3 มิถุนายน 2549 02:03 น.
ผู้ไม่มีหัวใจ
ผมเฝ้ามองออกไปในทุกค่ำคืน
เห็นแต่ความมืดและ สีสรรของไฟที่ประดับร้านอาหารริมน้า
กลิ่นดินลอยฟุ้งในตอนกลางคืน
เสียงรถไฟจะมาทุกระยะและทำให้บ้านขาวริมน้ำสั่นไหว
ยามนี้ไม่มีอะไรดีเท่าดีดกีต้าร์และดื่มสุรา
เพลง สติล ก๊อต เดอะ บลู ของแกรี มัว ก็ทำให้ยิ่งคลึ้มยิ่งขึ้น
หรือ รัก ใน ซี เมเจอรื ของ แกรนเอ้กซ์ ก็ซาบซ่าน
ต่อด้วย ดอน สอนระเบียบ ใน ดาวประดับใจ
ว๊อตก้าน้ำส้มเย็นๆ ตอปิโดน๊อกเอ้าท์ ก็ได้ หรือ เหล้าผสมโซดา ก้สมใจแล้ว
ราตรีเลื่อนล่วงไวว่องยิ่ง ไม่ทันไรก็ตีสองแล้ว
ผมไม่ได้อยากหลับไหล แต่ทว่าหนังตาบนไม่อาจค้างได้อีกต่อไป
เป็นดังนี้ทุกค่ำคืน
3 มิถุนายน 2549 01:33 น.
ผู้ไม่มีหัวใจ
ยามเมื่อ สบู่หมด แล้วลืมซื้อสบู่
ก็จะเห็นคุณค่าของสบู่ทันทีเมื่อตอนอาบน้ำ
มีแต่ใจแย็งเท่านั้นที่จะทำให้สิ่งที่ทำพลาดไปแล้วได้จบลงไป
ยามเมื่อ ดื่มสุราเหล้าเบียร์ จนเมามาย
หากยังมีเหล้าสุราเบียร์เหลือ ก็อย่าพิไลต้องหมด
ถ้าทุกขวดหมดแล้ว คนกินจะอยู่ไหวฤา
ดังนั้นกินทิ้งขว้างบ้างก็ได้
ทำงานก็หวังให้นายลูกน้องรักนับถือ
หากแต่ความไม่เก่งก็สอนได้ ความเก่งก็ชื่นชมให้
แต่ความเขี้ยวและจิตใจโสมม นี่มันรับไม่ได้จริงๆ
ยามจาก ก็คิดถึงรสรัก อาจจะเสียดายในตอนคิดถึง
แต่อย่างนี้แหละดีแล้ว โอกาสที่คนจะมีโอกาสตามที่ตนเองต้องการมีไม่มาก
และเมื่อได้กลับคืนมาอีกเป็นครั้งที่สองเนียไม่ใช่โชคแล้ว
แม้จะจากกันอย่างดูเหมือนว่าจะมีเหตุผลและร่ำๆจะไร้เหตุผล
แต่อย่างไรก็ตามก็ยังคงมีรอยยิ้มให้แก่กัน และ
รอเชื้อไฟประทุขึ้นมาอีก
แต่ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาแล้ว ตอนนี้ก็สมควรลาจาก
ข้อคิด อย่าคิดว่าเพศตรงข้ามคิดแบบเพศของเราคิด
การจากมาได้แล้วอย่าเพิ่งดีใจ เมื่อใครคนหนึ่งทนไม่ได้แล้วก็จะคุโชนขึ้นมาอีก
แต่ตอนนี้ ต้องจากกันแล้วครับ