต่างเศร้าเสียใจ แต่ต่างคนค่างก็เข้าใจ ทิ้งไว้แต่บทกลอนภาคภาษาจีนและไทยเอาไว้อ่านเล่น ซึ่งมันก็เป็นเหมือนกับโชคชะตาที่พยากรณ์ไว้ล่วงหน้า ซึ่งใครจะคิดว่าจะเป็นไปตามนั้นจริงๆ
ในจังหวัดเลย ผมได้ท่องเที่ยวไปในสระบัวใหญ่ ไหว้พระศรีสองรักษ์ เที่ยวแก่งต่างๆใน จังหวัด รวมกระทั่งถึงเดินขึ้นเดินเที่ยวเดินลงภูเรือ อากาศที่เย็นเจี๊ยบจับใจ และขี่มอเตอร์ไซด์ฝ่าลมหนาวจนกระทั่งปากเบี้ยว และมือแข็งด้วยความเย็น นอกจากนั้นยังมีการขี่มอเตอร์ไซด์หนีพายุฝน รวมทั้ง การขับรถเบรคแตกที่ทางลงของร่มเกล้า ไหว้เจดีย์ศรีสองรัก ชื่อดี แต่ไม่มีวาสนาต่อกันนานกว่านั้น สุดท้าย ก็ต้องยำเหล้าที่กินไปแล้วไปคุยได้