25 ธันวาคม 2547 15:05 น.
ผู้หญิงสีม่วง
ฤาลิขิตฟ้า
นำทางชีวา โศกกาอาดรู
ให้นางมารร้าย กับนายอสูร
กรรมเก่าเกื้อกูล บรรจบพบกัน
มิอาจหลีกเลี่ยง
จำต้องร่วมเรียง อยู่เคียงทุกวัน
เคราะห์ซ้ำกรรมเสริม เพิ่มความกดดัน
ต่างฝ่ายบีบคั้น อัดอั้นใจจริง
อสูรว่าร้าย
จิตใจมิหมาย ทำลายแม่หญิง
ใฝ่ฝันทุกครา อุราประวิง
รักคือความจริง ใช่สิ่งหลอกลวง
นางมารใช่เขลา
ใจชายยากเดา ทำเราติดบ่วง
ฝันถึงหญิงใด ชอบให้หึงหวง
เที่ยวร่อนเดินควง อยากท้วงวาจา
ใครเล่าใยโยง
จับเชือกผูกโพง หลงสิเน่หา
เลื่อนลอยคอยคว้าง อยู่กลางมายา
ลืมแล้วหรือว่า มนต์ตราของใคร
อสูรยอกย้อน
ชะช้ารอก่อน อย่าคิดนอนใจ
ในสิ่งที่เป็น รู้เห็นหมดไส้
งูหรือปลาไหล ปิดได้ไม่นาน
งูไร้พิษสง
ไร้คนลุ่มหลง โปรดจงสงสาร
ก็นางมารร้าย คงคล้ายรำคาญ
ชอบทรมาน คอยผลาญใจชาย
เบื่อคอยไล่เบี้ย
ตามบ่นจนเพลีย ละเหี่ยใจกาย
รู้ใจจี้จุด แสนสุดคมคาย
คารมเลาะร้าย หวังตายคามือ
พูดจาน่าขัน
ทีตัวเองนั้น เอาฝันไปถือ
ขุดหลุมลวงล่อ เหมือนขอฝึกปรือ
ลูกไก่งั้นหรือ นั้นคือผู้ใด
แม้เป็นนางมาร
มิเคยคิดอ่าน หักหาญใจใคร
ไม่เหมือนอสูร พอกพูนหญิงไว้
รวนเรเฉไป คงได้เห็นดี
อย่าได้สร้างเวร
ชีวิตทุกข์เข็ญ ลำเค็ญครั้งนี้
เลิกแล้วต่อกัน ข้ามวันผ่านปี
ขอเธอไปที่ ในที่อยากไป
ถิ่นที่สิงสู่
ไยแสร้งไม่รู้ เธออยู่แห่งไหน
จะตามไปติด แนบชิดไม่ไกล
นรกอุ้มสมไซร้ จำใจร่วมเคียง
............................
ในเมื่อมันเลี่ยงกันไม่ได้ ..
ก็กรวดน้ำคว่ำขัน .. ขอพบกันชาติเดียว !! ...
18 ธันวาคม 2547 15:50 น.
ผู้หญิงสีม่วง
เหมือนโดนราด .. สาดใส่ .. ด้วยน้ำกรด
ถูกทรยศ .. เจ็บล้น .. จากคนใกล้
หนึ่งคือชาย .. ที่รัก .. เฝ้าปักใจ
อีกหนึงนั้น .. ใช่ใคร .. เป็นเพื่อนกัน
มอบความรัก .. ภักดี .. ไม่มีหน่าย
แต่มิวาย .. หลงผิด .. คิดแปรผัน
ยังกลิ้งกลอก .. นอกใจ .. ให้โจษจัน
ใจเธอนั้น .. ช่างร้าย .. ชายน่าชัง
หลงไว้เนื้อ .. เชื่อมั่น .. ผูกพันจิต
ไม่เคยคิด .. ระแวง .. ถูกแทงหลัง
ใครจะรู้ .. เพื่อนหญิง .. รักจริงจัง
จะจ้องพัง .. ทำร้าย .. แทบวายปราณ
แมวขโมย .. รับปาก .. ฝากปลาย่าง
เหมือนเปิดทาง .. ให้จ้อง .. ลองรสหวาน
เผลอวู่วาม .. ย่ามใจ .. เพียงไม่นาน
ด้วยสันดาน .. คงลิ้ม .. ชิมเนื้อปลา
ชายมากรัก .. สมจริง .. กับหญิงง่าย
เอาเร่ขาย .. ที่ไหน .. คงไร้ค่า
เชิญควงแขน .. จากไป .. ให้ไกลตา
เสียเวลา .. เกลือกกลั้ว .. กลัวช้ำตรม
.................................................
เขียนใจให้เป็นกลอน .. เขียนกลอนจากเพลง ..หญิงร้าย .. ชายเลว ..
http://www.kapook.com/musicstation/newmusicstation/play.php?id=3887
7 ธันวาคม 2547 00:14 น.
ผู้หญิงสีม่วง
ผู้หญิงโง่โง่..คนหนึ่ง
ยังคงรัก..คิดถึงเธอ..เหมือนเก่า
ยังคิดฝันถึงวันของ..สองเรา
ยังคอยตามเป็นเงา..เฝ้าวนเวียน
ผู้หญิงโง่โง่..คนนี้
หนึ่งหัวใจที่เคยมี..ไม่เคยเปลี่ยน
แม้รักที่เธอให้..ดั่งไฟจากแสงเทียน
ที่ใกล้หมดและจวนเจียน..จะดับลง
......................... >> เขียนเมื่อ 15 ม.ค.2545 ..
ฉันมันโง่งม .. จมกับความรัก
ทั้งที่มันแตกหัก .. เหลือเพียงซากปรักของการลาร้าง
ยังรอคอยเธอกลับมา .. แม้รู้แก่ใจดีว่าไม่มีทาง
เฝ้าคิดถึงไม่เคยจาง .. ตั้งแต่วันที่เธอเหินห่างกันไป
ฉันมีหัวใจ .. แต่ไร้สมอง
ยังคงกอดตระกอง .. เรียกร้องความหลังให้คืนมาใหม่
เช้าค่ำได้แต่รำพัน .. นั่งคิดนอนฝันถึงเธอเรื่อยไป
หาทางเข้าไปชิดใกล้ .. ตามตื้อดื้อด้านไปคอยวนเวียน
ฉันเอาหัวใจ .. ไปใช้ในทางผิด
ที่มั่นคงและยึดติด .. ไม่เคยสักครั้งที่คิดจะแปรเปลี่ยน
แม้รักที่เธอมีให้นั้น .. นับวันจะโล่งเตียน
เปรียบดังแสงของเทียน .. ที่ใกล้หมดและจวนเจียนจะดับลง
............................................. >> เขียนใหม่วันนี้ ..
ปล. ให้เห็นถึงพัฒนาการอ่ะนะ .. ( จะดีขึ้นบ้างมั๊ยเนี่ยยย อิอิ )
2 ธันวาคม 2547 21:44 น.
ผู้หญิงสีม่วง
หวนคำนึง ถึงวัย ไร้เดียงสา
ดั่งสองตา ถูกปิด ผิดไม่เห็น
ด้วยยังเยาว์ เขลาอ่อน เรื่องร้อนเย็น
ตรองไม่เป็น เหมือนสมอง เป็นกองทราย
ปล่อยอารมณ์ จมลึก ไม่นึกคิด
พ่ายแพ้จิต ติดหล่ม บ่มไม่หาย
ไม่แยแส แม้ใคร จะเป็นตาย
จะดีร้าย ช่างมัน ฉันไม่แคร์
จากวันวาน ผ่านผัน ถึงวันนี้
บาปที่มี ย้อนย้ำ จนย่ำแย่
สุดอนาถ พลาดพลั้ง โดนรังแก
ต้องพ่ายแพ้ แก่กรรม เคยทำมา
แม้คิดได้ สายไป เกินไถ่ถอน
มิอาจทอน ลดบาป ที่หยาบหนา
อันกรรมเวร เห็นผล จนทันตา
พิพากษา โทษทัณฑ์ อย่างรันโรม
ทุกข์กระหน่ำ ซ้ำใจ จนไหวร้าว
สองแก้มพราว น้ำตา ที่ถาโถม
อกกลัดหนอง หมองไหม้ จนใจโทรม
เคราะห์กรรมโหม ซ้ำซัด กร่อนกัดทรวง
เจ็บกี่หน ทนร้าว กี่คราวครั้ง
คล้ายว่ายัง บาปหนา มิลาล่วง
ดั่งนายเวร คอยตาม เฝ้าถามทวง
ติดในบ่วง ถ่วงตน ด้วยผลกรรม
......................................
ปล. โรมรัน .. รันโรม .. เอ่อ .. ใช้ได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ ..
ช่วยแกล้งทำมองไม่เห็นเถอะนะคะ .. แหะ ๆ