24 พฤศจิกายน 2550 09:40 น.
ผู้หญิงช่างฝัน
หอบหัวใจบอบช้ำมาร่ำไห้
กับผืนทรายฟองคลื่นในคืนเหงา
ราตรีหม่นร้างเดือนเสมือนเรา
โอบกอดเงาเดียวดายกลางสายลม
หวังความแรงของเกลียวคลื่นมากลืนกลบ
มาช่วยลบรอยสะอื้นอันขื่นขม
สาดซัดเสียงครวญคร่ำร่ำระงม
ให้ดิ่งจมถมทับกับทะเล
คลื่นน้ำตาถาโถมโหมกระหน่ำ
หลั่งรดความชอกช้ำและว้าเหว่
สิ่งที่เคยหวังวาดคาดคะเน
ถูกซัดเซล้มหายจนใจพัง
ทะเลจ๋าอกข้าสั่นสะท้านนัก
คิดถึงรักอุ่นล้นแต่หนหลัง
ลมเย็นเยียบพัดพามากี่ครั้ง
กายหนาวยังไม่เท่าหนาวหัวใจ
- ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๔๘ -
22 พฤศจิกายน 2550 15:06 น.
ผู้หญิงช่างฝัน
โอ้พระจันทร์คืนเพ็ญเจ้าเด่นฟ้า
เปล่งประกายเจิดจ้าภิรมย์สม
สุกสกาวเย้ายวนชวนชิดชม
เสน่ห์พรมร้อนแรงแสงสีนวล
พี่เคยชี้ชวนนวลน้องประคองรัก
จุมพิตพักตร์ผ่องพรรณอันหอมหวน
กรุ่นกลิ่นกายเจ้านั้นยังรัญจวน
แม่เนื้อนวลพี่อิงแอบแนบนงเยาว์
ยามนี้มีเพียงจันทร์กระจ่างฟ้า
ทอดกายาอวบอิ่มลิ้มความเหงา
สีเหลืองงามผ่องผุดฉุดใจเรา
คลายหม่นเศร้าคิดถึงนางกลางค่ำคืน
รัตติกาลผ่านมาว้าเหว่นัก
เฝ้าคำนึงถึงนงลักษณ์มิอาจฝืน
กาลเวลาผ่านไปไม่หวนคืน
กลั้นสะอื้นชมจันทร์ฝันถึงนาง
- ๙ มีนาคม ๒๕๔๘ -
21 พฤศจิกายน 2550 09:58 น.
ผู้หญิงช่างฝัน
เสียงเพลงแผ่วแว่วมาค่ำคราหนึ่ง
ฟังหวานซึ้งนุ่มนวลชวนใจฝัน
จึงเรียงร้อยถ้อยรักฝากแสงจันทร์
พร่ำรำพันด้วยดวงจิตคิดถึงคุณ
ทุกรู้สึกล้นหลากขอฝากฟ้า
กับจันทราดวงสวยช่วยเกื้อหนุน
นำไอรักผ่านผสมลมละมุน
โอบกอดคุณแทนร่างคนห่างไกล
ในคืนดึกเยียบเย็นเฉกเช่นนี้
คุณคนดี อ้างว้างบ้างหรือไม่
อีกฝั่งฟ้าให้รันทดแทบหมดใจ
อยากมีคุณเคียงใกล้.. แต่ไม่มี
วอนดวงจันทร์สานต่อความคิดถึง
จากใจหนึ่งซึ่งมั่นคงอยู่ตรงนี้
แม้ทุกความเป็นไปไม่อาจมี
ก็ยังดีที่หัวใจ.. ได้รักคุณ..
- ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๔๘ -
19 พฤศจิกายน 2550 13:39 น.
ผู้หญิงช่างฝัน
ฉันน้อยเนื้อต่ำใจในชีวิต
ถูกลิขิตขีดใจให้ไร้ค่า
มีเพียงเพื่อนเป็นสีร้าวของน้ำตา
ไม่มีค่าใดใดให้ผูกพัน
ไขว่คว้าหาเศษเลยความอบอุ่น
ไว้ห่อหุ้มในคืนวันอันหนาวร้าย
ซับน้ำตาที่ท่วมท้นล้นหัวใจ
แต่สุดท้ายคือผ่านไปในเส้นทาง
...
เหมือนทุกครั้งทุกคนที่พ้นผ่าน
ทิ้งเพียงรอยร้าวรานความหวานไหว
- บาดแผล- - ริ้วรอย- - ฝันร้าย -
เฝ้าทุบตี เฆี่ยนใจให้ยับเยิน
...
กอบเก็บชิ้นส่วนใจที่ไร้ค่า
รินน้ำตารดลงในหัวใจฉัน
คนไร้ค่าที่ตามหาความผูกพัน
มีเพียงฝันที่มืดบอดตลอดกาล...
- ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๘ -
16 พฤศจิกายน 2550 13:15 น.
ผู้หญิงช่างฝัน
ฉันเหมือนมวลหมู่ไม้ในหน้าแล้ง
ที่เหลืองแห้งกรอบท้อรอร่วงหล่น
เศร้าสล้างกลางคืนวันอันมืดมน
ไร้ซึ่งหนทางที่จะคลี่คลาย
กิ่งก้านใบแห้งผากตากลมร้อน
ระโหยอ่อนนอนแผ่ยอมแพ้พ่าย
อยากปลิดขั้วทิ้งร่างก่อนวางวาย
แต่ทำได้เพียงทนท้อรอเวลา
เปรียบไม้แล้งโรยราในป่ากว้าง
ถูกทิ้งร้างกลางดงพงพฤกษา
สิ้นหนทางชอุ่มฟื้นคืนวิญญา
ไร้คุณค่ามีชีวิตเพื่อปลิดใบ
ฉันเหมือนมวลหมู่ไม้ใบเหลืองร้าว
มาถึงคราวร่วงหลุดเกินฉุดไว้
ละลิ่วสู่ดินแดนอันแสนไกล
ด้วยหมดใจฝืนฝ่าชะตากรรม
- ๒๗ กันยายน ๒๕๔๘ -