10 เมษายน 2547 15:33 น.
ผู้เฒ่า
กล้าพฤกษาเติบใหญ่อยู่ในป่า
อาศัยฟ้าน้ำยัง.ประทังต้น
อยู่โดดเดี่ยวเหว่ว้าประสาตน
ผ่านปีวนเจริญงามตามเวลา
มองเห็นต้นพันธุ์ไม้ที่ใสสวย
ร่วมไพรด้วยฤิทธิ์เล่ห์.เสน่หา
แอบเฝ้าฝันร่วมวันกัลยา
หลงพฤกษางามเด่นไม่เห็นภัย
เห็นนกเกาะยังหวงเป็นห่วงเจ้า
กลัวอับเฉากิ่งงามจะหวามไหว
ลมกระโชกโบกพัดสะบัดใบ
ยังร่ำไห้ห่วงหาและอาทร
แล้วถึงวันเขามาเอาต้นเจ้าไป
เจ้าก็ไหวอ่อนเอน.เช่นเขาอ้อน
ลืมคู่ไม้เคยฝันทุกวันวอน
มาตัดรอนพิศวาสช่างบาดใจ
เหลือเรายืนปวดร้าวที่ราวป่า
รอเวลาล้มลง.สิ้นสงสัย
คงจะแห้งเหี่ยวเฉายามเขาไกล
เฝ้าอาลัยโหยหา.น้ำตาพราว
เปรียบตอไม้ที่ตายแล้ว.สิ้นแววสด
โศกสลดอ้างว้างเพราะห่างสาว
แหงนมองถามดาวเดือนเกลื่อนสกาว
เคยเห็นเจ้าบ้างไหม.ที่หายไป
อย่ามองเห็นเราเป็นเช่นขยะ
เผื่อเขาผละใจพ้น.เพื่อคนใหม่
เธอจะหวลคืนมาว่าเช่นไร
ที่ทำไว้แผลเหลือ.พร้อมเกลือทา
ให้เป็นแค่ผ้าเช็ดเท้า.ที่เหงาจิต
แล้วจะคิดเก็บใช้.ยามใจหา
ให้ลูบรอยคราบเลือน.เปรื้อนน้ำตา
แล้วคุณค่าของใจอยู่ไหนกัน
ฉันไม่มีเหลือหัวใจให้ใครแล้ว
ไร้วี่แววจะฝืน.กลับคืนฝัน
เอากิ่งหน่อต่อสาน.ความสัมพันธ์
ไม่มีวันแตกใบ.ได้ใหม่เธอ
ขอเป็นตอไม้ใหญ่ที่ตายแล้ว
แต่ผ่องแผ้วปล่อยละ.วางเสมอ
ไม่ค้นหาความรักคิดจักเจอ
ยืนพร่ำเพ้อร่วมป่า.ที่ว่ากลอน
บทสุดท้ายตอไม้ที่ตายแล้ว
เขียนในแนวรักเรียง.ก็เพียงสอน
ให้มั่นคงในรัก.ทุกวรรคตอน
อย่ายอกย้อนเหมือนของเล่น..จะเป็นภัย..@
10 เมษายน 2547 15:04 น.
ผู้เฒ่า
ความเจริญโลกมนุษย์ในยุคนี้
ทำให้หนีจิตมองประคองศีล
ต่างดิ้นรนขอแบ่งแย่งกันกิน
เพื่อชีวินส่วนตัวและครัวตน
อาจจะมีเรื่องล้นเพราะคนมาก
คิดลำบากต่างใจให้สับสน
คล้ายเถาวัลย์คดเคี้ยวที่เลี้ยววน
คำว่าคนวุ่นวาย.อย่าหมายเลือน
บางคนโอ่มีค่าไว้ท่ามาก
นับเป็นปากปราศรัยใจเชือดเฉือน
สุภาษิตย้อนยอกคอยบอกเตือน
ไม่เคยเลื่อนใส่สมองตรองไม่เป็น
บางคนคิดตัวข้าซิว่าใหญ่
มองใครใครต่ำค่ากว่าจะเห็น
บทพระธรรมเพาะบ่มให่ร่มเย็น
คิดว่าเล่นงมงาย.ใช้กำลัง
บางคนทำเงียบขรึมแต่ซึมลึก
ที่ร้ายนึก.ซ่อนแฝงแทงข้างหลัง
ปากว่า.ตาขยิบกระพริบพราง
ควรระวังคบดูใจให้นานนาน
บางคนว่าบารมีนั้นดีเลิศ
ยกกำเนิดอ้างอวดประกวดขาน
หยามค่าคนกักขฬะคอยระราน
นิสัยพาลตั้งแต่เกิด.กำเนิดมา
บางคนโกงขี้ฉ้อสอพลอเก่ง
ทำนักเลงใจฝ่อ.จ้อมุสา
จ้องเอาเปรียบผู้คนจนระอา
แสวงหาผลประโยชน์.โลภไม่พอ
บางคนมือถือสาก.ปากถือศีล
มือสาวกินปากป้อง.ยุบพองหนอ
ผ้าขี้ริ้วซักใส่ใหม่ละออ
ก็มองพอจะรู้.ดูพิกล
บางคนเขลาอวดเก่งนักเลงใหญ่
ชอบโวยวายศักดาเช่นหน้าขน
เทวดาลืมมอง.ค่าของคน
คิดว่าพ้นหลุมฝัง.ยังลำพอง
อันมนุษย์เกิดมาว่าเป็นโชค
เดินบนโลกร่วมกัน.หมั่นสนอง
ส่งความรักจากใจ.ให้ร่วมครอง
ดั่งพี่น้องต่างครัวทุกตัวตน
จุดสุดท้ายชีวิตคนไม่พ้นหลุม
ไม่อาจกุมสิ่งใด.กลับไป.ขน
มาอย่างไรกลับไปเช่นไรคน
ก็ไม่พ้นตัวเปล่า เหมือนเจ้ามา
บทสุดท้ายเรื่องคนอยู่บนโลก
ละความโลภ.เรื่องหลงปลงเถิดหนา
บนยอดเมรุ.ควันคล้อยที่ลอยมา
คือสัญญาทุกชีวิต..ต้องปลิดปลง......@
4 เมษายน 2547 12:25 น.
ผู้เฒ่า
คบกันมาดีอยู่ดูเธอเปลี่ยน
ไม่รู้เวียนเป็นอะไรฤทัยหาย
ฤาลืมกันใช่ไหมใจจะวาย
เป็นอะไรทำไมไม่ดูแล
เจ็บแปลบขึ้นในใจทันที
รักที่มีห่างแล้วเป็นแนวแผล
บอกฉันนิดความฝันที่ผันแปร
นั้นเป็นแค่เรื่องหลอกที่บอกกัน
ทิ้งฉันให้เศร้าและเหงาใจ
แค่คิดไปเจ็บแปลบให้แสบสันต์
ทิ้งให้อยู่คนเดียวเปลี่ยวทุกวัน
ควรบอกฉันอย่าปล่อยให้น้อยใจ
ตัวสำรองข้างสนามอยากถามเธอ
ที่พร่ำเพ้อล่วงละหรือจะใช่
ทุกทุกอย่างออกปากแล้วจากไป
เธอทำได้ลืมกันคำสัญญา
เหมือนกำแก้วเศษถือในมือมั่น
ทุกคืนวันฝันใฝ่.เพ้อใจหา
รักถนอมเพริศแพร้วดั่งแก้วตา
หลง.บูชานิยมว่าสมจินต์
แล้ววันหนึ่งไม่แคล้วเศษแก้วบาด
รอยผิวขาดเลือดหลั่งที่หวังสิ้น
พร้อมรอยแผลรักโรยเธอโบยบิน
ออกจากถิ่นรักเราที่เฝ้าปอง
อีกบทหนึ่งนิยามของความรัก
ควรรู้จักเผื่อใจใฝ่สนอง
ใช่จะหวังชื่นชอบแล้วครอบครอง
บางครั้งต้องเผื่อสนอง.นองน้ำตา....@
29 มีนาคม 2547 21:44 น.
ผู้เฒ่า
ครืน.ครืน.แผ่วแว่วเสียงสำเนียงฟ้า
วิชชุดาพริบพรายประกายแสง
โบกสะบัดพัดพรมด้วยลมแรง
มองฟ้าแดงหนาวเหน็บเจ็บฤดี
ฟ้าร้องไห้มองเห็นเป็นสายฝน
หทัยคนแหงนมองให้หมองศรี
หรือปลอบโยนคนเหงาเศร้าฤดี
ที่ชีวีเงียบงันทุกวันไป
น้ำตาฟ้าพร่างพรมลมพัดโบก
ความวิโยคเป็นเพื่อนไม่เลือนหาย
ฟ้าสงสารตัวเราที่เหงาใจ
เรื่อยเรื่อยไปโดนหลอกช้ำชอกตรม
หลังฝนลาฟ้าจะงามตามคำว่า
อุปมาเปรียบไปยิ่งใจขม
ไม่เหลือรอยสวรรค์เบี่ยงรักเพียง.ลม
ให้ชื่นชมสุขใจกระไรเลย
น้ำตาคนพร่าเลือนเปรื้อนใบหน้า
น้ำตาฟ้าหลั่งให้ใคร่เฉลย
มาปลอบขวัญคนเศร้าอย่างเขาเปรย
หรือเยาะเย้ยถากถางคนอย่างเรา
ปล่อยให้เลอะเปรอะหน้าทั้งฟ้าคน
น้ำตาหล่นจะโกรธ.ฤาโทษเขา
ก็เพราะหลงบรรเลงแต่เพลง.เงา
เมื่อยามเศร้าจะไปโกรธหรือโทษใคร
ณ.ตรงนี้ก็ยังดีที่มีฟ้า
โอบชีวาปานเพื่อนที่เยือนใกล้
จะเยาะเย้ยหรือลอบ.คอยปลอบใจ
ก็ยังไม่ลืมเลือนเสมือนเธอ
ร้ยลิขิตอักษรตอนที่ว่า
น้ำตาฟ้าย้ำเตือนอย่าเลือนเผลอ
เหรียญสองด้านเรื่องราว.ที่เราเจอ
คิดเสมออาจไม่เป็น.เช่นเรามอง....@
29 มีนาคม 2547 21:20 น.
ผู้เฒ่า
สุวิชาโน ภวํ โหติ
ผู้รู้ดี เป็นผู้เจริญ...
ถือกำเนิดเกิดมาในหล้าโลก
นับเป็นโชคบุญมี.ที่ใหญ่หลวง
เกิดเป็นคนเลิศยิ่งสิ่งทั้งปวง
ความดีห่วงสร้างสรรทุกวันไป
ยามเป็นคนชั่วดีมีคนคิด
ว่าทำผิดทำชอบเข้ากรอบไหน
ถ้าทำดีมีแต่ล้นคนเห็นใจ
ทำชั่วไซร้สาบแช่งให้แร้ง.ยล
เป็นคนดี.ดีได้เพราะใจสูง
เหมือนนกยูงมีดีที่แววขน
ถ้าทำชั่วเป็นได้ใช่.อชน
ผิดตัวคนเสียทีที่เกิดมา
เกิดเป็นคนดีไม่ได้มิใช่คน
จะมีจนก็คนควรค้นหา
ค่าของคนควรสร้างทางปัญญา
มรณาคนถามถึงความดี
เกิดมาแรกร้องได้ก็ใช่คน
มีตัวตนอัปลักษณ์หรือมากศรี
อยู่ที่ใจชั่วร่ำหรือทำดี
รู้อีกทีชีพดับ.ลับมลาย
รู้ในใจใช่ที่ทำดียาก
ถึงลำบากทนกล้ำกระทำได้
เกิดเป็นคนคิดสนุกสุขสบาย
พอชีพวายสังขารละ.ใครจะมอง
จะทำดีไม่ชั่วอย่ามัวคิด
จะทำผิดควรเลื่อนเตือนสมอง
กระทำผิดมิต้องถามตามทำนอง
ทำดีต้องตามตำแหน่งแห่ง.ศีลธรรม...