9 เมษายน 2547 07:20 น.
)))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**(((
สาวมิมิมาร์ทมาดใสวันวัยหวาน
ทอดสะพานรอพบประสพพลัน
ปากเรียวรวงสีแดงดังแรงฝัน
ดุจตะวันหันส่องมองสองใจ
ดวงตากลมชมหยอกแล้วบอกลา
ชักนำพาเพ้อรักจักฝันใฝ่
อกเอวบางร่างเพรียวพาเหลียวให้
แต่ส่งใจไปหาทุกคราครั้ง
9 เมษายน 2547
ผลิใบสู่วัยกล้า
8 เมษายน 2547 13:08 น.
)))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**(((
รวยระรินกลิ่นหอมคราดอมดม
น่าชื่นชมสมสร้างชูร่างไหว
ผลิใบเขียวเรียวรื่นสะอื้นให้
ดอกสดใสสีขาวดังพราวฝัน
ส่งกลิ่นไอไหวพริ้วปลิวลอยลม
แสนสุขสมชมกลิ่นถิ่นบุหลัน
แตกดอกช่อก่อพุ่มคุ้มแพรวพรรณ
ส่อสวรรค์สรรสร้างร่างวิมาร
ยิ่งยาดยามน้ำค้างหล่นพร่างพรม
ราตรีห่มสมสู่กู่วิกาล
ช่างรันจวญยวนยลอยู่บนลาน
ดอกเบ่งบานผ่านแรงแฝงราตรี
หอมเยือกเย็นเยียวยาบุปผาชาติ
สดสะอาดสาดศิลป์ถิ่นคีรี
ดงดอกแก้วรายเรียงเพียงพร้อมพรี
แผ่ศักดิ์ศรีสาดกระจายดังพายพัด
ทุ่งดอกแก้วแวววาดสะอาดขาว
ดุจดังดาวพราวใสไหวสบัด
อยากชักชวนเยี่ยมนามยามลมพัด
เงียบสงัดดอกดอมหอมจรูง
...ขอฝากผลงาน แดนดงดอกแก้ว ไว้อีกหนึ่งผลงานด้วยนะ จริงๆ แล้วมันอาจจะเป็นความชอบส่วนตัวที่ผมนำมาสรรสร้างเป็นบทกลอนรับลมร้อน สงกรานนี้เที่ยวกันให้สนุกนะครับ หลังจากเหน็ดเหนี่อยจากการทำงานกันมานาน ระวังนะครับ วันหนาวในหน้าร้อน เจอน้ำเย็นๆ อาจถึงกับเป็นไข้ได้เลย ผมกะว่าจะหลบร้อนไปทางเหนือใครอยู่แถวนั้นต้อนรับด้วยนะ.................
6 เมษายน 2547
ผลิใบสู่วัยกล้า
7 เมษายน 2547 10:19 น.
)))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**(((
หลังสายฝนบ่นพรำดังร่ำให้
แดดสดใสไหวสาดพาดพื้นดิน
อุ่นไอหอมดอมดมคราชมถิ่น
กลุ่นไอดินกลิ่นระเหยเหมือนเคยผ่าน
เจ้าจักจั่นเรไรไม่ฟังเสียง
ร่วมพร้อมเพรียงเสียงใสแว่วไหวหวาน
ยอดหญ้าเรียวเขียวชุ่มชอุ่มซ่าน
เสียงเพรียกผ่านแผดเผาเอาเงาดิน
เพียงชั่ววันผันผ่านดังสานคืน
เหมือมสะอื้นร่ำหายดังสายบิน
ความชะอุ่มชุ่มชื่นระรื่นสิ้น
ความเคยชินกลับคืนสะอื้นหา
เพียงทักทายทายทักแล้วหักหาย
ต้องแพ้พ่ายแล้งรอนย้อนทาบทา
จากรอนแรมรอคอยเฝ้าคอยหา
เหล่านกกาพาร่อนจากดอนดิน
เฝ้ารอคอยเยี่ยมเยือนมาแยบยล
เจ้าสายฝนหลงฤดูไม่คู่ถิ่น
โบกโบยบินสบัดไหวมาลายสิ้น
ถูกกลืนกินสิ้นหายเสียดายพลัน
กระเซ็นกระสาดรด ชุ่มชื้น หมื่นเห็น
ต้องเจ็บจำสะอื้น ร่ำให้
ดังสายฝนรินรื่น โรยรา
กระเซ็นกระสาดใส เสือกสน ยลเย็น
สายฝนที่ร่วงพรูหลงฤดูแทบจะไม่มีความหมายอันใดเลย ได้เพียงไม่นาแสงแดด ความร้อน ค่อยค่อยเริ่มส่องแสงแผดเผาจนแห้งเหือด
6 เมษายน 2547
ผลิใบสู่วัยกล้า
6 เมษายน 2547 07:49 น.
)))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**(((
จะเกี่ยวก้อยร้อยตะวันเก็บพันดาว
เก็บลมหนาวพราวพัดสบัดไหว
เก็บวันคืนลื่นละมุนที่อุ่นไอ
เก็บดวงใจไออุ่นเปี่ยมคุณค่า
จันทร์กระจ่างห่างไกลไม่ไหวหวั่น
ขอเพียงจันทร์ส่องแสงแรงศรัทธา
ส่องสว่างพร่างพริ้วปลิวทาบทา
ส่องลงมาพาฝันเพื่อวันวัย
หยุดเวลาอ้อนรอล้อลมรัก
เพียงเพื่อพักทักทอเป็นกอใจ
โปรดสวรรค์พลันรับยามหลับไหล
พาห้วงใจคิดคำนึงระรึงรื่น
ทุกหยดหยาดสาดเย็นเช่นน้ำค่าง
ทั่วเรือนร่างพร่างพรมให้ชมชื่น
ฝากนภาน้อมนำยามค่ำคืน
ช่วยหยิบยื่นหมื่นห่วงหาพาละเมอ
เปรียบความหมายล้อมรายมากมายนัก
เหมือนความรักปักคอเฝ้ารอเจอ
ร้อยเรียงรื่นคืนลำใช่พร่ำเพ้อ
อยากละเมอฝากผ่านเท่านานนับ
หากเพียงขอรอทุ่มอยู่ลุ่มฝัน
ตราบตะวันสั่นคอนเคียงค่อนดับ
ทางแสนไกลไหลยาวย่างเท้านับ
จะรอรับพับใจเอาไว้สอน
ดังบรรเลงเพลงนามด้วยงามรัก
ใครมีรักพักพามาฟังกลอน
อยากให้รู้คู่แท้รักแน่นอน
เธอฟังกลอนอ่อนไหวเพื่อใยรัก
ฝากถึงเธอ.......อารมณ์นี้ก็อีกรูปแบบที่เคยคุ้นๆ กันอยู่ กำลังที่จะเริ่มผลิใบอ่อน ขอเพียงน้ำใจเพื่อนพ้องช่วยรินรด เพื่อความงดงามอย่างเต็มตัว เมื่อโตแล้วจะไม่แข็งกร้าว...ขอบคุณครับ
5 เมษายน 2547
ผลิใบสู่วัยกล้า
5 เมษายน 2547 07:44 น.
)))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**(((
คำสัญญาว่ารักแท้ ไว้แก่กัน
จะสร้างสรรวันที่ดีที่มีค่า
จะถนอมอ้อมกอดพี่เท่าชีวา
แม้ศรัทธาพาใจไม่ไหวหวั่น
วันเวลาพาฝันกลัวผันเปลี่ยน
ต่างหมุนเวียนเปลี่ยนไปในวัยวัน
กลัวเธอลืมสิ่งดีดีมีต่อกัน
ปล่อยให้ฉันหลงรางบนทางเปลี่ยว
คืนและวันผ่านผันฉันยังคง
ยังซื่อตรงคงเกี่ยวกำดังคำมั่น
ไม่เคยคิดจิตเวียนแปรเปลี่ยนผัน
แต่คืนวันฝันเธอละเมอไหม
เราสองคนเคยรักกันมั่นเนิ่นนาน
สอดประสานหวานลึกถึกห้วงใจ
เคยห่วงหวงบ่วงรักฟูมฝักไว้
ดังทางใสไหลโลมพสุทา
คำสัญญาที่เคยร่ำไว้ให้แก่กัน ยังห่วงใยเธอเสมอไม่เคยแปรเปลี่ยน สุขและทุกข์รุมเร้ายังเฝ้าใฝ่ฝันไม่เคยห่าง
4 เมษายน 2547
ผลิใบสู่วัยกล้า