3 กันยายน 2548 19:34 น.
ผกากรอง
พฤหัส ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ฉันก็คิดถึงเธอ
วันจันทร์ฉันยังเผลอคิดถึงเธอ ทั้งคืน
วันอังคารสราญใจได้เห็นเธอตอนฉันตื่น
วันพุธเธออย่าลืมให้ยืมตังค์สักพันนึง
3 กันยายน 2548 18:44 น.
ผกากรอง
บรรจงทอผืนผ้า
ตระการตาน่าภูมิใจ
ฝีมือพื้นเมืองไทย
เลื่องลือไกลไปทั้วแดน
ละเอียดและประนีต
ล้วนประดิษฐ์ตามแบบแผน
สวยงามดั่งเมืองแมน
ไทยสุดแสนจะภาคภูมิ
3 กันยายน 2548 18:36 น.
ผกากรอง
ไม่ว่าเพชรไหนไหนไม่เท่าเธอ
รักเสมอถ้าเธอไม่ลืมฉัน
ฉันยังคอยเธออยู่ทุกคืนวัน
แต่ว่าฉันเป็นพิการสานกระบุง
2 กันยายน 2548 19:34 น.
ผกากรอง
ให้นางแมวสิบแสนมาแหนแห่
นาคมาแผ่พังพานเต็มน่านสมุทร
อีกปวงชนสวดธรรมพระสัมพุทธ
มิอาจฉุดน้ำฟ้ามาสู่ดิน
เมื่อมนต์ป่ามาพรากไปจากป่า
หยาดน้ำตากลั่นเป็นหยดลงรดหิน
หยดสุดท้ายที่เหลือเพื่อหลั่งริน
และเพื่อกินต่างน้ำดำรงกาย
สร้างภาพฝันซึ้งซึ้งคิดถึงป่า
เสน่ห์เอยเสน่หามาเลือนหาย
เห็นแต่เลื่อยกับขวานไม่เว้นวาย
ที่ทลายล้มป่าเป็นหน้ากลอง
ตึกโตโตโผล่งอกเป็นดอกเห็ด
คือผลเผล็ดป่าพลอยค่อยค่อยพร่อง
ทั้งเจ้าพ่อเจ้าสัวนึกตรึกตรอง
เขม้นมองป่าใหม่จะไม่มี
สงสารปวงสัตว์ป่าเคยอาศัย
มันจะพากันไปอยู่ไหนนี่
ถ้าสิ้นถ้าป่าสิ้นก็สิ้นดี
ทิ้งถิ่นที่บ่ายหน้ามาสู่กรุง
ข้าวขาดน้ำนาขาดฝนคนขาดข้าว
ป่าเมื่อคราวยับเยินด้วยเงินถุง
เตรียมโกยทรายขนใส่ในกระบุง
เพื่อไว้หุงแทนข้าวให้เรากิน
2 กันยายน 2548 19:09 น.
ผกากรอง
ฉันดูทิศทางกว้างไกล
เห็นความตั้งใจ
โรงเรียนต้นไม้สอนคน
ใช่สอนหนังสือหุ่นยนต์
ให้เดินตามก้น
วัตถุอนารยธรรม
ฉันฟังเรื่องราวลำนำ
ชีวิตถ้อยคำ
ภาษาพาเด็กเดินทาง
ฟังครูผู้ปั้นสรรค์สร้าง
ดวงดาวพราวพร่าง
ณ ทางช้างเผือกปัญญา
ฉันมองความหมายยายตา
แม่พ่อเพาะกล้า
แก่นรากจากง้วนดินงาม
เป็นต้นกิ่งรักเรือนงาม
ผลิช่อต่อนาม
ต่อนัยไร่ฟ้านาดิน
ฉันบอกยุบลยลยิน
เล่าสู่รู้สิ้น
แก่เธอผู้เยาว์ข่าวสาร
โรงเรียนในอุดมการณ์
แห่งนี้เขียนอ่าน
ชีวิตและโลกแท้จริง
เธอดูเธอเห็นทุกสิ่ง
ทางไทยไม่ทิ้ง
ศรัทธาฝากไว้ในเธอ