6 กรกฎาคม 2550 12:12 น.
ผู้หญิงช่างฝัน
วันนั้นฟ้าเป็นสีฟ้า
เริงร่าล้อปุยเมฆขาว
ฉันพร่ำพรรณนาเรื่องราว
ผ่านเมฆสีขาวให้เธอฟัง
เธอบอก.. " ..ธรรมดา...
ฟ้าก็เป็นสีฟ้าเหมือนทุกครั้ง
เพียงแค่ไร้เมฆหมอกบัง
ทุกอย่างไม่เห็นเปลี่ยนไป.."
วันนั้น.. ฝนเท
ฉันรู้สึกว้าเหว่.. อยากร้องไห้
หนาวร้าวไปทั่วหัวใจ
ร้องหาอุ่นไอจากเธอ..
เธอบอก.. " พอน่า..
ไยชอบจินตนาเพ้อเจ้อ
ฝนตกฟ้าร้องต้องละเมอ
มองดูสิเออ.. ความจริง..
เธอว่า.. สมองซีกขวา..
ทำให้ชอบจินตนาไปทุกสิ่ง
แต่ว่าในชีวิตจริง
เราจักต้องนิ่งกว่านั้น.. "
" ..อย่าเป็นแบบนี้..
อย่าใช้บทกวีและความฝัน
วาดความเป็นไปแต่ละวัน
ปั้นโลก..โศก..สุข..จนทุกข์ใจ "
วันนี้.. ฉันเริ่มล้า
ไม่รู้ว่าควรจบลงตรงไหน
เหมือนเราต่างกันเกินไป
จนไม่อาจเดินร่วมกัน..
...
......
20 มิถุนายน 2550 14:50 น.
ผู้หญิงช่างฝัน
เป็นเพราะเจ้าทีเดียว เหนียวห่อกล้วย
อุตส่าห์เก็บไว้ช่วยบรรเทาหิว
ยามตะวันลาลับเหลี่ยมทงทิว
งานคงฉิวเมื่อท้องนิ่มอิ่มสบาย
เจ้าเป็นตัวชนวนชวนทะเลาะ
ชักนำคนปากเปราะมาทำร้าย
แค่ถามคำ.. ตอบคำ..ไหงบานปลาย
ทำวุ่นวายเป็นเรื่องใหญ่ให้มันเซ็ง
เหนียวห่อกล้วย นี้ได้แต่ใดมา
คำถามพาบรรยากาศเกลียวเขม็ง ?
ขอมามั้ง ตอบแค่นี้ทำตะเบ็ง
ทำปากเกร็งโกรธเกรี้ยวจนเกินงาม
สองมือกำหน้าแดงเสียงแข็งกร้าว
หาว่าเรากวนบาทาไม่น่าถาม
แค่ทักทายธรรมดาไยมากความ
แล้วเริ่มลามเกินดับเหมือนกับไฟ
บ๊ะ.!.. ทำไม..แค่นี้.. มีน้ำโห
โตก็โต.. ใช่เด็กเด็กเสียที่ไหน
เหนียวห่อกล้วย มัดเดียวช่างปะไร
หยิบมาโยนลงถังไป...ไม่ต้องกิน..
25 ธันวาคม 2549 22:57 น.
ผู้หญิงช่างฝัน
หอมเอยหอมรวยรินหอมกลิ่นโศก
ที่โบยโบกร่ำทั่วหัวใจฉัน
อวลกลิ่นหอมแห่งช้ำย้ำจาบัลย์
จึงโศกศัลย์พรรณนาตามอารมณ์
เมื่อโลกยื่น โศกใหญ่ ให้ชีวิต
ก็ไม่คิดท้วงห้ามความขื่นขม
เฝ้าดื่มด่ำร่ำหอมแห่งตรอมตรม
ลิ้มรส - ทุกข์ - ระทม - ด้วยยินดี
อาจคือวิบากกรรมที่ทำไว้
จึงคลอเคล้าเคลียไปในทุกที่
เย็นกลิ่นโศกนานมาชั่วตาปี
นานพอที่เกินคำจะคร่ำครวญ
หอมเอยหอมรวยรินหอมกลิ่นโศก
กลิ่นแห่งความวิโยคโศกกำสรวล
แม้โศกสิ้นกลิ่นเศร้ายังอบอวล
ยังหอมหวนไม่สิ้นกลิ่นโศกเอย..
23 ธันวาคม 2549 23:50 น.
ผู้หญิงช่างฝัน
อยากจะเป็นคลื่นน้อยคอยกล่อมเห่
เป็นผืนน้ำทะเลอันกว้างใหญ่
รองรับความรู้สึกของคนไกล
ยามหวั่นไหวกับเรื่องราวที่ร้าวรน
อยากจะเป็นอุ่นไอในคืนหนาว
เป็นเพื่อนก้าวแรมทางกลางสายฝน
เป็นแสงไฟขับไล่ความมืดมน
พาข้ามพ้นเรื่องร้ายกล้ำกรายมา
อยากเป็นดาวดวงงามยามค่ำคืน
ที่ส่งยิ้มระรื่นจากผืนฟ้า
โอบไล้.. ด้วยแสงแห่งดารา
เฝ้าคอย.. สบตาคราแหงนเงย
แต่ไม่อาจเป็นอะไรได้สักอย่าง
อยู่ท่ามกลางความจริงจำนิ่งเฉย
ส่งเพียงความห่วงใยไปเหมือนเคย
แค่เอื้อนเอ่ยคำในใจ... ยังไม่เป็น..
25 พฤศจิกายน 2549 23:48 น.
ผู้หญิงช่างฝัน
ปลายขอบฟ้าสิ้นสุดลงที่ตรงไหน
โลกของเราก็ห่างไกลกันเสมอ
ฟ้ากว้างใหญ่เกินกว่ามาเจอะเจอ
ได้แต่ฝันละเมอไปวันวัน
คุณคือสิ่งสวยงามยามได้มอง
แต่จับต้องสัมผัสได้แค่ในฝัน
ปรารถนาชิดใกล้กลับไกลกัน
สายสัมพันธ์ดูแล้วช่างแผ่วบาง
คุณมีใครรายล้อมห้อมชีวิต
จึงไม่คิดถึงคนนี้ที่ไกลห่าง
อาจมีเพียงเยื่อไยดีที่เลือนราง
ไว้เติมสร้างความเอมอิ่มริมหัวใจ
นี่คือสุขทุกข์ปนระคนโศก
อยากดึงโลกระหว่างเราเข้ามาใกล้
สูดกลิ่นหอมจากลมอุ่นคุณหายใจ
อิ่มอกไอคราวซุกพรอดกับกอดคุณ
แต่คงเป็นความหวานไหวที่ไร้หวัง
ขอบฟ้ายังสูงเกินปลอบให้ดินอุ่น
ไม่มีหวังเดินเข้าไปถึงใจคุณ
แรงบาปบุญกั้นขวางเราห่างกัน
ตาคู่ช้ำฉายแววแล้งที่แห้งผาก
ริ้วรอยการจากพรากพาไหวหวั่น
เริ่มทดท้อ อาลัย ในสัมพันธ์
ที่นับวันจะ..ห่างไกล..ไปทุกที