20 สิงหาคม 2551 12:43 น.
ผู้หญิงช่างฝัน
ฉันก้าวผ่านวันเวลาอย่างว้าเหว่
ไร้แม้เสียงกล่อมเห่ในคืนหนาว
ไม่มีแม้เศษแสงแห่งดวงดาว
ให้รู้สึกอุ่นคราวหนาววิญญา
ฉันขมขื่นกับคืนวันมานานนัก
แทบกระอักอารมณ์ที่ขมปร่า
ได้แต่ฝืนเก็บงำซ่อนน้ำตา
หลังม่านโศกโชคชะตาที่ฟ้าเมิน
จึงวันนี้.. แม้มีพายุฝน
กระหน่ำจนสะท้านทกระหกระเหิน
ให้หนาวสั่นรวดร้าวทุกก้าวเดิน
ต้องเผชิญเรื่องร้ายมากมายนัก
ฉันยังคงจะก้าวไปแม้ใจหวั่น
แม้หวาดกลัวคืนวันอันหนาหนัก
แม้ไม่มีอุ่นไอให้พิงพัก
แต่ฉันมี ..หัวใจรัก.. ให้ตัวเอง
15 สิงหาคม 2551 09:58 น.
ผู้หญิงช่างฝัน
รักเขาใช่ไหม..
แต่ขอให้รักตัวเองให้มากกว่า
หลายครั้งที่ต้องเสาะแสวงหา
ฉันรู้... มันเหนื่อยล้าหัวใจ
เธอรักเขา ใช่.. ฉันรู้
แต่เมื่อสิ่งที่เป็นอยู่มันไม่ใช่
จะเหนี่ยวรั้งเขาเพื่ออะไร
ไม่สงสารหัวใจหรือคนดี..
ปล่อยทุกอย่างให้หยุดนิ่ง
ลองหยุดทุกสิ่งไว้กับที่
หยุดไขว่คว้า.. เลิกราวี
กลับมาทำหัวใจดวงนี้ให้รื่นเย็น..
แล้วเธอจะพบความสุข..
ปล่อย ทุกข์ ไว้เพียงสิ่งที่เห็น
ไม่ต้องทนอยู่อย่างตายทั้งเป็น
กับคนที่แค่มาล้อเล่นชีวิตเรา
เช็ดน้ำตา... แล้วหยุดคิด
ใครก็ไม่มีสิทธิ์ ทำเธอเศร้า
หันมากอดตัวเองเบาเบา
ด้วยอ้อมแขนเหงาเหงาของเราเอง
ฉันรู้เธอทำได้..
ขอเพียงอย่าหมดกำลังใจนะคนเก่ง
แล้วดนตรีชีวิตที่บรรเลง..
กับท่วงทำนองของบทเพลงจะเปลี่ยนไป
ให้บทเพลงดีดีที่ขานขับ
ซบซับเรื่องราวที่หม่นไหม้
ลบคราบน้ำตา-รอยอาลัย
แล้วยิ้มรอรับสิ่งใหม่.. หัวใจดีดี..
8 สิงหาคม 2551 11:11 น.
ผู้หญิงช่างฝัน
ฉันรัก.. รู้สึกนี้
รู้สึก.. ยามที่ต้องไกลห่าง
รู้สึก.. ลึกลึก เลาลาง
รู้สึก.. อ้างว้างในบางที
ฉันรัก.. รู้สึกนั้น
รู้สึก.. เมื่อไกลกันอย่างวันนี้
รู้สึก.. ท่วมท้นล้นฤดี
รู้สึก.. เต็มปรี่ด้วยคิดถึง
ฉันรัก.. รู้สึกนี้
รู้สึก.. ดีดีเหมือนครั้งหนึ่ง
รู้สึก.. ห่วงใย..ในคำนึง
รู้สึก.. ลึกซึ้งเกินกล่าวคำ
ฉันรัก.. รู้สึกนี้
รู้สึก.. ที่แผ่วผ่าวทุกเช้าค่ำ
รู้สึก.. เงียบเงียบ เก็บงำ..
รู้สึก.. และดื่มด่ำอยู่เพียงเดียว..
5 สิงหาคม 2551 17:04 น.
ผู้หญิงช่างฝัน
ผ่านล่วงเลยลับลาอีกคราหนึ่ง
ค่ำคืนซึ่งราตรีเป็นสีเศร้า
เมฆดาวหม่น มืดมัว สลัวเงา
มีจันทร์ร้าวเป็นเพื่อนอยู่คู่น้ำตา
จะอีกกี่รัตติกาลหมุนผ่านครบ
จึงจักจบอารมณ์สิ้นถวิลหา
หยุดความเศร้าอันทดท้อทรมา
หมดน้ำตาหลั่งสะอื้นกับคืนวัน
ไม่มีเหลือแล้วหัวใจข้างในอก
เหมือนนรกเพรียกกู่อยู่ในฝัน
ความขมขื่นฝืนเก็บไว้ทำไมกัน
คงถึงวันปล่อยวางอย่างยืนยาว
ขอพ้นจากห้วงราตรีที่โหดร้าย
ฆ่าตัวตายเงียบเงียบกับความเหงา
ยุติความอ่อนแอทุกเรื่องราว
ให้ใจร้าวหม่นไหม้สลายลง
รอคืนเหงาคล้อยเคลื่อนเยือนอีกครั้ง
จบความหวัง.. สิ้นแล้ว ที่ลุ่มหลง
ดับชีวิตเดียวดายให้ปลิดปลง
ทอดกายลงหลับใหลไปชั่วกาล...
23 กรกฎาคม 2551 09:44 น.
ผู้หญิงช่างฝัน
เหมือนว่าโลกตรงนี้เป็นสีหม่น
จึงมืดมนเหว่ว้ากว่าใครเขา
ทุกเส้นทางหนาวเย็นเป็นสีเทา
จะย่างก้าวก็หวั่นหวาดขลาดระแวง
มวลดอกไม้งามตายังว่าเหงา
ท้องฟ้าพราวสดใสว่าไร้แสง
ใบไม้ปลิวเคว้งคว้างช่างอ่อนแรง
ใจเคลือบแคลงหวั่นไหวไร้พลัง
คงเป็นความหม่นหมองของชีวิต
ที่ไร้สิทธิ์เดินหน้าและถอยหลัง
อยู่ท่ามกลางความฝันอันผุพัง
กับความหลังที่พลั้งผิดติดตัวมา
และสุดท้ายคงจบลงตรงที่เก่า
เหลือเพียงเรากับเศษใจสิ้นไร้ค่า
ซึ่งนับวันยับเยินเกินเยียวยา
กับน้ำตาที่ท่วมท้นล้นดวงมาลย์
ความดีใดคงไม่อาจรักษา
ร้าวเกินกว่าสิ่งใดจะประสาน
ปล่อยทุกหวังให้ร้าวไหวไปกับกาล
ในมืดมน-อนธการเช่นผ่านมา