8 สิงหาคม 2550 17:52 น.
ผู้ชายสีคราม
ข่าวลือเรื่องพวกผมเป็นบ่าง ไอ่เตยเป็นมือที่สาม ยังสะพัดไปทั่วตึกสองคณะ
ผมก็ไม่รู้ว่า สาเหตุมันเกิดจากอะไร
ความแค้นใจของจุ๊บแจง หรือความหูเบาฟังความข้างเดียวของผู้คน
ทางพวกผมไม่ใช่ว่าจะนิ่งเฉย เพราะปล่อยลือไปอย่างงี้ไม่ดีแน่ๆ
ก็ในเมื่อพวกผม ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นอะไรเลย
แล้วมันเรื่องอะไร ต้องมาเป็นแพะของความแค้นจากยัยจุ๊บแจงด้วย
ผมลากไอ่สินมานั่งกลางวง คุยกับมันให้รู้เรื่องไปเลย
ไม่คุยคงไม่ได้แล้ว เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องมันคนเดียวอีกต่อไปแล้ว
"ไอ่ อ่า สิน ทำไมเมิงไม่บอกน้องเขาวะ ว่าพวกกุไม่เกี่ยว"
จะหาว่าพวกผมเอาตัวรอด ก็ใช่ครับ รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดีนี่ครับ
"กุบอกแล้ว แต่น้องเขาบอกว่า กุเปลี่ยนไปเพราะพวกเมิง แล้วก็หาว่ากุปกป้องพวกเมิง
จนออกหน้าออกตา เมิงจะให้กุทำไง เมิงบอกกุมาสิ"
ไอ่สินหน้าซื่อ วันนี้เลยเซื่องหนัก ท่าทางมันก็สำนึกอยู่หรอกว่าทำให้เพื่อนเดือดร้อน
"แล้วงี้เมื่อไหร่เรื่องมันจะจบล่ะสิน... ฉันเบื่อจะตอบคำถามแล้วนะแก"
ขนาดไอ่เตยสาวสุดถึกยังอดแสดงความอิดหนาระอาใจไม่ได้
"เดี๋ยวกุไปแล้วก็คงเลิกไปเองแหล่ะมั้ง" ไอ่สินก็ยังเป็นไอ่สิน สีหน้าไม่ทุกข์ร้อนอาทรอะไร
แต่ผมก็รู้แล้วว่ามันคงทุกข์ใจน่ะล่ะ แต่ไม่แสดงออก
"ทำไมเมิงไม่บอกคนอื่นๆ ไปเลยว่า มันอะไรแน่ ที่เมิงเลิกกัน มันไม่ใช่เพราะพวกกุหรือไอ่เตย"
"พูดไปแล้วได้อ่าอะไรขึ้นมาวะ น้องเขาก็เสีย กุไม่อยากพูด ช่างเหอะกุจะไปเรียนต่อ
เดือนหน้านี้แล้ว เดี๋ยวจุ๊บก็เจอคนใหม่ ก็ทำใจได้ กุยอมให้คนด่าว่ากุเลว กุชั่วอะไรก็เหอะ
อีกหน่อยก็ลืมกันแล้ว"
"เออ ดี ไอ่พ่อพระ... ถ้าเมิงโดนด่าคนเดียวกุจะไม่ว่าเลย ไอ่เวรนี่"
ทั้งกลุ่มช่วยกันก่นด่าอวยพรในความดีของมัน ... ดีจนเพื่อนเดือดร้อน
แต่พวกผมก็บังคับอะไรมันไม่ได้ นอกจากปล่อยให้มันลือกันไป
ก็อาจจะจริงอย่างที่ไอ่สินบอก เดี๋ยวอีกหน่อยก็ลืมกันไปเอง
เดือนต่อมา... ไอ่สินก็ไปเรียนต่อตามที่มันวางแผนเงียบๆ ไม่กระโตกกระตาก
พวกผมก็ได้แต่ภาวนาให้ ข่าวลือ ถูกกลบด้วยข่าวคลิปโป๊ฉาว หรือดาราถ่ายนู๊ดอะไรก็ได้
ซึ่งก็ดูเหมือนจะเป็นไปได้ด้วยดี ถ้ายัยจุ๊บไม่โผล่มาที่คณะอีก...
"พี่เนศๆ พาจุ๊บไปเจอพวกเพื่อนๆ พี่สินหน่อย จุ๊บอยากขอโทษ"
โอ้... ผิดคาดนะครับ แต่หนนี้เธอมาดี ไอ่ผมมันก็ให้อภัยคนง่าย
จะไปถือสาหาความอะไร ก็ตอนนั้นเธอถูกทิ้งมันเสียหน้า ก็ไม่แปลกถ้าจะต้องกุเรื่องราวอะไรขึ้นมา
ครับ... อย่างที่คาดเดากัน ถูกต้องทีเดียว ผมก็พาเธอไปครับ
เธอกล่าวขอโทษเพื่อนๆ ผมทุกคน รวมทั้งไอ่เตยซึ่งทะเลาะกับพี่ไมค์ของมันไปหลายรอบเพราะเรื่องนี้ ไอ่เตยคงเคืองขาดถึงขอโทษ แต่เพราะลมปากทำให้ไอ่เตยเดือดร้อนอยู่นาน
ผมเห็นมันสะบัดหน้า มองเมินๆ เหมือนว่า รับฟังคำขอโทษ แต่คงไม่ญาติดีกันแล้วแน่ๆ
ยัยจุ๊บก็ไม่ได้บื้อถึงขนาดที่จะมองไม่ออกหรอก
เธอมองออกก็เลยเอ่ยปากอีกที ขอให้ผมไกล่เกลี่ยให้หน่อย
ผมก็ได้แต่บอกไปว่า....
"น้องจุ๊บอย่ามาอะไรกับพวกพี่เลย ไอ่ที่แล้วไปแล้ว ก็โอเคช่างมัน
แต่ว่าถ้าไอ่เตยมันไม่หายโกรธ พี่ก็คงไปหว่านล้อมอะไรมันไม่ได้หรอก
แต่พวกพี่ก็รับรู้แล้วนะว่า จุ๊บมาขอโทษ โอเคไหม"
เท่านั้นล่ะครับ เป็นเรื่อง....
"พี่อาร์ม จุ๊บมาขอโทษแล้วทำไมต้องไล่จุ๊บ"
ความซวยมาเยือนครับ... ผมไม่รู้จริงๆ ว่าไอ่สินไปรักผู้หญิงอย่างยัยจุ๊บได้ยังไง
ยัยจุ๊บแว๊ดๆ อะไรอีกสามสี่ประโยค แล้วเดินจากไปอย่างที่พวกผมรู้ชะตากรรมตัวเองทันที
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา... ยัยจุ๊บก็ตั้งป้อมหาสมัครพรรคพวกมาเรื่อยๆ
เพียรกรอกหู เพื่อนๆ ฝั่งเธอว่า พวกผมเลวขนาดไหน...
ไอ่เตยได้นั่งแท่นเป็นศัตรูหมายเลข 1 ของยัยจุ๊บอย่างถาวร
แล้วก็ผลัดกันเปลี่ยนหน้าเพื่อนเธอ มาด่าพวกผม...
ด่าพวกผมว่า ...
พวกผมฟังความข้างเดียวบ้างล่ะ
บ้างก็ว่าพวกผมเล่นพรรคเล่นพวกบ้างล่ะ
บ้างก็ว่าพวกผมไปด่ายัยจุ๊บก่อนบ้างล่ะ
พวกผมได้แต่นั่งมองความเป็นไป แล้วหัวเราะให้กันจนกลายเป็นเรื่องตลก
แต่ยิ่งยัยจุ๊บเห็นพวกผมไม่ทุกข์ร้อนกับคำด่าเหล่านั้น
ยัยจุ๊บก็ยิ่งเดือดเลือดพล่าน....
จนถึงวันนี้ ผมก็ยังไม่รู้เลยว่า ยัยจุ๊บมันหายเดือดรึยัง
เรื่องเริ่มต้นเพียงจุดเดียว จุดเล็กๆ แท้ๆ
ถ้าเพียงแต่ไอ่สินมันจะไม่ดีเกินไป ทำตัวชั่วๆ เลวๆ บ้าง ด่ายัยจุ๊บหรือตัดให้มันเด็ดขาด
หรือถ้ายัยจุ๊บ จะได้ดีมีรักใหม่ ตัดใจจากไอ่สินง่ายๆ
ผลพวงที่ตามมา ก็คงไม่บานพะเรออย่างนี้
พวกผมเองก็คงไม่ดีด้วย ที่อดทนไม่พอกับความแค้นแรงโกรธของผู้หญิงคนหนึ่งที่เสียของรัก
แต่จะว่าไป เพื่อนๆ ของยัยจุ๊บก็ไม่ใช่ว่าจะถูกต้องขาวสะอาดนัก เพราะที่เพียรๆ ด่าพวกผม
ว่าเล่นพรรคพวก ฟังความข้างเดียวนั้น ผมก็ไม่รู้ว่าพวกหล่อนได้สำเหนียกถึงตัวเองบ้างหรือไม่
แต่เรื่องนี้มันก็จบลงแบบนี้ล่ะครับ จบแบบค้างๆ คาๆ กันไป
มีข่าวลือเรื่องความต่ำทรามสามานย์ของพวกผมลอยมาเป็นระยะๆ จนพวกผมชิน
บางทีพวกผมก็โต้ตอบบ้าง เพื่อให้มันหายเซ็ง แล้วพักๆ ก็เงียบไป
เป็นอย่างงี้จนพวกผมจบจากมหาวิทยาลัยแห่งนั้นมา แยกย้ายกันไปทำงาน
แต่เรื่องที่เกิดขึ้นก็ยังทำให้ผมจำได้แม่นเชียว
แล้วคุณผู้อ่านละครับ ถ้าเรื่องที่เกิดขึ้นกับผม
มันดันไปหวยออกเกิดขึ้นกับคุณผู้อ่าน คุณจะทำยังไงครับ
ลองแชร์ความเห็นกันสนุกๆ นะครับ....
8 สิงหาคม 2550 17:18 น.
ผู้ชายสีคราม
....เรื่องที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ มีเค้าโครงบางส่วนจากเรื่องจริง
แต่เนื้อเรื่องส่วนใหญ่ยังเป็นเรื่องแต่งนะครับ...
เพื่อนผมชื่อ "สิน" มันเป็นผู้ชายแสนดีครับ
ดีมาก...ดีสุดลิ่มทิ่มประตูก็ว่าได้ ผมเองไม่เคยเชื่อว่ามันจะดีขนาดนั้น
เพราะลึกๆ ผมก็เชื่อว่า ไอ่สิน มันก็มนุษย์เดินดินกินลูกชิ้นปิ้ง เหมือนกันกับเราๆมันจะไปดีขนาดนั้นได้ยังไง
จนเกิดเรื่องท้าพิสูจน์ความดีของมันขึ้น...
ผมและเพื่อนๆ เรียนอยู่คณะเกษตรฯ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
ส่วนต้นเรื่องท้าพิสูจน์นั้น เธอเป็นสาวรุ่นน้องเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน
แต่เธออยู่คณะอักษรศาสตร์... เธอชื่อ จุ๊บแจง...
ผมไม่รู้ว่า น้องจุ๊บกับไอ่สินเพื่อนผมมันไปรู้จักมักจี่กันแต่เมื่อไหร่
เอาเป็นว่า รู้อีกทีก็เห็นไอ่สินกับน้องจุ๊บไปไหนมาไหนด้วยกันแล้ว
แรกๆ ความรักข้ามคณะก็ทำท่าจะผลิบานออกดอกออกผลงอกงามดีหรอก
แต่ในเวลาไม่กี่เดือนต่อมาก็เกิดเรื่อง....
อยู่มาวันหนึ่ง ไอ่สินก็ทำหน้าซื่อๆ เซื่องๆ ประสามัน
เดินเข้าคณะมา ไม่ได้มีท่าทางเบื่อโลกอะไร แต่มันก็ถอนใจดังเฮือก.....
เพื่อนๆ ในโต๊ะด้วยความเป็นผู้ชาย คงไม่มีใครคิดไต่ถามสารทุกข์สุกดิบมันหรอก
ยกเว้นก็แต่ เตยหอม ผู้หญิงไม่กี่คนในคณะที่พอจะทนๆ พวกผมได้
"เป็น - อะไรไปไอ่สิน" แน่ล่ะครับ ถามแบบนี้ก็มั่นใจได้เลย
เตยหอมคงไม่คิดพิเรนทร์กันไอ่สินแน่
มันก็ถามไปตามมารยาทที่ผู้หญิงเขาพึงกระทำกันน่ะล่ะ
"กุบอกเลิกกะน้องจุ๊บละ"
ประโยคเดียวซัดเอาทั้งวงเงียบกริบในพริบตา
มันพูดแค่นั้นแล้วมันก็ลุกไป ไม่รอให้ใครถามอะไรต่อ
ถ้าเรื่องมันจบแค่นั้นก็ดีสิครับ....
วันต่อมา... น้องจุ๊บสาวอักษรฯ
สู้อุตส่าห์ถ่อสังขารมาดักรอที่โต๊ะกลุ่มพวกผม
เธอมาหว่านล้อมให้พวกผมเห็นใจครับ
ที่ผมใช้คำว่า หว่านล้อม เพราะอย่างที่รู้
เรื่องพวกนี้ ผู้ชายไม่สนใจหรอกครับ
อาจจะรับฟัง ปรึกษาได้ แต่ไม่อยากแส่มือเข้าไปยุ่ง
เรื่องคนสองคนหรอกครับ
หลังจากเพียรหว่านล้อมอยู่นาน น้องจุ๊บก็ไม่ประสบความสำเร็จ
พวกผมได้แต่บอกว่ามันเป็นการตัดสินใจของไอ่สิน
มันเป็นเรื่องของคู่รัก พวกผมจะไปเสือ กอ อะไรได้เล่า
น้องจุ๊บฟังแล้วนิ่ง ไม่พูดอะไรลุกเดินกระบึงกระบอนจากไป
แต่การไม่พูด ไม่ได้หมายความว่าเลิกรา น้องจุ๊บยังคงวุ่นวายอยู่กับการ
ตามง้อไอ่สิน ผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าอะไรนักหนา
น้องจุ๊บก็ใช่ว่าขี้ริ้ว เรียนรึก็อยู่คณะสาวงาม
ส่วนไอ่สิน โอเค หน้าตามันไปวัดได้ แต่อะไรทั่วๆ ไปก็แค่อยู่ตามเกณฑ์เฉลี่ย
ผมก็เลยไม่รู้ว่า ใครบ้าใครบอกันแน่นะงานนี้
อาทิตย์ต่อมา ผมไปกินข้าวที่โรงอาหารกลาง
แล้วเพื่อนรุ่นเดียวกันคณะอักษรฯ เหมือนน้องจุ๊บน่ะล่ะ ก็เดินมาถาม
"เนศ... ฉันได้ข่าวเรื่องน้องจุ๊บกับสิน... เขาว่าพวกเธอทำให้เขาเลิกกันเหรอ"
อึ้งสิครับ... ผมได้แต่เง็งว่า พวกผมไปเกี่ยวอะไรกับเรื่องรักของไอ่สินกับจุ๊บ
"อะไรวะ จอย... พวกกุไปเกี่ยวอะไรด้วย"
"ฉันก็ไม่รู้นะเนศ แต่ที่เธอกับเพื่อนๆ ทำเนี่ย เลวมากเลย"
เอาล่ะสิครับ ผมงงยิ่งกว่าปลาโดนทุบหัวเตรียมขอดเกล็ดขายที่ตลาดซะอีก
"เฮ้ย พวกกุทำอะไร ... ไหนเล่ามาดิ๊จอย เคลียร์ๆ อย่ามามั่ว"
"เอ้า พวกเธอรู้อยู่แก่ใจยังต้องเล่าอีกเหรอ เขารู้กันทั้งตึกอักษรฯ แหล่ะว่าพวกเพื่อนสินน่ะ
ยุให้สินเลิกกับจุ๊บ เธอไม่ต้องมาทำงง ฉันแค่มาถาม เพราะอยากฟังเธอยอมรับด้วยตัวเอง
ไหนๆ เธอก็เป็นเพื่อนฉัน แต่อย่างที่จุ๊บบอกเลย พวกเธอไม่มีทางรับหรอกว่า ทำ"
ฉอดๆ เสร็จ เจ๊จอยก็เดินลิ่วๆ ไป โดยที่ผมยังไม่ได้แก้ต่างอะไรให้ตัวเองเลย
แน่นอนครับไม่ใช่ผมคนเดียวหรอกที่โดน
ไอ่เพื่อนๆ ในกลุ่มเดียวกันกับผม โดนหมด
แต่ที่โดนอ่วมๆ เลย กลับเป็น เตยหอม ไปซะอย่างงั้น
เตยหอมไม่ได้พูดพล่ามอะไรให้ฟังหรอกครับ
เธอถึกมาก จนผมเกริ่นขึ้นเองว่าผมโดนเจ๊จอยยิงรัวมา
ยัยเตยถึงบอกออกมาได้ว่า เธอก็โดนไม่ใช่น้อย...
"แกยังน้อยนะเนศ ฉันสิ ... เ ส ือกเรื่องเขาดีนัก ซวยเลย"
"เอ่า เมิงไปเกี่ยวไรกับเขาวะ ไอ่เตย" ในสายตาผม ผมก็ไม่เคยเห็นไอ่เตยมันไปยุ่งอะไรนี่
"แกไม่รู้อะไร ยัยจุ๊บน่ะ มาถามฉัน บอกฉันน่าจะเข้าใจเป็นผู้หญิงด้วยกัน
แล้วถามว่าผิดอะไรตรงไหน... ฉันก็บอกว่า ...อย่าไปทู่ซี้อะไรกับไอ่สินเลย
ไอ่สินน่ะมันอดทนก็จริง แต่มันก็เด็ดขาด แล้วอีกอย่างฉันก็ไม่ได้ไปรับรู้ปัญหา
อะไรของมันสองคนด้วยนี่หว่า"
"เออ แล้วไงอีก"
"แกโง่จริงหรือแกล้งโง่... จะแล้วไง ยัยจุ๊บมันไปป่าวร้องซะทั่วเลย
บอกว่าฉันน่ะจะฮุบไอ่สินไว้เอง เลยได้ตำแหน่งแกนนำเลยเนี่ย ซวยฉิบ"
"อ้าว แล้วแกไม่ได้คิดจะฮุบไอ่สินมันหรอ" ผมแซวไอ่เตยไปงั้นล่ะ ก็รู้อยู่แล้วว่าไอ่เตย
มันมีแฟนหนุ่มคู่แท้ของมันอยู่แล้ว
"ไอ่เวร... เดี๋ยวแม่ด่าให้ลืมทางกลับบ้านเลย อย่าพูดเล่นไปสิวะ แกจะทำฉันซวยสองเด้ง
ไหนจะโดนหาว่าฮุบไอ่สินอย่างเป็นทางการ เพราะมาจากปากแก แล้วไหนจะทางพี่ไมค์อีก
ฉันไม่อยากเดือดร้อน"
ไอ่เตยทำหน้าเครียดจริงจัง ซะจนผมไม่กล้าแซวมันต่อ
เอาเป็นว่าบัดนี้ เรื่องก็กลายเป็นว่า ไอ่เตยมันจะฮุบไอ่สิน ส่วนพวกผมก็เข้าข้างไอ่เตย
เพราะเป็นเพื่อนมัน ฝั่งยัยจุ๊บกลายเป็นผู้ถูกกระทำอย่างน่าเห็นใจ
เรื่องจะเป็นยังไงต่อไป ต่อตอน 2 นะครับ
To Be Continued