25 ธันวาคม 2549 12:06 น.

รางวัลของนักสู้

ป.ยุทธ

รางวัลของนักสู้
เขาก้าวขึ้นสู่สังเวียนอย่างประหม่า  มองไปมารอบๆ เห็นแต่ผู้คนห้อมล้อมส่งเสียงเกรียวกราว

ทั้งหมดห้ายก ไม่มีคะแนนต้องน็อกอย่างเดียวถึงจะชนะ กรรมการอธิบายกฎกติกาที่ตั้งขึ้นมาให้ทราบ

สิ้นเสียงระฆัง!  คู่ต่อสู้ปรี่เข้ามาหาเขาราวกับว่าโกรธแค้นกันมาเป็นสิบสิบปี  พร้อมกระหน่ำเท้าเตะเข้าใส่อย่างไม่ยั้ง   เขาใช่ว่าจะเป็นเป้านิ่งหลบหลีกและเตะสวนเป็นพัลวัน 

เขารู้ดีว่าคู่ต่อสู้อายุมากกว่า  และนั่นหมายถึงประสบการณ์ในการชกย่อมมีมากแน่นอน  กระดูกก็ต้องคนละเบอร์กับเขา  แต่เมื่อเจ้านายประกบคู่ให้แล้วเขาต้องสู้ -สู้เพื่อชัยชนะ และเพื่อเป็นของขวัญให้แก่เจ้านายผู้แสนดีของเขา

เขารู้ตัวดีว่าก้าวขึ้นสู่สังเวียนนักชกครั้งนี้เป็นครั้งแรกในชีวิต  แต่ไม่หรอก !...ไม่มีคำว่ากลัวในหัวใจแม้แต่น้อย  เขาอาจจะประหม่าก็ตามที   ใครๆ หรือก็ต้องมีครั้งแรกในชีวิตกันทั้งนั้นแหละ 
 
เขาแลกเพลงเตะกับคู่ต่อสู้สลับกันไปมา ไม่มีใครกลัวใคร ไม่มีใครอ่อนข้อ ต่างสู้กันอย่างสุดฤทธิ์  ถึงพริกถึงขิงเรียกเสียงเชียร์จากผู้ชมดังลั่นสนั่นโรง

เขายอมรับว่าถนัดเตะเสียมากกว่าจะใช้ส่วนอื่นเป็นอาวุธ  คู่ต่อสู้หรือก็คงจะเช่นกันเพราะเห็นมีแต่เตะโต้ตอบเพียงอย่างเดียว

ใบหน้าและลำตัวเขาเริ่มชาจากฤทธิ์เท้าฝ่ายตรงข้าม  เวลานี้ไม่มีอะไรจะน่ากลัวไปกว่านี้อีกแล้ว เขาเดินลุยเข้าใส่อย่างเมามัน โดยไม่สนใจว่าจะถูกเตะสวนมามากน้อยสักแค่ไหน? จุดมุ่งหมายคือน็อกเพียงอย่างเดียว  อย่างเดียวเท่านั้นจึงจะได้ชื่อว่าชัยชนะ

เอาเลยลูก   ลุยมันเข้าไป  นั่น  ต้องอย่างนั้นดีมาก  ทุกครั้งที่เขาเตะถีบคู่ต่อสู้มักจะได้ยินเสียงเจ้านายร้องเชียร์และปรบมืออย่างสะใจ

เลือดเริ่มซึมตามใบหน้า   ส่วนคู่ต่อสู้ก็ไม่ต่างกันสักเท่าไหร่  
ต่างฝ่ายต่างอ้าปากเพื่อช่วยระบายลมหายใจจากความเหนื่อยล้าที่ก่อตัวเข้ามาเยี่ยมเยือน

เขาต้องอาศัยความหนุ่ม ความสดกว่าเข้าแลก !

บางครั้งทั้งคู่สลับจากการแลกเตะผละออกมาจดจ้องกลางเวทีสักครู่เพื่อพักเหนื่อยไปในตัว ก่อนเข้าโรมรันกันอีกครั้งจนหมดยก 

เจ้านายคงรักเขามากจึงเป็นพี่เลี้ยงเสียเอง  
ช่วงพักยกจึงให้น้ำเขาอย่างเอาอกเอาใจ ทะนุถนอม ผ้าชุบน้ำเย็นๆ เช็ดตามใบหน้า และตามตัวจนสดชื่น   ความเหนื่อยหายไปเหมือนปลิดทิ้ง
ดีมากลูก  ต้องให้มันได้อย่างนี้สิ  ยกนี้เอาอีก  อย่าลืมนะว่าครั้งนี้พ่อทุ่มสุดตัว

////////////////////////////////////

ตั้งแต่เกิดมาเขาอาศัยอยู่กับเจ้านายมาตลอด   ไม่เคยเห็นหน้าพ่อหน้าแม่เสียด้วยซ้ำ   และเขาก็ไม่สนใจที่จะสืบหา  มีแต่ความมุ่งมั่นเพื่อที่จะตอบแทนบุญคุณเจ้านายเพียงอย่างเดียว 

ในชีวิตเห็นมีแต่เจ้านายเท่านั้นที่เลี้ยงดูดังเช่นพ่อบังเกิดเกล้า  มีข้าวปลาอาหารให้กินอย่างเต็มอิ่ม มีบ้านให้อยู่อาศัยอย่างอบอุ่นสุขสบาย 

ทุกๆ เช้าเย็นเจ้านายจะพาฝึกมวย  เขายอมรับว่าสนุกไปกับการกีฬาประเภทนี้มาก  จึงตั้งใจฝึกซ้อมอย่างจริงจัง และทุ่มเทอย่างเต็มที่

 วันๆ ไม่มีอะไรมาก  ภารกิจของเขามีแต่กินกับซ้อมมวย

 จนย่างเข้าสู่วัยหนุ่ม     เขายอมรับว่าร่างกายของเขาแข็งแกร่งดังขุนเขา  มีเพื่อนๆ มาร่วมฝึกซ้อมมวยด้วยกันมากมาย  บางครั้งเจ้านายเอาเพื่อนเป็นคู่ล่อเป้า  บางทีฝึกซ้อมด้วยการประลองฝีมือการชกกับเพื่อนๆ  เขามักจะซ้อมอย่างเอาจริงเอาจัง  มีหลายครั้งทีเดียวที่ทำให้เพื่อนได้รับบาดเจ็บ  และทุกๆ ครั้งเขาจะเป็นฝ่ายชนะอยู่เสมอ  จนเป็นที่พึงพอใจของเจ้านาย
อย่างนี้สิมิเสียแรงที่เลี้ยงดูมา  อาทิตย์นี้เป็นคิวเอ็งแน่
  
จวบจนเวลาขึ้นสังเวียนมาถึง เขามั่นใจในตัวเองเต็มเปี่ยม
เอาดีๆ นะลูก  พ่อเดิมพันไปหลายหมื่นอย่าแพ้เชียวนา ไม่ต้องไปกลัวว่ามันจะเก่งกาจมาจากไหน?  ทำให้ได้ตามที่ซ้อมไว้นะลูกนะ  พ่อจะให้กำลังใจ ถ้าชนะมาจะให้รางวัลอย่างงามทีเดียว เจ้านายบอกเขาขณะรอกรรมการเวทีเตรียมความพร้อม
///////////////////////////////

ยกที่สองเริ่มขึ้น  
เขากระโดดใส่คู่ต่อสู้อย่างคึกคะนอง  แต่ก็ต้องถูกเตะสวนออกมาจนเซถลา  เสียงเฮจากกองเชียร์ฝ่ายตรงกันข้ามดังกึกก้อง
 เขาเดือดดาลมากยิ่งขึ้นเมื่อคู่ต่อสู้หลบหลีกหลอกให้เตะอากาศเล่นๆ  แม้ว่าชั้นเชิงจะเหนือกว่าเขาก็ตามเถอะ  เขาคิดอย่างหมั่นไส้จึงเดินเข้าลุยแบบถวายชีวิต   พลางเตะเข้าใส่อย่างไม่ยั้ง  เจ้านายได้ใจส่งเสียงเชียร์และปรบมือตลอดเวลา
เดินเข้าไป   เดินเข้าไปนั่นอย่างนั้น สะใจพ่อจริงๆ

	เขาคาดคะเนว่ามีกำลังมากพอตลอดยก  จึงเดินหน้าเข้าเตะอย่างไม่กลัวเกรง แม้ว่าคู่ต่อสู้จะหลบหลีกด้วยชั้นเชิงที่มีประสบการณ์  แต่สีหน้าดูหวาดหวั่นไม่น้อย 
	เอาเลย   น็อกมันเลย 

	ปลายยกคู่ต่อสู้เริ่มอ่อนแรงจึงเข้าประกบวงใน  เอาคอพาดบ่ากันละกัน  จนอะไรกันไม่ได้ จึงรอจังหวะผละถอยออกมาเพื่อเตะคู่ต่อสู้   แต่พอถอยออกมาทีไรก็ต้องถูกเตะก่อนทุกทีไป  เพลงเตะเขาเริ่มช้าลง..ช้าลง  จนหมดยก

เลือดซึมเต็มใบหน้าเขามากยิ่งขึ้น  แต่มีความรู้สึกชามากเสียกว่าความเจ็บปวด เจ้านายเอาผ้าชุบน้ำยาอะไรบางอย่างในถ้วยซับเลือดจนรู้สึกแสบ แต่ผ่อนคลายเจ็บปวดได้มาก  จากนั้นก็กดไว้แน่นเพื่อห้ามเลือด
เอาอีกหมื่นเป็นไงเพื่อน  ใครคนหนึ่งพูดกับเจ้านาย
ได้เลย  เจ้านายจับมือกับชายคนนั้น
ยกที่ผ่านมาเขายอมรับว่าโกรธแค้นคู่ต่อสู้มากที่เตะหน้าเขาจนแตกเลือดซิบ  ยกนี้ต้องเอาคืนให้ได้
ยกที่สามเริ่มขึ้น
เขาปรี่เข้าใส่พร้อมประเคนแข้งไปหลายครั้ง  ได้ผลบ้างไม่ได้บ้าง  นึกในใจว่าฝีมือของเขาจะต้องไม่เป็นรองคู่ต่อสู้อีกต่อไป  เขาต้องทำให้ได้เหมือนที่เคยซ้อมกับเพื่อนๆ

จังหวะที่เขาเตะเข้าใส่อย่างเมามันนั้น  คู่ต่อสู้เตะสวนมาอย่างแรงโดยที่ไม่ทันระวังตัว...เขารู้สึกชาวูบที่ใบหน้าและดวงตา  ความเจ็บปวดแล่นเข้ามาอย่างรุนแรง  คล้ายกับว่าเท้าของคู่ต่อสู้มีสิ่งแหลมคมมาทิ่มแทงที่ดวงตา  เขาเพียงว่าเวลานี้เลือดอาบเต็มใบหน้า 

 ไม่นานนัก...ดวงตาข้างนั้นของเขาก็มืดมิด  โอ!!...ตาของเขาบอดเสียแล้วหรือนี่? 
แต่...ไม่หรอก!  ไม่สามารถหยุดยั้งการเดินหน้าของเขาได้  มันยังไกลหัวใจนักสำหรับยอดนักสู้หัวใจเหล็กอย่างเขา  ตาอีกข้างยังมองเห็นนี่! เขาคิด
เขากลัวแต่ว่าจะมีการยุติการชกแล้วถูกจับแพ้ต่างหากล่ะ  แต่...ทุกอย่างยังดำเนินไปตามปรกติ
บ่อยครั้งที่เขาเตะใส่ฝ่ายตรงข้าม  แต่มันช่างไร้เป้าหมายเสียส่วนมาก เขามองคู่ต่อสู้ด้วยดวงตาที่เหลือเพียงข้างจึงเห็นไม่ถนัดนัก   คู่ต่อสู้รู้จุดอ่อน  เดินเวียนไปทางด้านดวงตาที่มองไม่เห็น  เขาหมุนตามไปอย่างไม่ลดละและพร้อมสู้ทุกขณะ

ขณะหมุนตาม  และแล้ว จังหวะนั้น!!...    เขาโดนเตะที่ก้านคออย่างจัง  จนเซถลาล้ม  พอได้สติเขารีบลุกขึ้น  แต่สติมึนงง จึงเดินเป๋ไม่อยู่ในอาการที่จะต่อสู้   เสี้ยววินาทีนั้นเอง!... เขาโดนเตะซ้ำอีกครั้งบัดนี้เห็นมีแต่เพียงดาวกระจายรอบข้าง
พอรู้ตัว  โอ้!!...เราแพ้เสียแล้วหรือนี่  โธ่!...เจ้านาย  เขาคิดอย่างปวดร้าว

จากนั้น  เขาไม่ได้ยินเจ้านายพูดอะไรกับเขาอีกเลย   แสดงว่าเจ้านายโกรธเขามาก   
 พอกลับถึงบ้านแล้วเจ้านายให้ชายคนนั้นพาเขาเข้าไปในห้อง   เขาคิดว่าคงเป็นหมอที่จะมารักษาเป็นแน่
สักครู่...ชายคนนั้นจับเขาให้นอนลง 
แต่แล้ว!!...สิ่งที่ไม่คาดฝันก็บังเกิด   
เขาถูกจับให้แหงนหน้าขึ้นอย่างแรงจนเจ็บ  และแล้ว...  คุณพระช่วย!!!...เขายิ่งรู้สึกเจ็บปวดที่ลำคอเป็นทวีคูณ   ความรู้สึกคล้ายกับว่าถูกของมีคมบาดลึกลงไป  
ชะใช่!..ใช่แน่แล้วมันคือของมีคมแน่ๆ  มันอะไรกันนี่?  แล้วเจ้านายไปไหนเสียล่ะ?ถึงยอมให้เขาถูกกระทำเช่นนี้
หรือว่าเจ้านายสั่งให้ฆ่าเขา?...ฆ่าจากผลพวงแห่งความพ่ายแพ้  หึ...เจ้านายใจร้าย เขาคิดพลางขบกรามแน่นอย่างเจ็บปวด
เลือดของเขาพุ่งกระฉูด  เขาพยายามดิ้นสะบัดไปมา  แต่ถูกชายคนนั้นจับตัวไว้แน่น  
การกีฬามีแพ้มีชนะ  แต่นี่ถึงขั้นฆ่าแกงกันเชียวหรือ?  ช่างโหดร้ายสิ้นดี  
หากรู้ตัวมาก่อนเขาจะต้องอ้อนวอนขอชีวิต เพื่อจะได้ขึ้นสังเวียนแก้มืออีกครั้ง
แต่นี่!..โอ..มันหมดโอกาสเสียแล้ว  ลมหายใจเฮือกสุดท้ายก่อนสติจะดับวูบ  เขาได้ยินเสียงเจ้านายพูดอย่างอารมณ์เสีย
ไก่ชนอย่างเอ็ง  แพ้มาก็ต้องถูกเชือดแกล้มเหล้าตามระเบียบล่ะวะ     แม่ง..ล่อข้าหมดไปซะหลายหมื่น 


@@@@@@@@@@@@@@				
7 ธันวาคม 2549 14:10 น.

ผู้ร่วมชะตากรรม

ป.ยุทธ

เขาบึ่งมอเตอร์ไซค์ฝ่าสายฝนที่หล่นโปรยปราย   ไปตามถนนสายลูกรังที่ทอดยาวสู่หมู่บ้านข้างหน้า  
สภาพน้ำท่วมขังตามไหล่ทางและท้องถนนในบางช่วงดูแล้วคล้ายคลองเสียมากกว่า  

สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นข้าวเขียวขจีที่มีน้ำปริ่มคันนา 

 แดดอ่อนๆ   ฉายแสงตัดกับละอองฝน  ก่อเกิดรุ้งคดโค้งประหนึ่งจิตรกรมือเอกแต้มแต่งเป็นภาพเขียนให้ผู้คนได้ดูชม    

	เขาบิดคันเร่งหวังให้ถึงที่หมายก่อนเม็ดฝนห่าใหญ่จะเทลงมา และเป็นอุปสรรคในการเดินทาง     

 	นายช่างออกสำรวจและก็ประเมินความเสียหายนะว่ามีกี่ไร่? ไปประสานกับสมาชิก  อบต.ในหมู่บ้านน่ะแหละ   เขานึกถึงคำสั่งของหัวหน้าก่อนมา  

 	ฝนตกมาหลายวันแล้ว  กรมอุตุนิยมประกาศเตือนพายุโซนร้อนพัดผ่าน  อาจก่อให้เกิดภาวะน้ำท่วมฉับพลันได้  อำเภอแจ้งให้  อบต.  รายงานพื้นที่น้ำท่วม   และประกาศเตือนชาวบ้านให้ระมัดระวัง  พร้อมเตรียมตัวอพยพออกจากที่ลุ่มเมื่อมีสัญญาณเตือนมา   

	อบต. ทองดีครับ  อบต. ทองดี  อยู่ไหมครับ?...  เขาตะโกนเรียกเมื่อมาถึงบ้านหลังหนึ่ง  

	อ้าวนายช่าง เชิญครับ เชิญบนบ้าน ผู้ถูกเรียกเชื้อเชิญ  
 เขาแจ้งความประสงค์แก่เจ้าของบ้าน  
  
 	เขาพายเรือสู่เวิ้งน้ำหลากท่วมทุ่ง  ฝนหยุดตกไปแล้ว  เวลานี้มองไปทางไหนเห็นมีแต่น้ำที่ขาวโพลนเต็มพื้นที่ไปหมด  ต้นไม้ใหญ่เหลือเพียงช่วงกลางลำต้นขึ้นไป  พื้นล่างใต้น้ำที่เขาพายเรือผ่านเขารู้ดีว่าเต็มไปด้วยต้นข้าวที่กำลังเจริญงอกงามจากน้ำพักน้ำแรงของชาวนาที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจปักดำไว้ด้วยความเหน็ดเหนื่อย  ปุ๋ยราคาแพงที่หว่านลงไปถูกน้ำซัดหายไปในพริบตา   นี่ถ้าหากน้ำท่วมขังเกินกว่าสิบวันล่ะก็ข้าวคงเฉาตายหมด  ชาวนาเดือดร้อนแน่  เขาอดสงสารชาวนาไม่ได้  เขารู้ดีว่าทำนานั้นเหนื่อยแค่ไหน   เพราะเขาก็ลูกชาวนาคนหนึ่ง  นี่ล่ะหนาปีไหนฝนมาน้อยก็แห้งแล้ง  ทำนาไม่ได้ผล  ปีไหนน้ำมามากเกินไปก็ท่วมนาข้าวเสียหายอีก  ไม่รู้ทำไมธรรมชาติจึงขาดความพอดิบพอดีอย่างนี้  เขาคิดพลางสายหน้าอยู่คนเดียว  

 	เรือถูกพายไปเรื่อย ๆ  อย่างไม่รีบเร่ง  เขามองไปรอบๆ เพื่อคะเนพื้นที่คร่าวๆ  
 นี่ถ้า อบต. ทองดีไม่ไปเยี่ยมลูกสาวป่วยที่โรงพยาบาลเขาคงมีเพื่อนมาด้วยอย่างน้อย ๆ  คงมีคนช่วยพายเรือ  และมีเพื่อนพูดคุย  เขาคิด  

 	เป็นไงครับ  ได้ปลาเยอะไหม  เขาร้องถามชาวบ้านที่พายเรือสวนทางกลับ  

 	ได้เยอะพอดูล่ะครับ  นายช่างน้ำหลากอย่างนี้ปลาชุมนัก  คนนั่งหัวเรือตอบ  

	สำรวจพื้นที่หรือครับนายช่าง  ระวังนะครับตรงโน้นน้ำไหลเชี่ยว คนนั่งท้ายเรือร้องบอก  

	ครับขอบคุณครับ  เขาตอบพลางพยักหน้าส่งรอยยิ้มอย่างเป็นมิตร  เขาจำได้ว่าชาวบ้านสองคนนี้เคยร่วมกันทำความสะอาดพัฒนาหมู่บ้านเมื่อครั้งที่เขาออกปฏิบัติงานตามโครงการ  อบต. เคลื่อนที่เมื่อหลายเดือนก่อน  

	เขานึกถึงพื้นที่ที่กำลังพายเรือผ่าน  เมื่อช่วงหน้าแล้งที่ผ่านมาเขาออกสำรวจโครงการขุดลอกลำห้วย     วันนั้น อบต. ทองดีชวนเพื่อนบ้านมาตั้งเครื่องสูบน้ำออกจากสระจนหมดแล้วช่วยกันจับปลาได้มากโขทีเดียว  ก่อนที่จะนำมาทำอาหารกินกันอย่างเอร็ดอร่อย  เหล้าขาวหมดไปหลายขวด  ทุกคนเมาได้ที่แล้วพากันร้องรำทำเพลงอย่างคึกครื้น  เขาเคาะถ้วยชามให้จังหวะปากก็ร้องประสานเสียงเป็นที่สนุก สนาน เฮฮา

เขาไม่เคยเห็นที่แห่งนี้น้ำท่วมสูงอย่างนี้มาก่อนตลอดระยะเวลาเกือบห้าปีที่เขามาปฏิบัติราชการที่นี่  หรือว่ามันเป็นปีแห่งความอดอยากปากแห้งของชาวบ้านกระนั้นหรือ  เขาคิดพร้อมหยุดพายพลางหันมองไปรอบ ๆ  พื้นน้ำที่เวิ้งว้าง  ปล่อยให้เรือแล่นเฉื่อย ๆ  ไปข้างหน้าอย่างช้าๆ  เขาสะบัดแขนให้คลายเมื่อยก่อนควักบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบอัดควันเข้าปอดอึดใหญ่  ก่อนจ้ำพายต่อไป  คาดว่าถึงเนินข้างหน้านั้นคงเป็นจุดศูนย์กลางที่จะประมาณการพื้นที่น้ำท่วมได้ทั้งหมดแล้วจะได้กลับเสียที  

	พลัน...ท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้มอีกครั้ง  ไม่นานนักเม็ดฝนเริ่มร่วงปลิวพลิ้วไหวลงกระทบพื้นน้ำ  

 	เขาเร่งพายจนถึงจุดที่ตั้งใจ  ข้างหน้าเป็นเนินสูงน้ำยังท่วมไม่ถึง   ดูแล้วไม่ต่างไปจากเกาะเล็ก ๆ เขาเพ่งมองเพิงพักที่ยกพื้นสูงอยู่ใต้ต้นมะม่วงชั่วครู่ก่อนหันไปดูรอบๆ ทั้งสี่ทิศ แล้วจิ้มเครื่องคิดเลขก่อนจดบันทึกลงบนสมุดพก  

 	ฝนลงเม็ดมากขึ้น  แรงขึ้นทุกขณะ  จนกลายเป็นเทกระหน่ำลงมาอย่างหนัก  เขาขยับหมวกด้านหน้าลงต่ำก่อนที่จะจ้ำพายสุดแรงจนถึงตลิ่งแล้วผูกเรือไว้กับต้นไม้วิ่งไปหลบฝนที่เพิงพักนั้น  

หมาพันธุ์ทางตัวผอมโซ  ที่นอนอยู่ใต้ถุนยกหัวขึ้นส่งเสียงเห่าแหบแห้งก่อนที่จะทิ้งหัวลงนอนตามเดิมอย่างไม่สนใจ  เขาก้าวขึ้นไปนั่งบนกระดานที่ยกสูง พลางแหงนมองสังกะสีมุงหลังคาที่เก่าคร่ำคร่าเต็มไปด้วยสนิมจนสีเปลี่ยนไป  ก่อนหันมองรอบข้าง  ฟืนกองอยู่ใกล้เตาไฟในขณะที่เตายังมีประกายแสงจากถ่าน  แสดงว่าเจ้าของออกไปก่อนหน้านี้ไม่นานนักเขาคิด  

 	เขาก่อไฟในเตาเพิ่มเพื่อผิงคลายหนาว  และเป็นการผึ่งเสื้อผ้าที่เปียกชื้นให้แห้งไปในตัว  เสียงเม็ดฝนตกกระทบสังกะสีดังกราวใหญ่  ลมพัดกิ่งมะม่วงโอนเอนไปมา  บัดนี้พื้นน้ำถูกเม็ดฝนตกกระทบ  ดูราวกับว่าน้ำกำลังประทุเดือดจากการต้มไฟ  

	กว่าฝนจะหยุด   หลับเอาแรงก่อนดีกว่า  เขาพึมพำพร้อมปัดฝุ่นพื้นกระดาน   แล้วทิ้งตัวลงนอน  

  	เขารู้สึกว่าอึดอัดหายใจไม่ออก และแล้วก็ปรากฏชายร่างใหญ่ไม่สวมเสื้อเอาเท้าข้างหนึ่งเหยียบอกเขา-เขาร้องอย่างตกใจ   แต่ร้องเท่าไหร่ก็ร้องไม่ออกเสียง  ความพยายามสุดท้ายเขาต้องดิ้นให้หลุดจากเท้าอันใหญ่ของชายคนนี้แล้วฮึดสู้แบบสุดฤทธิ์  ในชีวิตเขาไม่เคยกลัวใครเช่นนี้มาก่อน  ใบหน้าที่แดงก่ำ  หนวดที่ยาวโค้ง  ดูช่างมีอำนาจแฝงลึกลับ  น่ากลัวอะไรเช่นนี้  และแล้วเขารวบรวมพลังเฮือกสุดท้ายเท่าที่มีดิ้นสะบัด  พร้อมถีบออกไปเต็มแรง  

 	เอ๋ง ๆ ๆ  
เสียงร้องของหมาผอมโซตัวนั้น  ไม่รู้ว่ามานอนข้าง ๆ  ตั้งแต่เมื่อไหร่  เสียงของมันร้องออกมาอย่างเจ็บปวดระคนตกใจเมื่อโดนถีบ  ชั่วครู่จึงค่อยๆ เงียบเสียงแล้วหมอบตัวลงนอนด้วยท่าทางเกรงกลัว  มันคงกระโดดขึ้นมานอนผิงไฟในเตาคลายหนาว  แล้วชายร่างใหญ่นั่นล่ะ  โอฝันไปนะเอง  เขาคิด  

	ฝนยังคงเทลงมาอย่างหนักและต่อเนื่องไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเอาเสียเลย  
 เขาจุ๊ปากเรียกหมาตัวนั้น  มันกระดิกหางในท่านอนด้วยท่าทางเป็นมิตรผิดกับเมื่อตอนเข้ามาใหม่ๆ  เจ้านายเอ็งคงหนีน้ำไปแล้ว  แต่ทำไมไม่เอาเอ็งไปด้วยล่ะ  หรือว่าเขาจะกลับมารับเอ็งทีหลังแต่น้ำดันท่วมสูงเสียก่อนจึงเข้ามาไม่ได้  เขาคิดพลางส่ายหน้า  เมื่อรู้ว่าตัวเขาเองก็ไม่ต่างอะไรไปจากมันเสียเท่าไหร่  

 	เขาควักเอาบุหรี่มาจุดสูบ  ดูในซองเป็นมวนสุดท้ายแล้วจึงขย้ำซองโยนลงใต้ถุน  พลางคิดหากฝนไม่หยุดตกแล้วเขาจะทำยังไงดี  ถ้าจะพายเรือฝ่าสายฝนออกไปคงไม่รอดน้ำท่วมเรือล่มแน่  เขาดูดบุหรี่เป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะดีดออกไปข้างนอกชายคา  แสงไฟแดงวาบก่อนที่จะดับหายไปในความมืดที่มาเยือนอย่างไม่รู้ตัว  ฟืนถูกโยนเข้าไปในกองไฟเรื่อย ๆ  แสงจากเตาสว่างขึ้น  ไอ้ผอมโซนอนกระดิกหางเหมือนขอบคุณ  

 	คืนนี้คงนอนที่นี่ก่อน  เขาคิดพลางเอามือลูบท้องด้วยความหิวจนต้องมองรอบๆ ข้างเผื่อมีอะไรเหลือให้รองท้อง  

 	ฮ้ามีแต่เกลือ  เขาถอนหายใจเมื่อเปิดดูกระสอบปุ๋ยใบเก่าที่วางอยู่    จากนั้นก็ทิ้งตัวลงนอนอีกครั้ง  หากฝนหยุดตกช่วงกลางคืนเขาก็กลับไม่ได้อยู่ดี  มืดออกอย่างนี้ขืนออกไปคงหลงทิศทางเป็นแน่  เวลานี้ลูกเมียคงนั่งชะเง้อคอยเขาแล้วซินะ  ฝนนะฝน  ไม่น่าเลย  

 	เขาตื่นมาเมื่อรู้ว่าเช้าแล้ว  ฝนหยุดตกตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้  แต่ท้องฟ้ายังมืดครึ้ม  เมื่อเขาทอดสายตาไปเบื้องล่าง    และแล้ว...เขาต้องสะดุ้งตกใจ  เมื่อน้ำท่วมสูงขึ้นมาใกล้จะถึงพื้นกระดาน  ที่เขาอยู่

	เรือเรือละ  เขาหันไปทางเรืออย่างตะลึงงัน  บัดนี้เห็นมีแต่กระแสน้ำที่เชี่ยวกราด  

	โธ่เว้ยแล้วจะกลับยังไงวะนี่  เขาสบถพร้อมส่ายหน้าอย่างสิ้นหวัง  

	  เขาภาวนาให้คนหาปลาผ่านมาทางนี้  จะได้ขออาศัยกลับด้วย  แต่ใครเล่าจะกล้ามาในเมื่อกระแสน้ำไหลเชี่ยวเช่นนี่  หากฝนยังตกลงมาอีกเขาคงกลับไม่ได้แน่  ยิ่งพรุ่งนี้น้ำคงท่วมสูงกว่าเดิม  เขาคงจะต้องไปอยู่บนหลังคา  หรือไม่ก็บนต้นมะม่วงเป็นแน่เขาคิด  
ไอ้ผอมโซเดินไป-มาพลางร้องหงิง ๆ  คล้ายกับว่ากำลังวิตกในสถานการณ์ครั้งนี้  

 	เอ็งหิวเหมือนข้าไหมวะ  เขาถามเพื่อนร่วมชะตากรรมทั้ง ๆ  ที่รู้ว่ามันตอบไม่ได้อยู่แล้ว    ยังดีที่พอมีน้ำในโอ่งดินให้ดื่มประทังหิว  แต่ช่วยได้ไม่มากนัก 
 เวลานี้เมียเขา  เพื่อนร่วมงาน  หัวหน้า จะคิดหาทางช่วยเขาไหมหนอ  แต่ถ้าหากไม่มีใครมาช่วยล่ะ  เขาคงเขาคิดอย่างกังวล   ก่อนทิ้งตัวลงนอนอีกครั้ง

	เขาตื่นขึ้นมาเป็นวันที่สอง  วันนี้ดูท้องฟ้ายังมืดครึ้ม  เขาดึงเอาไม้ที่ปักหมายระดับน้ำไว้ขึ้นมาดู  น้ำคงที่แล้ว 
 เขาตักน้ำจากโอ่งขึ้นดื่มลงลำคอที่แห้งผาก  ก่อนชะโงกมองน้ำที่เหลือในโอ่งไม่มากนัก  เขาหยิบเอายาเส้นที่เจ้าของทิ้งไว้มาม้วนใส่กระดาษจุดสูบ  และแล้วก็ต้องสำลักเมื่อดูดควันเข้าปาก  สูบอีกสองสามทีจนชินกับรสชาติฉุนนั้น  
หากน้ำลดลงกว่านี้เขาจะดำน้ำเอาเรือขึ้นมาพายกลับบ้าน  คาดว่าพรุ่งนี้เช้าน้ำคงลดลงมาก  เขาครุ่นคิดก่อนที่จะเอนตัวลงนอนโดยไม่รู้ว่าจะทำอะไรดีไปกว่านี้  

	วันที่สาม...
ไร้วี่แววคนมาช่วย  หรือว่าพวกนั้นจะปล่อยให้เขาเผชิญชะตากรรมเช่นนี้กระนั้นหรือ  เขาคิดแล้วเพ่งมองระดับน้ำที่ลดลงตามที่คาดไว้  เขาจึงตัดสินใจที่จะดำน้ำเอาเรือขึ้นมา  แต่พอลุกขึ้นยืนถอดเสื้อผ้าเท่านั้น  เขาต้องเซถลาอย่างไร้เรี่ยวแรง  เขานึกถึงข้าวเหนียวกับเนื้อย่างสักชิ้น  มันคงทำให้เขามีกำลังขึ้นมาดุจเดิม  

 	ยิ่งคิดถึงข้าวเหนียวกับเนื้อย่างยิ่งทำให้น้ำลายสอ  เขามองไอ้ผอมโซเวลานี้มันนอนหายใจผะแผ่วอย่างอ่อนแรงเช่นกัน   เขารู้ตัวว่าหากไม่มีอะไรถึงท้องในวันนี้เขาคงไม่รอดแน่แล้ว  

ฉับพลัน...สายตาของเขาก็ต้องหันกลับไปเพ่งมองไอ้ผอมโซอีกครั้ง  เวลานี้เขาหน้ามืด   ตาลายเสียแล้ว   
X               X               X
 	เสียงเรือยนต์ดังกระหึ่มไปทั่วท้องน้ำ  เขาเพ่งมองเห็นชายสาม-สี่คนนั่งอยู่บนเรือท้องแบนที่กำลังมุ่งหน้ามาทางเขา  

	นายช่าง  พวกเรามาช่วยแล้ว  คนบนเรือร้องตะโกนแข่งกับเสียงเครื่องยนต์เรียกมาแต่ไกล  เมื่อมาถึงจึงเทียบเรือกับเพิงพัก  คนบนเรือยื่นมือมาดึงเขาขึ้นเรือ 

	ขอบคุณครับหัวหน้า  เขากล่าวอย่างแหบแห้ง 

 	โทษทีนะ  กว่าหัวหน้าจะขอเรือท้องแบนจากจังหวัดมาช่วยก็หลายวัน  เรือเล็กไม่มีใครกล้าออก  น้ำเชี่ยวมาก  ผู้ที่เรียกตัวเองว่าหัวหน้าเว้นระยะก่อนพูดต่อ 

 ชาวบ้านที่หาปลาบอกว่านายช่างมาทางนี้..ดีที่มีเพิงพักบนเนินสูง  เขาพยักหน้าตอบรับเนิบๆ  ขณะทีเรือแล่นออกไป  

 	คงหิวละสิท่าอยู่ตั้งหลายวัน  เอ้านี่ข้าวกล่องกับน้ำ  ผู้พูดยื่นให้  เขารับเอามาถือไว้   ก่อนที่จะก้มหน้านิ่ง  
  
	ใช่..เขาหิว...หิวจนตาลาย หิวจน....

เขาอดสะเทือนใจกับการกระทำนั้นไม่ได้  มันเป็นการกระทำที่เขาไม่มีวันลืมในความอัปยศอดสูของเขาไปชั่วชีวิต 

 ภาพที่เขาเงื้อท่อนฟืนกระหน่ำตีลงบนหัวไอ้ผอมโซขณะที่กำลังหลับด้วยความอ่อนล้าหิวโหย   จังหวะนั้น..มันผวาร้องสุดเสียงด้วยความเจ็บปวด  ดวงตาถลนตะลึงงันไปกับการกระทำของเพื่อนร่วมชะตากรรม  มันไม่มีโอกาสร้องอ้อนวอนหรือหมอบคลานขอชีวิต    
เวลานั้นเขาหวนหาแต่เนื้อย่างเพียงอย่างเดียวเท่านั้น 
 เขากระหน่ำตีซ้ำจนมันแน่นิ่ง  ก่อนที่จะใช้คัดเตอร์เฉือนเนื้อย่างไฟกิน  ช่างไม่ต่างจาก
เปรตแห่งขุมนรกผู้อย่างหิวกระหาย

เขาหลับตาขบกรามแน่น  ช่างเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมไร้คุณธรรมสิ้นดี       เขาคิดอย่างปวดร้าวขณะที่เรือพุ่งทวนกระแสน้ำเข้าสู่ฝั่ง   ๐๐๐  
  
@@@@@@@@@@@@				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟป.ยุทธ
Lovings  ป.ยุทธ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟป.ยุทธ
Lovings  ป.ยุทธ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟป.ยุทธ
Lovings  ป.ยุทธ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงป.ยุทธ