22 มิถุนายน 2548 20:35 น.

..... บนทางเดิน .....

ผีเสื้อปีกบางฯ

.... บนทางเดิน  ทางเดียว  เปลี่ยวเงียบเหงา 
จะมีเรา  คอยจ้อง  มองอยู่นี่ 
เฝ้ารับรู้  ทุกข์สุข  ปลุกชีวี 
ให้ผ่านไป  ด้วยดี  มีแรงใจ 

.... บนทางเดิน  สายนี้  ที่เลือกแล้ว 
แม้นเพื่อนแก้ว  ลังเล  เซไถล 
ยังมีคน  อยู่ห่าง  ต่างแดนไกล 
ส่งแรงใจ  มาทุกครา  ถ้าอ่อนแรง 

.... บนทางเดิน  ทอดยาว  ก้าวสั้นสั้น 
จงบุกบั่น  อย่างมั่นใจ  อย่าหน่ายแหนง 
ประสบการณ์  ผ่านมา  ราคาแพง 
ช่วยบ่มเรา  ให้รู้แจ้ง  แห่งชีวิต ......				
13 พฤษภาคม 2547 10:07 น.

.....รำพึง....ถึงพฤษภา.....

ผีเสื้อปีกบางฯ


.....ควันเทาเบาบางบาง
ล่องลอยอย่างอ่อนอ้อยสร้อย
ชายหนึ่งซึ่งใจลอย
นั่งปลดปล่อยรอยคำนึง

.....มือจับมวนยาเส้น
ดูดเน้นเน้นระลึกถึง
วันวารยังติดตรึง
เหมือนประหนึ่งเมื่อวันวาน

.....พฤษภาปีผ่านพ้น
คนดิ้นรนน่าสงสาร
หลีกลี้หนีซมซาน
อุดมการณ์ย่อยยับไป

.....โลหิตหลั่งไหลริน
เปรอะแผ่นดินนั่นเพราะใคร
ใครนั้นคงเป็นใหญ่
คนกราบไหว้ทั่วพารา

.....กี่ชีวิตที่ดับดิ้น
พวกทมิฬมันเข่นฆ่า
เหมือนอย่างเป็นผักปลา
ไร้ราคาค่าไม่มี

.....ใครก่อ...ใครระยำ
เฝ้าตอกย้ำทุกนาที
ใครนั้นยังอยู่ดี
มีชีวีในสังคม

.....วันเดือนเลื่อนผ่านไป
อกหม่นไหม้ใจขื่นขม
พฤษภา...ก็แค่...พฤษภาคม
กี่คนตรม...ใครจดจำ......				
20 มกราคม 2547 07:44 น.

...... พัฒนะ ปฐมพงศ์ ......

ผีเสื้อปีกบางฯ


.... โยกเยกเอยโยกเยก
ช่างสรรค์เสกกล่อมก่อนนอนหลับฝัน
กระต่ายน้อยนั่งรอพ้อดวงจันทร์
ด้วยใจหวั่นหวาดไหวในค่ำคืน

.... ซึมโศกบ้างบางทีสีของเศร้า
เป็นเพราะเราหรือเพราะเขาหรือใครอื่น
ทิ้งเถอะนะลุกขึ้นมากล้าหยัดยืน
ลืมวันคืนเปลืองเปล่าเรื่องราวคน

.... ย้อนรำลึกตรึกไปในสวนโมก
สุขหรือโศกทั้งมวลที่สวนหม่น
กลางมุ้งฟ้าหลังคาดาวร้าวใจตน
หลุดร้อนรนหมายโมกข์โลกนิทรา

.... ค่ำคืนนี้ฝันดีมีสาวสวย
รื่นระรวยแต่งองค์ทรงสง่า
แต่แล้วไยหายวับไปกับตา
เห็นคนบ้ามานั่งนิ่งพิงเสาไฟ

.... คือ..กวีคนไหน..ใครใครรู้
คือ..ฝีมือชั้นครู..แม้อยู่ไหน
ยินชื่อเสียงที่ร่ำลือระบือไกล
ขอน้อมนบปรบมือให้ด้วยใจจริง......				
10 มกราคม 2547 15:30 น.

..... ความฝัน....ความจริง .....

ผีเสื้อปีกบางฯ


....ความฝัน......
ทุกสิ่งสรรพ์บรรเจิดเลิศเลอค่า
คุ้งโค้งรุ้งสวยสดจรดนภา
มีเนินหญ้าเขียวชอุ่มนุ่มละไม
คนยากจนมีสุขพ้นทุกข์โศก
มองเห็นโลกเป็นโลกสว่างไสว
เพื่อนกระชับจับมือมั่นสัญญาใจ
ยามผิดพลั้งยังอภัยไม่แข่งกัน
มนุษย์ล้วนตระหนักใจในหน้าที่
ไม่แก่งแย่งชิงดีเหยียดสีสัน
ผิวดำเหลืองผิวขาวนี้พี่น้องกัน 
ความสัมพันธ์เทียมเท่าเราคือคน

....ความจริง......
คือทุกสิ่งที่ทำให้ใจหมองหม่น
โน่นคนรวยแบ่งชั้นกั้นคนจน 
ตรมทุกข์ทนต้องกินข้าวเคล้าน้ำตา
รุ้งลออของฉันนั้นอยู่ไหน
เนินหญ้าเคยเขียวใสเหมือนไฟพร่า
โลกกลับกลายคล้ายโลกแห่งมายา
ทั้งตัณหากามาบ้าวุ่นวาย
มนุษย์หนอมนุษย์สุดประเสริฐ
แต่ไยเกิดมัวเมาเขลาได้ง่าย
ใจหยาบกร้านโฉดฉลกลอุบาย
หลงงมงายฆ่ากันทิ้งยิ่งผักปลา 

อยากหลับอยู่เรื่อยไปในความฝัน
ทุกสิ่งสรรพ์บรรเจิดเลิศเลอค่า
แต่ความจริงต้องตื่นฝืนลืมตา
เพื่อไขว่คว้าความฝันอันแสนไกล....				
8 ธันวาคม 2546 08:47 น.

......นาฏลีลา....วันทาครู......

ผีเสื้อปีกบางฯ


.... นุ่งผ้าแดงเสร็จสรรพครูจับนั่ง
ระวังหลังเหยียดตรงคงเส้นสาย
หน้าแฉล้มแต้มรอยยิ้มงามพริ้มพราย
ดัดนิ้วมือแขนขวาซ้ายทอดกรายกร

.... จะ...โจงจะ...ติง...โจ้งติง
ฆ้อง..ปี่..ฉิ่ง..ทอดสำเนียงเสียงออดอ้อน
ระนาด..กรับ..รับดังดั่งเว้าวอน
ร่ายรำตามครูสอนแต่ก่อนมา

.... เพลงช้าเพลงเร็ว...นี้มีเรื่องเล่า
เป็นเพลงเก่าเราร่วมด้วยช่วยรักษา
รำถวายบูชาครูหมู่เทวา
พระฤๅษีพระพิราพ์มาเนิ่นนาน

.... เทพพนมปฐมพรหมสี่หน้า
จีบปลายนิ้วชม้ายตายิ้มหน้าหวาน
..เพลงแม่บท...สลดใจในบุราณ
ก่อตำนานสงครามยักษ์ลักสีดา

.... คิดถึงสาว...สีนวล...ชวนชื่นจิต
เจ้ามิ่งมิตรแสนสนิทเสน่หา
รำไกวกรอ่อนช้อยร้อยมายา
ให้ติดตาตรึงใจยามได้ชม

.... เนียนนิ้วเรียวพริ้วพรายยามกรายกรีด
แสนประณีตรับคำร้องทำนองสม
..ฉุยฉายพราหมณ์...งามนักหนาน่าภิรมย์
ชายตาคมแย้มเยื้อนเหมือนเตือนใจ

.... ดาวดึงส์...เทวโลกมโหฬาร
เป็นวิมานองค์อินทร์ถิ่นอาศัย
เหล่าเทวาเริงรื่นชื่นหทัย
ต่างพร้อมใจรำร่ายถวายกร

.... ฟ้อนเล็บ...งามตามจังหวะคีตศิลป์
รื่นระรินเพลงเร้าเย้าสมร
กรายกรีดเล็บเหมือนเหน็บใจให้อาวรณ์
ชำเลืองค้อนชายเนตรด้วยเจตนา

.... ตั้งแต่เล็กจนใหญ่ได้เรียนรู้
ได้ร่ายรำตามครูได้ศึกษา
มือประณมเหนือเศียรเวียนวันทา
ขอกราบกรานครูบาของข้าเอย......				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟผีเสื้อปีกบางฯ
Lovings  ผีเสื้อปีกบางฯ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟผีเสื้อปีกบางฯ
Lovings  ผีเสื้อปีกบางฯ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟผีเสื้อปีกบางฯ
Lovings  ผีเสื้อปีกบางฯ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงผีเสื้อปีกบางฯ