7 มิถุนายน 2552 20:22 น.
ผู้หญิงไร้เงา
*-* เคยไหม *-*
เคยไหม...ที่หัวใจเดียวดาย
ทั้งที่มีผู้คนมากมายอยู่เคียงใกล้
เหมือนเสียงหัวเราะรอบข้างช่างห่างไกล
ทั้งที่ห่างเพียงแค่ไหล่กระทบกัน
เคยไหม...ร้าวไหว..ร้าวราน
อยู่กับความทรมาน...ยิ่งกว่าฝัน
แม้มีคนปลอบประโลมอยู่คร้ามครัน
แต่ใจยังไหวสั่น...ทรมา
เคยไหม...ร้อนรน
อยู่กับเรื่องร้ายร้ายที่ราวน..นานหนักหนา
ไม่อาจถอน..ไม่อาจลืม...สิ่งที่ดูดดื่มคือน้ำตา
แม้จะผ่านไปหลายเพลา...แต่ทุกครายังเหมือนเดิม
*-* เคย *-*
เคยซิ..ที่ต้องเดียวดาย
ทั้งที่มีผู้คนมากมายอยู่เคียงใกล้
เสียงหัวเราะของเขา..ไม่น่าว่างเปล่าต่อหัวใจ
แต่ไม่รู้ทำไม...เสียงเหล่านั้นกลับห่างไกล...เหลือคณา
เคยซิ...ร้าวไหว...ร้าวราน
อยู่กับความทรมาน..นานหนักหนา
ยิ่งกว่าฝันร้าย...ที่ตื่นมาก็หายลับไปกับตา
แต่ความเป็นจริงในอุรา....ยังทรมาทรมาน
เคยซิ...ร้อนรน
ทั้งยอมรับ..ยอมจำนน..อย่างกล้าหาญ
ไม่อาจถอน..ไม่อาจลืม...ยอมดูดดื่มความร้านราน
ทุกวันเวลาผ่าน...น้ำตาคือเครื่องสมานหัวใจ
9 กันยายน 2551 00:43 น.
ผู้หญิงไร้เงา
อยากจะเป็นสายลม
พัดพาความระทมให้เธอหายได้คลายเหงา
อยากจะเป็นสายฝนคอยบรรเทา
ชะล้างความหมองเศร้าในใจเธอ
อยากจะเป็นแสงแดดให้อุ่นไอ
ขับไล่ความหมองไหม้ยามที่ใจเธอพร่ำเพ้อ
อยากจะเป็นดาวเดือนให้พบเจอ
ให้เธอได้มองเสมอยามกังวล
อยากจะเป็นนกน้อย
ที่เฝ้าคอยกล่อมเธอให้ได้สุขล้น
อยากจะเป็นไม้ดอกผลิออกผล
ให้ทุกหนเธออิ่มเอมเกษมสำราญ
แต่ความจริง...ความเป็นไป
ฉันไม่สามารถเป็นอะไรดั่งใจหาญ
นอกจากผู้หญิงธรรมดาที่รักเธอมาช้านาน
และจะเป็นเช่นนั้นตลอดกาล..."รักเธอ"
1 สิงหาคม 2551 22:03 น.
ผู้หญิงไร้เงา
ด้วยเนื้อปลามีประโยชน์จึงโปรดปราน
มานมนานหนักหนาพาสดใส
ยามได้ชิมลิ้มลองเป็นต้องใจ
ทุกคราไปซิน่าเข้าท่าดี
เป็นต้นว่าปลาทูยามคู่กับ
น้ำพริกผักจิ้มนิดไม่คิดหนี
ปลากะพงต้มยำทำทุกที
ก็อิ่มหมีพลีมันกันทุกคน
ยิ่งปลาช่อนเผาเกลือคุณเชื่อไหม
ทานครั้งใดติดใจในทุกหน
ปลาแป๊ะซะยามลองเหมือนต้องมนต์
กินซะจนเกลี้ยงจานสำราญใจ
ยิ่งถ้าเป็นปลาฉลามยามผัดฉ่า
อร่อยกว่าปลาใดเป็นไหนไหน
แต่ขอบอกไว้นิดสะกิดใน
ปิรันย่าไม่คิดไปหวังใคร่ชิม
13 กรกฎาคม 2551 11:07 น.
ผู้หญิงไร้เงา
หัวใจอนุบาล
อยากจะมีอาจารย์คอยสอนสั่ง
แม้ดื้อบ้างอย่างไรอย่าชิงชัง
ด้วยว่ายังเล็กอยู่โปรดดูแล
หัวใจอนุบาล
ที่เพิ่งจะหัดคลานไม่นานแน่
จึงหลงทิศหลงทางพลางดวงแด
ให้เกิดความอ่อนแอพ่ายแพ้ภัย
หัวใจอนุบาล
ที่ต้วมเตี้ยมเหลือกาลผ่านสมัย
ไม่แข็งแรงจะยัดยืนในผืนไพร
ที่กว้างใหญ่เหลือใจในโลกา
หัวใจอนุบาล
เฝ้าต้องการใครสักคนให้ห่วงหา
เพื่อประคองป้องภัยให้ชีวา
สุขทุกคราในชีวิตนิจนิรันดร์
27 พฤษภาคม 2551 18:39 น.
ผู้หญิงไร้เงา
มีเรา
เธอรักฉันฉันรักเธอเสมอมั่น
เธอผูกพันพันผูกเธอเสมอเก่า
เธอใกล้ชิดชิดใกล้เธอพบเจอเงา
เธอมีเราเรามีเธอเสมอมา
ไม่มีวันวันมีไม่ใจเปลี่ยนผัน
เธอมีฉันฉันมีเธอเจอห่วงหา
รักเราสองสองเรารักปักอุรา
ซึ่งมากค่าค่ามากซึ่งจึงมีเรา
ไม่มีเรา
เธอรักเขาเขารักเธอเผลอลืมฉัน
ลืมคืนวันวันคืนลืมปลื้มห่วงหา
เหลือเพียงฉันฉันเพียงเหลือเจ้าน้ำตา
ไร้เธอมามาเธอไร้ใจผูกพัน
ไม่มีวันวันมีไม่ให้เหมือนก่อน
ใจร้าวรอนรอนร้าวใจให้ไหวหวั่น
ต่อไปนี้นี้ไปต่อขอลืมกัน
จบผูกพันพันผูกจบไม่พบเรา
เหตุใดจึงไร้เงา
หญิงคำแรกแรกคำหญิงจริงคือฉัน
ส่วนนามนั้นนั้นนามส่วนล้วนความหมาย
หญิงคำแรกแรกคำหญิงคือหญิงชาย
ไร้คำสองสองคำไร้คนสำคัญ
เงาสุดท้ายท้ายสุดเงาที่เฝ้าใช้
คือเงาใจใจเงาคือซึ่งถือมั่น
เมื่อห่างหายหายห่างเมื่อเราจบกัน
จบผูกพันผันผูกจบไม่พบเงา
อยากมีเงา
เฝ้าเหว่ว้าว้าเหว่เฝ้าเหงาดวงจิต
ใจครุ่นคิดคิดครุ่นใจเฝ้าใฝ่ฝัน
ถึงบางใครใครบางถึงซึ่งผูกพัน
นานนับวันวันนับนานที่ผ่านมา
จนวันนี้นี้วันจนยิ่งหม่นหมอง
ยามเมียงมองมองเมียงยามความหรรษา
ยิ่งหดหายหายหดยิ่งสิ่งนานา
ยากเยียวยายาเยียวยากลำบากเกิน
แต่หากเธอเธอหากแต่มาแค่ฉัน
ใจนี้พลันพลันนี้ใจไม่ห่างเหิน
ได้สุขสมสมสุขได้คล้ายดั่งเดิน
อยู่บนเนินเนินบนอยู่คู่นภา
แต่ยิ่งคิดคิดยิ่งแต่ก็แค่ช้ำ
ไร้คนนำนำคนไร้ใจเหว่ว้า
ทั้งที่จริงจริงที่ทั้งทุกครั้งครา
ที่ชีวาวาชีที่อยากมีเงา