23 พฤษภาคม 2548 13:23 น.
ผู้ชายบนดวงจันทร์
หลังจากที่ท่านประท่านได้เสนอให้สองคนไปศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าตัวใหม่ ที่โอ๋เป็นคนเสนอแต่พิชัยเป็นคนค้าน ก็มาถึงวันที่จะต้องประชุมกันอีกครั้ง ตอนนี้ห้องประชุมก้มาพร้อมกันทุกคนยกเว้น โอ๋ "อีก 15 นาทีถ้าคุณกาญจนาภรณ์ไม่มาเราก็เริ่มประชุมกันเลย" ท่านประท่านกล่าวออกมา ในเวลาไม่นานโอ๋ก็มาถึง และกล่าวขอโทษทุกๆคน "เอาล่ะเราเริ่มประชุมโดยดีกว่า"ท่านประธานพูดออกมา
"ไหนคุณวิชัยลองเสนอรายละเอียดมาซิว่าเป็นยังไง"ท่านประธานถาม
"ครับ.. ผมได้ศึกษารายละเอียดแล้วว่าถ้าเราช่ายวัตถุดิบตัวนี้เราจะสามารถลดต้นทุนในการผลิตได้ถึง 30เปอร์เซ็นต์"
หลังจากนั้นวิชัยก็อธิบายรายละเอียดต่างๆให้กับที่ประชุมได้ฟังกันจนเวลาผ่านไป1 ชั่วโมง ..
"รายละเอียดของผมก็มีเท่านี้ล่ะครับ" พิชัยกล่าวเมื่อจบการรายงาน
"ขอโทษนะครับท่านประธาน แล้วของคุณโอ๋ล่ะครับ ผมอยากฟังรายละเอียด" สมคิดกล่าว
"ว่าไงลูกพร้อมหรือยัง"...พ่อโอ๋พูดออกมามาเบาๆ
"พร้อมค่ะหนูไม่ยอมน้อยหน้านายวิชัยนั้นหรอก"โอ๋ตอบกลับเบาๆ
หลังจากนั้นโอ๋ก็อธิบายรายละเอียดให้กับที่ประชุมได้ฟัง ซึ่งก็ดีไม่น้อยกว่าที่วิชัยเสนอออกมา จนทำให้การประชุมผ่านไปหลายชั่วโมง แต่ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะตัดสินเรื่องฝ่ายไหน อยู่ๆก็มีคนเสนอ ออกมา "ผมขอแสดงความคิดเห็นครับ" "ว่ามาคุณสรายุทธ" ท่านประธานถาม
"ผมคิดว่าถ้าเราตัดสินใจกันไม่ได้เราก็ให้ทั้งคุณโอ๋แล้วก็คุณวิชัย ช่วยกันคิดเพื่ออาจจะออกมาดีกว่าที่ทั้ง2เสนอก็ได้" สรายุทธเสนอออกมา
"เอาๆๆ ใครเห็นด้วยก็ยกมือขึ้นล่ะกัน"..ท่านประธานพูดออกมา
จนในที่สุดมติในที่เป็นเห็นชอบตามความคิดที่นายสรายุทธเสนอออกมา แต่ดูทั้งคู่ไม่ค่อยเห็นชอบกันเท่าไหร่ ท่านประธานเลยพูดออกมา"เดี๋ยวหลังจากการประชุมเดี๋ยวคุณพิชัยกับคุณกาญจนาภรณ์อยู่พบผมก่อนนะ" และท่าประธานก็กล่าวปิดการประชุม...
ตอนนี้ในห้องประชุมก็เหลือกันทั้งหมด 3 คน จนท่านประพูดออกมา
"ไง..ทั้งสองคนจะร่วมงานกันได้ไหม"
"ไม่มีทางหรอกค่ะคุณพ่อหนู่ไม่ร่วมงานกับนายวิชัยเด็ดขาด"..โอ๋พูดออกมา
"ยังก่ะจะมีใครอยากร่วมงานกับคุณหรอก เอาแต่ใจก็เอาแต่ใจ แล้วก็ไม่เหตุผล " ..วิชัยพูดออกมา
"คุณพ่อ นายนี่ว่าหนู หนู่ไม่ยอม" ..โอ๋พูดด้วยความโกรธ
"นี่คุณโอ๋ คุณโตแล้วนะเลิกเอาแต่ใจซ่ะที"..วิชัยพูดว่า
"นายมีสิทธิ์อะไรมาว่าฉัน"..โอ่พูดออกมา
"เค้า.ก็พูดถูกนะโอ๋" ..พ่อโอ๋พูดออกมา
"คุณพ่อไม่เข้าข้างโอ๋"
"พอๆๆฟังผมบ้าง ผมอยากให้ทั้งสองคนร่วมงานกันได้ไหมถือว่าเพื่อบริษัท ว่าไงคุณวิชัย"
"ผมยังไงก็ได้ครับท่านประธาน"
"แล้วลูกล่ะโอ๋ ทำได้ไหม"
"ไม่มีทางหรอกค่ะ โอ๋ไม่ทำงานร่วมกับนายนี่เด็ดขาด"
"คุณวิชัยกลับไปก่อนก็ได้ครับเดี๋ยวผมพูดกับลูกผมเอง"
"ครับงั้นผมลาล่ะครับท่านประธาน สวัสดีครับ"
"สวัสดี"
หลังจากที่วิชัยกับไปทั้งสองพ่อลูกก็ทะเลาะกันจนในที่สุดพ่อโอ๋ก็พูดออกมา
"พ่อถือว่าเป็นคำสั่ง"
"คุณพ่อ"
"ลูกโตแล้วนะ อย่าทำตัวเป็นเด็กได้ไหม"
"แต่"
"ไม่มีแต่ แยกแยะให้ออกว่าอันนั้นเรื่องส่วนตัวอันไหนเรื่องงาน"
"ค่ะคุณพ่อ หนูถือว่าทำเพื่อบริษัทล่ะกัน"
"พ่อขอโทษนะที่ต้องพูดแรงขนาดนี้"
"ค่ะหนูเข้าใจ"
"แล้วเราจะได้เห็นดีกันนายวิชัย".โอ๋คิดในใจ
ณ.ร้านอาหารมีเสียงโต้เถียงกันขึ้นที่โต๊ะที่วิชัยกับสรายุทธนั้ง
"ไอ้ยุทธ แกจะเสนอทำไมว่ะแบบนี้" ..วิชัยพูด
"เอาน่าข้าขอโทษ แต่ก็ดีแกจะได้ใก้ลชิดกับคุณโอ๋"
"แกก้รู้ว่าข้ากับเค้าไม่ถูกกันแกก็๋ยังจับมาให้ข้าทำงานร่วมกันอีก"..วิชัยพูด
"กินๆๆๆดีกว่าแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ทำใจเถอะเอ็ง"
"จำไว้นะไอ้ยุทธ"
หลังจากวันนั้น ทั้งโอ๋และพิชัยก็ร่วมงานกันและก็มีปัญหากันไม่เว้นแต่ละวันเพราะความเอาแต่ใจของโอ๋จนในที่สุดก็เกิดเรื่องขึ้น
โปรดติดตามกันต่อไป
19 พฤษภาคม 2548 11:02 น.
ผู้ชายบนดวงจันทร์
พระอาทิตย์ชึ้นจากฟ้า แสงแดดส่องลงมาบนพื้นดิน เช้าวันใหม่เริ่มขึ้น ณ.สวนสาธารณะ มีผู้คนมาออกกำลังกายกันตอนเช้า มีทั้งวิ่ง มีทั้งเดิน รำมวยจีน เล่นโยะคะ ขี่จักรยาน และอีกมากมาย ในหมู่นั้น มีผู้หญิงคนหนึ่งได้มาออกกำลังกาย ผู้หญิงคนนั้นชื่อ กาญจนาภรณ์ หรือ โอ๋ อายุ 25 ปี เป็นนักธุกิจสาวสวย จบปริญาโทจากเมืองนอก ที่บ้านเป็นมหาเศรษฐี นิสัยส่วนตัวเป็นคนดื้อ เอาแต่ใจ ไม่มีเหตุผล แต่เป็นคนที่มีเมตตา ทันใดนั้นก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น....
"ค่ะ คุณพ่อ"
"อย่าลืมนะลูก วันนี้มีประชุมที่บริษัท"
"ค่ะ เดี๋ยวหนูกำลังจะกลับแล้วค่ะ"
"เดี๋ยวเจอกันที่บ้านนะลูก"
"ค่ะ"
หลังจากที่โอ๋วางโทรศัพท์ ก็กลับบ้านเอาน้ำแต่งตัวเตรียมตัวมี่จะเข้าไปที่บริษัท "เสร็จยังลูก" พ่อถามโฮ๋ "ค่ะๆเสร็จแล้ว
"อะไรกันเนี้ย2พ่อลูกคู่นี้ยังไม่ออกไปทำงานอีก" แม่โอ๋พูดขึ้นมา "ไปแล้วค่ะแม่ เร็วๆสิค่ะคุณพ่อ" แล้วทั้งคู่ก็อออกไป
ณ. บริษัทตึกใหญ่โตใจกลางเมืองกรุงเทพ สองพ่อลูกเดินเข้ามาที่บริษัท เสียงทักทายจากพนักงานก็ดังขึ้น สวัสดีครับท่านประธาน" "สวัสดีค่ะคุณโอ๋" สองพ่อลูกยิ้มแล้วก็ทักทายกลับไป แล้วก็เดินเข้าลิฟทขึ้นไปข้างบน พอถึงชั้นบน ทั้งคู่ก็เดินไป "สวัสดีค่ะท่านประธาน" "สวัสดีคุณลัดดา" "ไงค่ะคุณโอ๋วันนี้แต่งตัวสวยจัง" ลัดดาพูด "ชอบคุณค่ะ"โอ๋ตอบกลับไป "ท่านประธานได้เวลาประชุมแล้วนะค่ะ" "ผมกำลังจะไปแล้ว ไปกันได้แล้วโอ๋"
หลังจากที่ทั้งคู่เข้าประชุม ก็ได้ประชุมกันเรื่องที่จะผลิตสิ้นค้าตัวใหม่โดย คุณกาญจนาภรณ์เป็นคนเสนอ ซึ้งได้อธิบาย ว่าถ้าทำได้จะทำให้ยอดขายของบริษัทเพิ่มขึ้น ซึ่งท่านประธานก็พูดขึ้น มีใครจะเสนออะไรไหมครับ ถ้าไม่มีผมก็จะถือว่าเรื่องนี้ผ่าน ทันใดนั้นก็มีเสียงพูดขึ้นมา "ผมขอเสนอครับ" "ว่ามาคุณวิชัย"
"ตามที่คุณโอ๋ได้เสนอมานะครับ ผมคิดว่าต้นทุนการผลิตมันสูงเกินไป" วิชัยกล่าว
"มันสูงยังไงล่ะคุณวิชัย" ท่านประธานถาม
"ผมคิดว่าอันไหนที่ประเทศไทยเรามีเราน่าจะใช้ตรงนี้มากกว่าดีกว่าที่จะสั่งของจากเมืองนอกมาทั้งหมด" วิชัยตอบ
"ก็จริงนะ งั้นเอาเป็นว่าเรื่องนี้พักไว้ก่อนแล้วกันวันนี้ปิดการประชุมก่อนล่ะกัน"ท่านประธานพูด"
หลังจากที่ประชุมเสร็จ เสียงโอ๋ก็พูดขึ้น
"พ่อทำไมยังผ่านเรื่องของโอ๋ล่ะค่ะ"
"ที่คุณวิชัยเค้าพูดมันก็ถูกนะลูก"
"แต่โอ๋จะเอาแบบนี้ โอ๋ไม่ยอม"
"อย่าเอาแต่ใจตัวเองสิลูก เราทำธุรกิจนะ"
"ไม่สนล่ะโอ๋จะเอาของโอ๋แบบนี้"
"งั้นก็ลองให้คุณวิชัยเอาแบบมาเสนอก่อนล่ะกันจะได้ตัดสินใจว่าอันไหนดีกว่า"
"แต่คุณพ่อต้องเข้าข้างโอ๋นะ"
"ได้แต่ต้องอยู่ในมติที่ประชุมนะ"
"พ่อจะไปทำงานต่อแล้ว ลูกก้ไปทำงานของลูก"
"เราจะได้เห็นดีกันนายวิชัย" โอ๋พูดแบบเจ็บใจ
ณ.ห้องทำงานของนายวิชัย "ทำไมต้นทุนของคุณโอ๋มันถึงแพงแบบนี้เนี้ย" วิชัย บ่นกับตัวเอง..
วิชัย หนุ่มหล่อ ตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายผลิต อายุ25 ปี นิสัย เป็นคนสนุกสนาน เอาใจใครไม่เป็น เป็นคนตรงๆ ใครๆในบริษัทก็รัก แต่จะมีคนที่ไม่ชอบอยู่คนเดี๋ยวคือคุณโอ๋ เรื่องราวจะเป็นยังโปรดติดตามตอนต่อไป...
5 พฤษภาคม 2548 09:28 น.
ผู้ชายบนดวงจันทร์
เสียงนั้นคือ มีนาฬิกาโผล่ขึ้นมา แล้วนับถอยหลังอีก 18 ชั่วโมง
"โอ้..พระเจ้าผมจะต้องตายจริงหรือนี่" โอมกล่าวอย่างตกใจ
เหลืออีก18 ชั่วโมง โอมคิดว่าจะทำอะไรกับเวลาที่เหลือช่วงนี้ดี
โอมจึงลุกขึ้นแล้วพูดว่า
"ถ้าเราจะตาย ก็ขอทำอะไรให้เกิดประโยชน์ ซักครั้งในชีวิตเถอะ"
ดังนั้นโอมจึงปรับนาฬิกาให้เท่ากับเวลาที่นับถอยหลัง แล้วก็ออกจากบ้านไป
ด้วยจิตใจที่แนวแน่ ไม่กลัวสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับตัวเอง และบอกกับตัวเองถ้าเจอใครเดือดร้อนจะเข้าไปช่วยทุกคน จนเจอเห็นการณ์แรก ผู้หญิงรถเสีย จึงเดินเข้าไปถาม
"รถเป็นอะไรเหรอครับ"
"ไม่รู้เหมือนกันค่ะ มันไม่ติด"
"เดี๋ยวผมดูให้ครับ มันก็ดีทุกอย่างนิ"
"เดี๋ยวคุณลองติดเคื่องดูใหม่ครับ"
"ค่ะ"
"ก็ยังไม่ติดอ เดี๋ยวลองขยับหัวเทียนดูหน่อยล่ะกัน"
โอมก้ขยับหัวเทียนและบอกให้ลองติดเครื่องอีกที จนรถติดติด
"ขอบคุณมากค่ะ แล้วเป็นที่อะไรค่ะ"
"หัวเทียนหลอมครับ ผมทำให้แล้วครับ"
"ขอบคุณมากๆค่ะ"
หลังจากนั้นโอมก็รู้สึกว่า การช่วยคนมันก้ดีเหมือน ทั้งที่เมื่อก่อนโอมไม่เคยช่วยใครเลย
และก้ไม่เคยทำให้ใครเดือดร้อน จนโอมคิดว่าถ้าเจอใครเดือดร้อนโอมก็จะเข้าไปช่วยทุกคน
ถ้าเค้าสามารถช่วยได้ เค้าก็คิดในใจว่า..ถ้าวันนี้เค้าไม่ตาย เค้าจะทำแบบนี้ต่อไปไม่ใช่แค่ทำวันนี้วันเดียว
ตอนนั้นก็มาถึงเวลา 23.30 น. ใก้ลเวลาที่ผมจะต้องตายแล้ว วันนี้ผมเหนื่อยมากเลยนะครับ แต่มันก็เป็นวันที่ผมรู้สึกดีที่สุด แต่คุณเชื่อหรือไม่ ว่าผมเจอ
เหตการณ์ที่ไม่ค้าดฝันเหตุการณ์หนึ่ง
ผมไปเจอเหตุการณ์ ประมาณเวลา 23.55 ผมเห็นเด็กคนหนึ่งกำลังโดดน้ำฆ่าตัวตาย ผมเลยเข้าไป
"น้องจะทำอะไร อย่าทำแบบนั้นนะ"
"อย่ามายุ่งกับผมมอยากตาย"
"ชีวิตน้องยังมีค่านะ เชื่อพี่เถอะ"
"อย่ามายุ่ง ออกไปไกลๆเลย"
ตอนนั้นผมคิดแล้วล่ะว่า คงห้ามเค้าไม่ได้แน่ๆ ผมจึกตัดสินใจ กระโดดเข้าไป
ดึกตัวเด้กคนนั้นแต่ผมพลาด ผมหล่นจากสะพานลงไปพร้อมกับเด็กคนนั้น
ซึ่งเป็นเวลา 24.00 น.พอดี และผมก็มาเจอสิ่งหนึ่ง ที่ทำให้ผมถึงกับตะลึง
เพราะคนที่นั้งข้างบนเป็นยมบาล แล้วพูด
"เจ้ารู้ไหมว่าทำไมเจ้าถึงต้องมาอยู่ที่นี้"
"ก็ผมตายแล้วไง"
"ยังเจ้ายังไม่ตาย ดวงเจ้ายังไม่ถึงฆาต"
"แล้วพาผมมาทำไมล่ะ"
"เจ้ามีเวรกรรมกับเด็กคนนี้ไง"
"ผมไปมีเวรกรรมกับเด็กคนไหนได้ยังไง"
"แต่ตอนนี้เจ้าได้ใช่กรรมไปแล้วด้วยที่จะพยายามช่วยเด็กคนนี้ แต่"
"แต่อะไรครับท่าน"
"เด็กคนนี้ก็ยังไม่ถึงมาตเหมือนกัน"
"แล้วทำไมล่ะครับ"
"ถ้าเจ้าเลือกที่จะให้เจ้ากับไป เด็กคนนี้ก็จะตาย"
"แต่ถ้าผมเลือกที่จะอยู่เด็กคนนั้นก็จะรอด" โอมพูดตอบกับไป
"ถูกต้อง อยู่ที่ว่าเจ้าจะเลือกแบบไหน"
ตอนนั้นผมคิดว่าผมจะต้องอยู่ แต่ผมก็สงสารเด็กคนนั้น แต่จึงตัดสินใจ
ทำเพื่อตัวเองสักครั้ง
จึงตอบไปว่า ....... อยู่ๆก็มีเสียงพูดขึ้นมา
"ไปกันได้แล้วคุณโอม ประตูสวรรค์เปิดรอคุณแล้ว"
รู้แล้วใช่ไหมครับว่าผมเลือกอะไร............
4 พฤษภาคม 2548 09:53 น.
ผู้ชายบนดวงจันทร์
ถ้าคุณรู้ว่าพรุ่งนี้คุณจะตาย คุณจะทำอะไรบ้าง แต่คุณคงอยากทำอะไรหลายอย่างเลยล่ะ มันเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์ ที่เกิดขึ้น
ผมก็ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นกับผมได้ยังไง ผมเป็นคนหนึ่งที่เจอเหตุการณ์แบบนี้ แปลกใช่ไหม ผมจะเล่เหตุการณืที่เกิดขึ้นในช่วงเวลา
1 วันที่ผ่านมาให้ฟัง ก่อนหน้า 1 วันนั้น ผมเดินไปที่ตู้จดหมายหน้าบ้าน ผมไปเจอจดหมายฉบับหนึ่งข้างนั้นมีข้อความเขียวว่า
"หลังเที่ยงคืนพรุ่งนี้คุณจะตาย" ผมถึงกับตกใจ "ใครเล่นอะไรบ้าๆว่าเนี้ย" อารมณ์นั้นผมหงุดหงิดมาก "ส่งใสต้องเป็นคนบ้าแน่
อย่าให้จับได้นะมึง" กริ๊ง ๆ ๆ ๆ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น "ฮาโหล" พูดแบบเสียงดัง "เป็นอะไรหรือโอม" พูดด้วยเสียงไม่พอใจ
"ไม่มีอะไรหรอกหนิง เจอคนบ้าแกล้งแต่เช้าเลย" "แล้วเค้าทำอะไรล่ะโอม" หนิงถามอย่างส่งสัย "ก็เขียนว่าพรุ่งนี้โอมจะตาย"
"อย่าคิดมากนะโอม"หนิงพูดปลอบใจ "ไม่ให้โอมคิดมากได้ไงล่ะ ถ้ามันเป็นจริงๆขั้นมาล่ะ" โอมพูดด้วยเสียงแบบน้อยใจ
"งั้นเดี๋ยวหนิงไปหาโอมนะ ประมาณ11 โมงเจอกันนะ" "รีบมานะหนิงโอมไม่สบายใจ"
หลังจากนั้นได้ไม่นาน หนิงก็มาถึงบ้านโอมก่อน เวลา 11 โมง "โอมหนิงมาแล้วอย่าคิดมากนะ"หนิงพูดปลอบใจโอม
"โอมคิดว่าคงไม่มีอะไรหรอก" "เพื่อความสบายใจนะโอมเราไปทำบุญที่วัดกันดีกว่า" หนิงพูดชวนโอม
"ก็ดีเหมือนกัน เรารีบไปกันเถอะหนิง" โอมพูดแบบรีบร้อน หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ขับรถออกจากบ้าน จนมาถึงวัดวัดหนึ่ง
"นมัสการครับหลวงพ่อ" โอมพูดแบบสุภาพ "เจริญพรเถอะโยม มีอะไรเหรอถึงมหาอัตามา"
"คือว่า ๆ เมื่อเช้าผมไปหน้าบ้าน แล้วเจอจดหมายเขียนว่า พรุ่งนี้ผมจะตาย" โอมกล่าว "ไหนอามาให้ดูซิ"หลวงพอขอดู
โอมก็ยื่นให้หลวงพ่อ "แปลกมากไม่น่าเป็นไปได้" หลวงพ่อพูดขึ้น "มีอะไรเหรอครับหลวงพ่อ" โอมถามแบบตกใจ
"มันเป็นเรื่องจริงโยม" หลังจากนั้นหลวงพ่อก็พูดว่า ตอนนี้ผมกำลังมีเคราะห์กรรมอย่างหนัก มีทางเดียวคือให้ผมทำใจรับมัน
และระมัดระวังตัวเองอย่าให้เกิดอะไรขึ้นกับผม ทางที่ดีอย่าออกไปไหน ถ้าผมผ่านไปได้ผมก็จะไม่เป็นอะไร และจะอยู่ได้อีกถึง 50 ปี
หลังจากที่ผมกลับมาจากวัดผมก้กินไม่ได้นอนไม่หลับ จนกระวันรุ่งขึ้น วันที่ผมไม่อยากให้มาถึง เพราะอาจเป็นวันที่ทำให้ผม
ตาย หรืออยู่รอดต่อไป หนิงบอกว่าจะมาอยู่เป็นเพื่อนผม ผมบอกว่าอย่าเลย ผมขออยู่คนเดียว ถ้าหลังเที่ยงคืนผมไม่โทรไปหา
ก็แปลว่าผมตาย เวลา 06.00 น. ผมนั้งอยู่คนเดียว ได้เกิดเสียงดังขึ้น ผมตกใจมาก หันไปมองว่าเสียงที่เกิดขึ้น เสียงนั้นมันๆๆคือ
โปรดติดตามตอนจบในตอนต่อไป
3 พฤษภาคม 2548 19:06 น.
ผู้ชายบนดวงจันทร์
ตอนที่ 10 ยังไงฉันก็จะรักษาคำสัญญา
หลังจากเหตุการร์วันเจถึงกลับเสียใจมากๆ แต่ก็ไม่ได้ทำชีวิตตัวเองให้ตกต่ำลง
กับมุ่งมั่นทำแต่งานอย่างเดียว จนเวลาผ่านไป 1 ปี
ก็ได้เปลี่ยนแปลงเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว
วันหนึงสาวกับเวสมาหาเจที่ร้าน
"สวัสดีเจ" "สวัสดีโว้ยเจ" เสียงเวสเรียกมาแต่ไกล
"สวัสดี สาว เวส"
"ไปไงว่าไงว่ะเนี้ยแก2คนถึงจะมาหาเราได้"
"ไอ้เจ ข้ากับเจ๊สาวจะแต่งงานกันนะ"
"จริงดิ แอบคบกันตั้งแต่เมื่อไหร่ว่ะไม่เห็นบอกข้าบ้างเลย"
"ข้อก็ไม่รู้เหมือนกันว่ะว่าถูกใจเจ๊สาวได้ยังไง"
"แกระวังให้ดีนะเวสถ้ายังทำตัวเหมือนเดินรับลองน้องชายแกโดนเจี๋ยนแน่"
"สาว ฮาๆๆๆๆ พูดใจฉันว่ะเจ"
"พูดเรื่องแต่งงานก็อดคิดถึงกี๋ไม่ได้ว่ะ"
"แก่ยังไม่ลืมเค้าอีกเหรอเจ"
"มันลืมไม่ได้หรอกสาว"
"ฉันได้ข่าวว่ากี๋ไม่ค่อยมีความสุขนะ ตั้งแต่แต่งงานไป"
"ทำไมล่ะสาว"
"ก็แฟนเค้าเจ้าชู้มากๆทะเลาะกันประจำ"
"เหรอสาว"
"ได้ข่าวว่ากี๋ไม่สบายเข้าออกโรงพยาบาลตลอด ตอนนี้ก็ยังอยูที่โรงพยาบาลอยู่เลย"
"กี๋เค้าเป็นโรคหัวใจอะสาว"
"เหรอฉันไม่เคยรู้เลย"
"ไปเยี่ยมกี๋กันไหมสาว"
"แกไปเถอะ ฉันกับเวสต้องไปแจกการ์ดแต่งงานต่อ"
"อืม"
หลังจากเวสกับสาวออกมาก็พูดกันว่า
"เวสฉันว่าเจมันยังตัดใจจากกี๋ไม่ได้แน่เลย
"ช่ายๆ"
ณ โรงพยาบาลเอกชน เจเดินเข้าไปในโรงพยาบาล แล้วเข้าไปถามว่าห้องกี๋อยู่ไหนจนรู้ว่าห้อง 1112
เจก็เดินไปที่ห้องแล้วก็เคาะประตู ก๊อกๆๆๆ ประตูก้ถูกเปิด เสียงพูดขึ้นว่า
"ว่าไงเจ มาเยี่ยมน้องเหรอลูก"
"ครับคุณอา"
"เชิญๆๆ"
"กี๋ดูสิว่าใครมา"
"พี่เจ พี่เจจริงๆด้วย"
"เป็นไงบ้างครับกี๋"
"ก็ดีขึ้นแล้วค่ะ"
"เดี๋ยวพ่อมานะลูก"
"ค่ะ"
"พี่เจหายไปไหนมา ทำไมไม่ติดต่อมาเลย"
"กี๋ลืมไปแล้วเหรอ ว่ากี๋แต่งงานแล้วนะจะให้พี่ติอต่อไปได้ยังไงล่ะ"
"ค่ะ แล้วพี่มาเยี่ยมกี๋ทำไมค่ะ"
"พี่ก็มาในฐานะเพื่อนคนหนึ่งไง"
"กี๋ขอโทษนะพี่เจ"
"ขอโทษพี่ทำไม"
"กี๋เสียใจค่ะที่ไม่เลือกพี่"
"ไม่เป็นไหร่หรอกครับ อย่าพูดถึงมันเลย"
"กี๋นึกว่าเค้าจะดี แต่ทำเค้าถึงเป็นแบบนี้"
"มันผ่านไปแล้วครับ ถือว่าฝันไปล่ะกัน"
"ค่ะ"
จากนั้นทั้งคู่ก็คุยกัน จนพ่อกี๋ก็กลับเข้ามา แล้วพูดว่า"
"เจเดี๋ยวทานข้าวด้วยกันนะลูก"
"ครับ"
หลังจากที่ทานข้าวเสร็จ เจก็พูดขึ้นว่า
"เดี๋ยวผมขอตัวกลับก่อนนะครับ"
"แล้วมาเยี่ยมน้องอีกนะเจ"
"ครับแล้วผมจะมาอีก"
"สวัสดีครับ"
หลังจากที่เจ ขับรถออกจากโรงพยาบาล ก็ได้มีรถเมล์ขับด้วยความเร็วสูงพุงเข้ามาชนที่รถของเจทำให้เจเสียชีวิต
ห้องที่กี๋นอนอยู่ ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น แล้วมีเสียงพูดขึ้นว่า
"เมื่อกี้ผู้ชายที่มาเยี่ยมไข้ใช้ญาติคุณหรือป่าวค่ะ"พยาบาลเป็นคนถาม
"ใช่ครับ มีอะไรหรือครับ"
"เค้าประสบอุบัติเหตุรถชนเสียชีวิตค่ะ"
"เหรอครับ" พูดด้วยเสียงตกใจ"
"เกิดอะไรขึ้นเหรอค่ะ"
"ไม่มีอะไรหรอกลูก"
หลังจากที่พ่อกี๋ออกไป กี๋เปิดทีวีก็เห็นข่าวในทีวี จึงได้รู้ว่าพี่เจประสบอุบัติเหตุรถชนเสียชีวิต ก็ถึงกับอาการของหัวใจกำเริบต้องส่งเข้าห้องไอซียูเร่งด่วน
" เคลียร์"
"หมอค่ะหัวใจเต้นอ่อนลง ค่ะ"
"ลองอีกทีนะ เคลียร์" หมอส่ายหน้า
หลังจากนั้นหมอก็ออกจากห้องไอซียู พูดกับพ่อกี๋ว่า
"หมอเสียใจด้วยนะครับ" แล้วก็เดินออกไป
พ่อกี๋ถึงกับทรุดลงกับพื้นแล้วน้ำตาก็ไหล
"พ่อทำใจดีนะ ลูกของเราไปสบายแล้ว" แม่พูดด้วยน้ำตา
ในห้องไอซีอยูกี๋ก็พูดขึ้นว่า
"พี่เจมารับกี๋เหรอค่ะ"
"ครับ พี่มาทำตามสัญญา"
"สัญญาอะไรค่ะ"
"พี่เคยสัญญาไงว่าจะอยู่กับกี๋ตลอดไป"
"พี่ยังจำได้อีกเหรอ"
"ถึงกี๋จะลืมแต่พี่ไม่เคยลืมพี่ยังคงรักษาสัญญาตลอดไป"
"กี๋ก็ไม่เคยลืมเหมือนกันค่ะ แต่กี๋เป็นคนผิดสัญญาพี่นะ"
"ไม่เป็นไร ให้พี่ได้ทำตามสัญญาที่พี่ให้ไว้ก็พอ"
ทันใดนั้นกี๋ก็ร้องไห้ออกมา
"กี๋ขอบคุณนะ ที่พี่เจให้อภัยกี๋"
"ก็พี่รักกี๋นิครับ"
"คราวนี้กี๋จะเป็นฝ่ายให้คำสัญญาบ้าง"
"สัญญาอะไรครับกี๋"
"สัญญาว่ากี๋จะอยู่กับพี่ตลอดไปไงค่ะ"
"ครับ"
"เราไปกันยัง"
"ค่ะ"
.หลังจากเสียงเครื่องช่วยหายใจในห้องไอซียูก็ดัง ตี๊ด ๆๆ
แล้วทั้งคู่ก็หายไป