11 ตุลาคม 2547 20:08 น.
ผู้เฒ่า
ขอบฟ้ากว้างวางหุ้มฤาคลุมสิ้น
ธรณินรองจับฤารับไหว
มหาสมุทรเวิ้งว้างที่กว้างไกล
หรือรับได้ใจรักที่ภักดี
ดวงบุหลันวันเพ็ญที่เด่นฟ้า
หมื่นดาราระยิบกระพริบสี
ปุยเมฆล่องท่องฟ้าทุกนาที
งามที่มีมิเท่าเจ้าพะยอม
โบกสะบัดพัดเฉื่อยเอื่อยเอื่อยแผ่ว
ประหนึ่งแววบรรลุทะนุถนอม
แนบไออุ่นพี่ชมมาดมดอม
ให้รุมล้อมข้างกายทุกสายลม
ดั่งภมรหลงรัญจวนมวลบุปผา
มัศยารักน้ำชุ่มให้อุ้มสม
หมู่วิหคหลงฟ้าถลาชม
มิเท่ารมย์ชมแผ่วเพียงแก้วตา
ทุกสายน้ำ-ลม-ฟ้าน้อยค่านัก
ด้อยกว่ารักทุ่มเทเสน่หา
นับหมื่นถ้อยร้อยคำพรรณนา
นั้นมีค่า..ความหวังเหมือนดั่งลม
ความเวิ้งว้างว่างเปล่าของเงารัก
ยามประจักษ์เก็บกลืนความขื่นขม
ทุกสายน้ำลมฟ้ากลับตราตรม
ความระทมย้ำตรึงซึ้งหทัย
สายลมผ่านกรีดเจ็บต้องเหน็บหนาว
เพิ่มรอยร้าวบนฝันที่หวั่นไหว
รักสลายลำเค็ญความเป็นไป
แต่ดวงใจว่างเปล่ามิเศร้าเอย.@
ตอบขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยียนไว้ล่วงหน้า
กำลังจะเดินทาง อาจเข้ามาตอบช้า.
สวัสดีทุกท่านครับ..ขอให้ทุกท่านมีความสุข
ผู้เฒ่า โง่งม@
10 ตุลาคม 2547 17:46 น.
ผู้เฒ่า
ถนนราชดำเนิน ๒๕๑๖
สิ้นเสียงปืนสับสนบนวิถี
หลายชีวีสิ้นแรงเลือดแดงฉาน
ทุกหยดหยาดสาดเห็นเป็นพยาน
บรรณาการเพื่อประชาธิปไตย
ทุกร่างล้มสิ้นหวังต้องหลั่งเลือด
กระสุนเชือดเลือดบ่าน้ำตาไหล
กลียุคทุกข์เข็ญต้องเป็นไป
คนจัญไรกดขี่เข้าบีฑา
เหลิงอำนาจเข่นฆ่าจนอาสัญ
ไทยด้วยกันเพื่ออำนาจวาสนา
กดหัวข่มทั่วด้าวชาวประชา
หยาดน้ำตาดั่งเชลยสังเวยมัน
เจ้าเพื่อนเอ๋ยทุกหยดที่หยาดไหล
ดำรงไว้เซ่นทางที่สร้างสรร
เลือด-น้ำตาหนหลังเคยหลั่งกัน
มิมีวันสูญเปล่าแนบเนากาล
พุทธศักราช ๒๕๔๔
เวลาเปลี่ยนเวียนวนบนวิถี
ณ.เวทีสภาเน่าที่เล่าขาน
มันวกวนกลับลำหาตำนาน
เผด็จการคืนสู่สังคมไทย
กระฎุมพีจำแลงแสดงบท
น้ำตาหยดขมขื่นสะอื้นไห้
บริวารขานรับโดยฉับไว
สร้างบันไดลวงตาคุณค่าคน
เถลิงศกปกครองผองอำนาจ
ป่าวประกาศประชาค่าพหล
แก้ปัญหาทำด่วนเพื่อมวลชน
แต่ฉ้อฉลกินเมืองทำเขื่องครอง
นโยบายอวดค่าประชานิยม
แอบซ่อนปมโกยกินสินสนอง
รากหญ้าเน่าหนี้ท่วมรวมเป็นกอง
แต่พวกพ้องกำหนัดยัดทะนาน
หลงตัวตนบ่นบ้าหาอำนาจ
นับแต่ญาติพวกพ้องเข้ารองฐาน
รวมมังกรหางแดงแถลงการณ์
โดยสันดานรักประโยชน์แต่โคตรตน
ผิดจากพวกคิดต่างใครขวางขาด
ใช้อำนาจบีบบังคับให้รับผล
หน้ากากพระสวมนอกคอยหลอกคน
อย่างแยบยลคนหลามตามไม่ทัน
ทุจริตเชิงสานเอางานหลอก
แล้วกลับกลอกรวบรัดเข้าจัดสรร
ผลประโยชน์จัดแจงเข้าแบ่งปัน
พวกเดียวกันเฉพาะกลุ่มกูคุ้มครอง
ผลงานสร้างวางแผนเพียงแค่นภาพ
ท้ายสุดราบภาพพจน์สยดสยอง
ฟ้ากลับหม่นอัปรีย์ใช่สีทอง
ชนทั้งผองส่วนใหญ่ ยากไร้ลง
ตุลาคม ๒๕๔..
ถึงกำหนดผู้คนทนไม่ไหว
แผ่นดินไทยมิโอบผู้โลภหลง
มิตรสหายร่วมกันเคยมั่นคง
ขอเพื่อนจงฉายแสงแห่งพลัง
กระฎุมพีบทใหม่ยิ่งใหญ่นัก
ต่อหน้าจักคอยแก้ปิดแผลหลัง
สักวันหนึ่งถึงกาลสัญญาณดัง
รวมกำลังเรานี้ไม่หนีไกล
ทุกหย่อมหญ้าสาหัสเริ่มขัดสน
เสียงผู้คนบ่นอู้อยู่ไม่ไหว
ของมันแพงหนี้ก็มากลำบากใจ
ตื่นเถิดไทยไฟอุบัติจงดับมัน
เพื่อนเอ๋ย..อุดมการณ์ทางความคิด
ยังฝังติดแนวทางที่สร้างสรร
เพื่อแผ่นดินมวลชนคนเท่ากัน
ใครจะหั่นบั่นเชือดเสียเลือดยอม.@
8 ตุลาคม 2547 00:04 น.
ผู้เฒ่า
เดินผ่านขวดปวดใจมือไม้สั่น
น้ำสวรรค์หรือนรกหัวอกเอ๋ย
มันเปรี้ยวปากยากยั่นของมันเคย
กระนั้นเลยคว้าขวดดวดให้เมา
อยู่เป็นเพื่อนร่วมเศร้านะเหล้าจ๋า
เป็นเพื่อนข้าคนโซที่โง่เขลา
ทุกข์หรือสุขหัวเราะเฉพาะเรา
ข้ากับเจ้าสองแรงมาแบ่งปัน
แก้วที่หนึ่งกินเผื่อเพื่อนงนุช
ยามเธอรุดรวนร้างไร้ทางฝัน
แก้วที่สองหรือใช่เพื่อใครกัน
กี่แก้วนั้นเมาเทื้อก็เพื่อเธอ
เดินแอ่นหน้าก้าวคล้อยแล้วถอยหลัง
เดินเซซังยุ่งย่ำสม่ำเสมอ
หนีบไอ้ขวดมองเห็นเจ้าเป็นเกลอ
พอเดินเผลอคายแก้วเป็นแถวยาว
จะเมาอื่นหมื่นแสนแม้นลำบาก
มิยุ่งยากยึดยื้อให้อื้อฉาว
แต่เมารักต่อเนื่องเป็นเรื่องเป็นราว
ยามรักร้าวเมาสลบมิจบใจ
คิดจะเลือกเมาเหล้ามิเหงานัก
เพราะใจรักเลือกเมาทนเจ้าไหว
อันเมาเหล้าเช้าสายก็หายไป
ขืนหลงใหลรักสาวคงเมานาน
จะเมาเหล้าเมารักรู้จักคิด
อย่าชอบผิดอิ่มเอมเกษมศานต์
ทุกเรื่องราวเกลือกกลั้วใช่ชั่วกาล
มีพบผ่านพลัดพราก.ยากคงทน..@