15 มิถุนายน 2550 15:34 น.
ผู้หญิงช่างฝัน
จะบีบแตรไล่ทำไมนักหนาวะ กับอีแค่ผมจอดทับเส้นกากบาทเหลือง
จริงๆ แล้วผมไม่ได้ตั้งใจหรอก แต่ไม่นึกว่ารถข้างหน้าจะขยับไปได้แค่นั้น
คุณก็รีบ ผมก็รีบ ใครๆ ก็รีบกันทั้งนั้น เอ้า เอาเข้าไป บีบเข้าไป
มันยังบีบแตรอีกนับสิบครั้ง ผมหันไปมอง ช่างเถอะ!.. มันก็แค่ไอ้แท็กซี่คันหนึ่ง
ท่าทางคนขับคงจะเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน
ผู้โดยสารที่นั่งอยู่ตอนหลังก็ดูจะโวยวายโหวกเหวกไม่แพ้กัน
จะรีบไปไหนนักหนาวะ.. แต่โดนเข้าไปหลายครั้งก็อายเหมือนกันแฮะ
เสียงแตรที่ดังสนั่นทำให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาหันมามองที่ผมเป็นตาเดียว
แล้วจะให้ทำไงล่ะ ผมมองซ้ายมองขวา รถติดออกอย่างนี้จะถอยหลังก็ไม่ได้
รถคันหลังก็จ่อมาซะติด จะขยับไปข้างหน้าก็อย่าหวัง ช่างมันเถอะ ทนอายเอาหน่อย
พอเถอะวะ.. จะบีบไปทำไม ออกจากซอยได้ก็ต้องมาติดไฟแดงด้วยกันอยู่ดี
ทั้งคนขับและผู้โดยสารชี้โบ้ชี้เบ้มาที่ผม จะว่าอะไรผมก็ไม่เข้าใจหรอก
ตาของผมกับตาของคนขับแท็กซี่ประสานกันเข้าอย่างจัง ทำไงดีล่ะ
เห็นทีงานนี้ต้องกวนตีนกันแล้ว
ผมยกนิ้วกลางให้พร้อมกับเหยียบคันเร่งกระชากรถออกจากสี่แยก
ขยับไปได้นิดเดียว แท็กซี่คันนั้นก็ปาดแทรกรถคันที่ตามหลังผมทันที
เอาวะ งานนี้เป็นไงเป็นกัน ผมคิด
แท็กซี่คันนั้นยังบีบแตรและเปิดไฟสูงต่ำไล่ผมมาตลอด มันแน่งานนี้..
ถนนช่วงนี้ถึงแม้การจราจรจะค่อนข้างคับคั่ง แต่ก็ไม่เหลือวิสัยหากผมจะหลีกทาง
ให้มันแซงขึ้นไปข้างหน้า แต่ถ้าลองเล่นกันถึงขั้นนี้แล้ว
ก็เห็นที่จะต้องตามกวนตีนกันไปให้ถึงที่สุด
ผมไม่รู้จะอธิบายยังไงดีว่าผมขับรถเร็วขนาดไหน
รู้แต่ว่าผมทำทุกวิถีทางที่ไม่ให้มันแซงหน้าไปได้
ถ้าเผลอปล่อยให้แซงหน้าได้เมื่อไหร่ ผมจะเร่งแซงกลับไปดักหน้าไว้ทุกครั้ง
ต้องให้บทเรียนไอ้คนพวกนี้บ้าง
ผมเบื่อเต็มทนกับพวกแท็กซี่ที่จอดรับส่งผู้โดยสารไม่เลือกที่
คิดอยากจะจอดตรงไหนก็จอด ที่รถรามันติดกันยาวเหยียดอยู่ทุกวันนี้
ก็ไอ้พวกนี้แหละเป็นส่วนหนึ่ง ต้องเล่นซะบ้างจะได้เข็ด
แท็กซี่คันนั้นยังใช้ความเร็วอยู่เหมือนเดิม
แซงซ้ายแซงขวาปาดหน้าปาดหลังเค้าไปทั่ว
ผมหลับตานึกถึงผู้โดยสารที่นั่งอยู่ในนั้น ป่านนี้คงหายใจไม่ทั่วท้องแน่ๆ
ทำไมถึงได้รีบขนาดนี้วะ..
ผมเหยียบคันเร่งจนมิดแซงรถคันโน้นคันนี้แล้วก็ไปปาดหน้ามันอีกครั้ง
แล้วก็ชลอความเร็วกันท่าไม่ให้มันแซงผม ก็ได้ผล
มันทั้งบีบแตรทั้งเปิดไฟไล่ใส่ผม
ช่าง.. บีบแตรไล่นัก จะกันท่าไปตลอดอย่างนี้แหละ
อีกแค่สองแยกก็จะถึงที่หมายของผมแล้ว
วันนี้ผมลางานครึ่งวันเพื่อมาตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลแห่งนี้
จริงๆ แล้วผมก็ไม่ได้รีบร้อนอะไรหรอก
เวลาของผมยังมีเหลือเฟือ กวนตีนกันอีกซักพักเวลาก็ยังเหลือแหล่
ไอ้การตรวจร่างกายสมัยนี้ก็ไม่ได้เสียเวลาอะไรนักหนา
เถลไถลไปโน่นไปนี่ก็ยังกลับไปทำงานช่วงบ่ายได้ทัน
รถติดไฟแดงอีกแล้ว ท่าทางจะติดยาวเสียด้วย แท็กซี่ที่ตามหลังผมมาติดๆ
ปาดเข้าเลนซ้าย ก่อนจะแซงหน้าผมไป
คนขับหันมามองผมแล้วก็ส่ายหน้าเหมือนกับรำคาญผมเต็มประดา
ผมหักพวงมาลัยตาม จากนั้นรถก็ค่อยๆ เขยิบทีละนิดไปตามจังหวะสัญญาณไฟ
มันพยายามแทรกรถคันอื่นๆ เพื่อที่จะไปอยู่แถวหน้าสุด
ผมปาดรถเข้าช่องว่างตามไป
จังหวะนั้นเลนขวาว่าง ผมเหยียบคันเร่งปาดเข้าขวาแล้วปาดเข้าซ้าย
ตัดหน้ารถแท็กซี่ไปนิดเดียว เสียงเบรกของมันดังสนั่น
แต่นาทีนี้ผมไม่สนใจอะไรอีกแล้ว งานนี้มันต้องทำให้รู้สึกกันบ้าง
เหลืออีกนิดเดียวผมก็จะถึงที่หมายแล้ว หลังจากนั้นเอ็งจะไปไหนก็ไปเหอะ
หลุดจากไฟแดง รถของเราทั้งสองคันก็ปราดออกจากสี่แยกพร้อมๆ กัน
ยังไงซะผมก็ไม่ยอมให้มันขึ้นหน้าหรอก..
เสียงแตรของแท็กซี่ดังไล่หลังมาไม่ขาดระยะ
ถึงซะที.. คราวนี้ จะไปไหนก็ไปเถอะ ผมเลี้ยวซ้ายเข้าโรงพยาบาล
รับบัตรจอดรถจากยามแล้วแล่นเข้าสู่ลานจอด
มันยังตามมาติดๆ ยังไม่เลิกเหรอวะ ผมคิด เอาก็เอา
ที่ล็อคเกียร วางอยู่บนเบาะหลัง ผิดนักก็คงได้ฟาดกันมั่งหรอก
ผมขับรถเข้าที่จอด เปิดและปิดประตูรถอย่างแรงเหมือนไม่กลัวว่ามันจะพัง
แท็กซี่ที่ตามมาก็จอดพร้อมๆ กันกับผม
ประตูแท็กซี่ทั้งสี่ด้านเปิดผลัวะออกมาทั้งๆ ที่รถยังจอดไม่สนิทด้วยซ้ำ
ในทันใดนั้น ผมได้แต่ยืนตะลึง แขนซึ่งถือที่ล็อกเกียร์ เตรียมจะประจัญบาน
ตกลงมาข้างตัวเหมือนจะหมดแรง ไม่น่าเชื่อ..
ทุกสิ่งทุกอย่างในรถคันนั้นเต็มไปด้วยเลือด ทั้งบนเบาะ ที่บานประตูด้านใน
ไม่เว้นกระทั่งบนเสื้อของคนขับแท็กซี่
ผู้ชายสูงอายุแต่งตัวมอมแมมคนนึงถูกอุ้มอย่างทุลักทุเลลงมาจากรถ
เลือดเปรอะอยู่ทั้งบนลำตัวและใบหน้าของเขา
และบนเนื้อตัวของหญิงสาวทั้งสองคนที่คอยประคองอยู่ เธอทั้งคู่ร้องไห้เสียงดัง
โชเฟอร์เท็กซี่ที่ผมคาดว่าคงจะเปิดประตูเข้ามาลุยกับผม
รีบวิ่งเข้าไปช่วยประคองชายสูงอายุ ผมยืนมองจนบุรุษพยาบาลวิ่งเข้ามา
และนำชายคนนั้นขึ้นรถเข็นพร้อมทั้งปั้มหัวใจกันพัลวัน
ตลอดเวลานั้น ผู้หญิงทั้งสองคนเกาะราวรถเข็นไม่ยอมห่าง
ผมได้แต่ยืนงงทำอะไรไม่ถูก
คนแก่คนนั้นเขาจะโดนอะไรมาก็เถอะ ถูกยิง ตกตึก หรือรถชน
แกคงจะมีโอกาสรอดแน่ๆ ถ้ามาถึงโรงพยาบาลได้เร็วกว่านี้
นี่ถ้าผมไม่แกล้งเขา ลุงแกอาจจะรอด เขาอาจจะมาถึงที่นี่ซักสิบนาทีก่อนหน้านี้
นั่นก็ยังดี ลุงอาจจะรอด ผมคิด ลุงคงจะรอด..
ทำไม ไม่เปิดกระจกมาบอกกรูซักคำวะ ผมแช่งชักหักกระดูกคนขับแท็กซี่
ในขณะนั้นผมไม่ได้คิดถึงความเลวของตัวเองซักนิด
นาทีนั้นผมสับสนอยากอ้วก ไม่มีแรงจะพยุงตัวเองไว้ได้
ผมเปิดประตูกลับเข้าไปในรถ แว่บนั้นผมเห็นคนขับแท็กซี่เดินเข้ามาหา
ช่าง.. อยากจะทำอะไรกรูก็ทำ กรูไม่มีกะจิตกะใจจะสู้อีกแล้ว
ท่ามกลางความชุลมุนวุ่นวาย ผมได้ยินเสียงคนขับแท็กซี่ดังแว่วเข้ามา
มันทำให้ผมรู้สึกเย็นเยือกไปถึงขั้วหัวใจว่า
"พี่รู้ไหม ลุงแกตายแล้ว เพราะพี่นั่นแหละ"
นั่นเป็นเสียงสุดท้าย ก่อนที่ผมจะซบหน้าลงกับพวงมาลัยและร้องไห้