26 กันยายน 2547 06:27 น.
)))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**(((
เกิดเป็นไทยไทยแท้ใช่แค่ชื่อ
เคยเลื่องลือลำนำคำกล่าวขาน
ทุกวันนี้มีร่ำแค่ตำนาน
ประสบการณ์หมุนเวียนเปลี่ยนช่วงวัย
แม้กระทั่งอาหารยังจานด่วน
ทุกอย่างล้วนเร่งจ้ำให้นำสมัย
สารพันสารพัดพึ่งปัจจัย
ล้วนเสี่ยงภัยอาเพศเกิดเหตุกลี
ธงไตรรงค์พลิ้วพัดสะบัดไหว
จะมอดไหม้ลบเลือนกลบเกลื่อนสี
ใครกันหนอปลุกปล้ำและย่ำยี
ไร้ปรานีร้างลดหมดราคา
คนกอบกู้อยู่ไหนยังไม่เห็น
มีแต่เป็นตัวกวนป่วนปัญหา
ทั้งกอบโกยโกงกินสิ้นศรัทธา
จนรากหญ้าถูกย่ำยอมกล้ำกลืน
จงร่วมมือกล่อมเกลากันเอาไว้
ความเป็นไทยมีค่าอย่าได้ฝืน
จงถนอมเร่งรัดให้หยัดยืน
จะได้คืนความเป็นไทยไม่ไร้นาม
๑๖/๐๙/๒๕๔๗ ๑๕:๔๖:๓๘ น.
ผลิใบสู่วัยกล้า+เวทย์
24 กันยายน 2547 07:10 น.
)))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**(((
รอยพื้นดินบิ่นแยกแตกระแหง
เป็นดินแดงแห้งผากฝากแปรผัน
เมื่อครั้งก่อนสดชื่นรื่นชีวัน
เคยผูกพันกลับเหลือเพื่อเจ็บใจ
การทำลายท้ายสุดถึงจุดลบ
ถึงจุดจบเจ็บจำช้ำเพียงไหน
สัปดนผลนี่คือฝีมือใคร
แล้วเมื่อไรจะหยุดพาลการทำลาย
เคยร่มเงาใต้ไม้ก็หายสูญ
รอยอาดูรสูญซากดังจากหาย
ใครล่องลอยเปล่าเปลี่ยวและเดียวดาย
เปรียบต้องตายทั้งลุกปลุกระทม
คงไม่มีอีกแล้วที่แพรวพร่าง
ชูยอดร่างอ่อนไหวให้สุขสม
มีแต่รอยรอบล้อมให้จ่อมจม
ความขื่นขมใครรับซับน้ำตา
๒๔/๐๙/๒๕๔๗ ๐๖:๕๐:๔๘ น.
ผลิใบสู่วัยกล้า
23 กันยายน 2547 06:41 น.
)))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**(((
เห็นเขาเศร้าเราหัวร่อขอเย้ยหยัน
แค่พลิกผันรักกลายสลายผล
ก็คร่ำครวญหวนไห้คล้ายเหลือทน
นี่หรือคนเก่งกล้ามาล้าใจ
จะอาวรณ์อาลัยเพื่อใดหรือ
อย่าเพียงยื้อเวลามาแก้ไข
รู้ทั้งรู้ทุกอย่างหนทางไกล
คงจบสิ้นกันไปไม่หวนคืน
อย่าโกหกพกเพ้อละเมอพร่ำ
หรือดื่มด่ำกับวันเก่าคราวรักชื่น
เรื่องผ่านมาเห็นชัดไม่หยัดยืน
ยังทนฝืนหลอกใจทำไมกัน
มากมายนักทอถักเอารักใหม่
ขอเพียงใจหยุดนิดเพื่อคิดฝัน
เรื่องราวเก่าเศร้าไปทำไมกัน
คืนและวันลืมหลังไม่รั้งรอ
เก็บอดีตส่วนลึกไว้ฝึกฝน
เกินเป็นคนมีค่าอย่าไปท้อ
เจ็บแสนเจ็บจงเจ็บจำคำว่าพอ
รอถักทอฟูมฝักที่รักเรา
๒๒/๐๙/๒๕๔๗ ๑๖:๔๐:๒๗ น.
ผลิใบ + อัลมิตรา
21 กันยายน 2547 10:49 น.
)))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**(((
ห่วงหา อาทร
ทอดสายตาเหม่อมองน้ำนองเบ้า
คิดถึงเจ้าจากไกลใจห่วงหา
คราลับเคลื่อนเลื่อนลอยคอยเวลา
สายนาวาจองจับรับเงาจันทร์
มองขุนเขาเงาน้ำระกำจิต
เฝ้าหวนคิดคำนึงถึงตัวฉัน
อาจไม่ดีไม่งามตามผูกพัน
ดังตะวันเลือนลบหลบหลีกไกล
เห็นสายลมเริงร่ายล้อสายหมอก
เคยเย้าหยอกภูผาผืนป่าไหว
เคยกล่อมเห่ห้วงฝันสั่นพงไพร
สู่อ้อมใจให้เหงาเฝ้ารำพึง
แสงระยิบแวววับระยับไกล
สาดส่องใจสั่นไหวให้คิดถึง
ขอบหน้าต่างพรอดพร่ำร่ำคำนึง
ต้องติดตรึงภาพขวัญวันจากลา
๒๑/๐๙/๒๕๔๗ ๑๐:๒๒:๑๙ น.
ผลิใบสู่วัยกล้า
19 กันยายน 2547 13:43 น.
)))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**(((
เสียงหัวใจร่ำร้องเมื่อหมองค่า
ผืนนภากว้างใหญ่ไกลสุดสาย
ดาวประดับขอบฟ้าดาราพราย
เปล่งประกายแวววับขึ้นจับใจ
คือเสียงเพรียกจากใจส่งไปถึง
แทนบทเพลงซึ้งๆได้ยินไหม
เป็นลำนำขับขานจากคนไกล
แทนความในมารำพึง..คิดถึงเธอ
ส่องนำทางร้อยรักถักลำแสง
ต่อเรี่ยวแรงหัวใจไว้ยามเผลอ
เฝ้าค้นหาเสียงเพรียกเรียกจากเธอ
หวังเจอะเจอจดจำพรอดพร่ำกัน
แม้อยู่ห่างกันถึงเกือบครึ่งฟ้า
ฝากดาราย้ำเตือนว่าไม่แปรผัน
ฝากสายลมเอื้อนเอ่ยคำรำพัน
ฝากพระจันทร์เป็นใจไปบอกที
เสียงร่ำร้องจากจิตเมื่อคิดถึง
เคยรำพึงรำพันวันสุขขี
เสียงแว่วไหวเรียกหายามราตรี
ดวงฤดีบุญใดได้พบพาน
ยังไม่ลืมความหลังในครั้งก่อน
ยังจำถ้อยสุนทรอันอ่อนหวาน
ยังไม่ลืมยิ้มใสในวันวาน
ยังซาบซ่านจับใจใครคนนี้
อยากได้ยินร่ำเรียงเสียงตอบรับ
ค่อยขานขับจับวางอย่าร้างหนี
คอยร้อยเรียงดวงใจให้คนดี
ถ้อยท่วงทีทำนองประคองกาย
เป็นบทกวีหวานปานน้ำผึ้ง
ร้อยเรียงคำลึกซึ้งดังใจหมาย
เป็นวจีจากขอบฟ้ามาทักทาย
ไม่เคยคลายความห่วงหวงจากดวงใจ
เอื้อนอ้อยอิ่งหยาดหยดรดคำหวาน
ให้ซาบซ่านทั่วกายทักทายขวัญ
ใจเต้นรัวรอคอยรอยคืนวัน
ตราบนิรันดร์ทุกวันฉันรักเธอ
๑๙/๐๙/๒๕๔๗ ๑๓:๑๔:๑๗ น.
ผลิใบ + นางสาวใบไม้