23 เมษายน 2547 09:20 น.
ป.ปิ่น
เมื่อรินดาออกจากโรงพยาบาลแล้ว เธอก็ไปมหาลัยตามปกติ วันนี้เป็นวันที่เธอต้องแสดงละครการกุศลคู่กับทศพร การแสดงผ่านไปด้วยดี แขกที่มาชมพึงพอใจอย่างมาก บางคนก็น้ำตาตก การแสดงละครครั้งนี้ทำให้เกิดเสียงฮือฮาในคณะเป็นอย่างมาก ว่า ทศพรเป็นแฟนกับรินดา และตั้งแต่นั้นมาทั้งสองคนก็สนิทสนมกันตลอด ไปไหนมาไหนด้วยกัน นานเข้าทศพรเริ่มเปลี่ยนความรู้สึกจากแค่มิตรภาพ ตอนนี้กลายเป็นความรักไปซะแล้ว เขาจึงบอกกับรินดาว่า รินดาเรารักเธอนะ รินดาได้ยินคำนั้นเขาตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ใบหน้าของเขาและเธอกลายเป็นสีชมพูเรื่อๆจนเกือบแดง รินดาจึงรีบตอบไปว่า เราก็รักนายเหมือนกันจ้า และตั้งแต่นั้นทั้งสองก็คบกันเป็นแฟน
มาทางฝ่ายเรวัล ปีนี้เป็นปีสุดท้ายแล้ว และพ่อของเธอก็ได้สั่งให้เธอไปเรียนต่อที่อังกฤษ ประกอบกับเธอก็จะต้องไปแต่งงานที่อังกฤษด้วย เพราะพ่อของเธอได้หมั้นหมายกับลูกชายของมหาเศรษฐีในกรุงลอนดอนไว้ตั้งแต่เธออายุได้ 3 เดือน
วันสุดท้ายเป็นวันที่พวกเขาทั้ง 3 ต้องรับปริญญา รินดาได้รับช่อดอกไม้จากพ่อ ทศพร เรวัล แล้วพวกหนุ่มๆปี 2 ที่แอบปลื้มเธอ ส่วนทศพรเขาก็ได้รับช่อดอกไม้จากพ่อ แม่ของเขา เรวัล รินดา และเด็กสาวปี 1 ที่มาหลงเสน่ห์ของเขาอีกจำนวนไม่น้อย ส่วนเรวัลเธอก็ได้รับจาก พ่อ แม่ของเธอ รินดา และทศพร ทั้งสามถ่ายรูปร่วมกัน เรวัลได้เชิญรินดาและทศพรให้ไปงานแต่งของเธออีก 5 วันก่อนที่จะขึ้นเครื่อง รินดาและทศพรก็ตอบตกลง จากนั้นเรวัลจึงลาแล้วขึ้นเครื่องๆทันที เพราะเขาไม่อยากเห็นน้ำตาของเพื่อนที่รักทั้งสอง
การที่พวกเราจะอยู่ห่างกัน แต่เรวัลก็ไม่เคยลืมเพื่อนรักของเธอทั้ง 2 พวกเขาห่างกันเพียงกายแต่ใจของเขาก็ยังอยู่ใกล้ๆกัน 2 ปีต่อมาเรวัลเรียนจบโท และเธอก็ได้รับการ์ดเชิญที่ส่งมาจากเมืองไทย ซองเป็นสีชมพูหวานแหวว
เธอเปิดมันออกดู มันเขียนไว้ว่า ขอเชิญเพื่อนรักไปงานแต่งงานของเราทั้งสอง แต่ไม่ได้ระบุชื่อไว้ว่าเป็นงานของใคร เรวัลไม่เคยสงสัยเลย เขารู้ได้ทันทีว่าทศพรกับรินดามีข่าวดี อีก 2 อาทิตย์ต่อมา เรวัลพาโทมัส สามีของเธอพร้อมกับ เดวิด ลูกชายผมสีบรอนด์เหมือนพ่อ หน้าตาจิ้มลิ้มเหมือนแม่มางานแต่งของเพื่อนรักทั้งสองที่เมืองไทย
เมื่อเธอมาถึงเมืองไทยแล้ว เธอก็ตรงรี่เข้ามาที่งานของเพื่อนรักทั้งสองทันที เรวัลมาร่วมยินดีกับเพื่อนรักทั้งสอง ตอนนี้เพื่อนรักทั้งสองของเธอกลายเป็นซุปเปอร์สตาร์ที่โด่งดังของเมืองไทยไปแล้ว จึงไม่แปลกที่งานนี้จะมีคนมาอย่างหนาแน่น ทั้งแขกสังคม ดาราที่มีชื่อเสียง รวมถึงท่านนายกรัฐมนตรีด้วย เรวัลมาอวยพรให้เพื่อนเธอทั้งสอง และบอกว่าเราจะอยู่ใกล้ๆกันตลอดไป เพราะว่าโทมัสสามีของเรวัลจะย้ายมาอยู่ที่เมืองไทย เขามารับผิดชอบ ดูแล ธุรกิจของพ่อเขาที่เมืองไทย ดังนั้นทั้ง 3 สหายจึงอยู่ใกล้ๆกันตลอดไป
จบ.
22 เมษายน 2547 09:24 น.
ป.ปิ่น
หลังจากที่ทศพรสังเกตพฤติกรรมของรินดาแล้ว เขาจึงตัดสินใจถามรินดาว่า รินดาเธอชอบฉันอยู่รึป่าว รินดาได้ยินดังนั้นเธอถึงกับอึ้ง แล้วสะดุ้งเล็กน้อย แต่เธอก็ไม่ได้ตอบคำถามนั้น เธอบ่ายเบี่ยงโดยการพูดเรื่องเรวัลแทน เออ..จริงสิทศพรวันนี้เธอได้บอกรักเรวัลรึป่าว ทศพรได้ยินดังนั้นเขาเศร้าที่เขาไม่ได้รับคำตอบในสิ่งที่เขาถามรินดา แต่เขาก็ไม่ได้เลิกสงสัยรินดาเลย เขาจึงตอบคำถามรินดาไปว่า บอกแล้ว เขานิ่งคิดอยู่ครู่นึง และคิดว่าน่าจะใช้โอกาสนี้ที่จะพิสูจน์รินดาคือคนที่รักและรอเขาไหม เขาจึงตอบต่อไปว่า เรวัลก็ตอบตกลงเราด้วยละ รินดาได้ยินดังนั้นหัวใจของเธอเหมือนกับหล่นไปอยู่ที่เท้าอีกครั้ง แล้วเธอก็หน้าซีด เหม่อลอย และน้ำตาใสๆของเธอก็ร่วงลงมาโดยที่เธอไม่รู้ตัวเลย ทศพรเองก็เจ็บปวดเหมือนกัน ที่เห็นรินดามีน้ำตา เขาจึงรู้สึกผิดมาตลอด ( หลังจากวันนั้นรินดาก็ทำตัวออกห่างจากเรวัล และทศพรนะค่ะ ) จนวันหนึ่งรินดาเกิดอาการกำเริบขณะที่เขากำลังซ้อมละครอยู่ ครูและนักศึกษาพากันตกใจจึงรีบนำส่งโรงพยาบาล รินดาถูกนำตัวเข้าห้อง ICU ทุกคนจึงทำได้แค่นั่งรอข้างนอก เมื่อแพทย์เดินออกมานอกห้อง เรวัลเป็นคนแรกที่วิ่งไปถามอาการของรินดา แพทย์จึงตอบเรวัลว่า คนไข้เธอเป็นโรคปอดครับ ปอดข้างขวาของเธอเป็นสีดำสนิท เป็นเพราะเธอได้รับเชื้อออกซิเจนคาร์บอนโซเดียมไนเตรด ( ตั้งเองนะเนี่ย ) เธอจะหายสนิทเลยก็ต่อเมื่อได้รับการเปลี่ยนถ่ายเลือดแดง ทุกๆ 3 เดือนครับ ช่วง 3 เดือนที่ผ่านมานี้ เธอไม่ได้รับการเปลี่ยนถ่ายเลือดแดงเลยจึงทำให้อาการกำเริบอย่างหนัก และครั้งนี้ก็ยังหาผู้ที่จะบริจาคเลือดให้เธอไม่เจอเลยครับ ทศพรเมื่อได้ยินดังนั้นเขารู้สึกเป็นห่วงรินดามาก อาจจะมากกว่าเรวัลด้วยซ้ำ เขารู้ว่าเขาและรินดามีกรุ๊ปเลือดตรงกัน เขาจึงยื่นขอบริจาคเลือดกับแพทย์ทันที เออ..คุณหมอครับ ผมขอบริจาคเลือดให้รินดาเองครับ เพราะผมกับรินดากรุ๊ปเลือดเดียวกันครับ หลังจากที่แพทย์ได้ยินดังนั้น จึงยินดีที่จะรับบริจาดเลือดจากทศพรเพื่อช่วยรินดา 3 ชั่วโมงผ่านไป รินดาได้รับการเปลี่ยนถ่ายเลือดเรียบร้อยแล้ว เธอฟื้นขึ้นมา พบกับเรวัลเพียงคนเดียว เธอจึงถามเรวัลว่า เรวัล ทศพรไม่มาเยี่ยมฉันเหรอ เรวัลได้ยินคำถามนั้นเขาจึงตอบรินดาไปว่า มาสิ เขาเพิ่งขอตัวกลับบ้านเมื่อกี้นี้เอง เออ..แล้วใครบริจาคเลือดให้ฉันเหรอ รินดาถามต่อด้วยความอยากรู้ อ๋อทศพรน่ะ เขากรุ๊ปเลือดตรงกับเธอเลยบริจาคให้ ในใจตอนนี้รินดาคิดอยู่ว่า ทำไมเขาจึงยอมบริจาดเลือดให้เรานะ หลังจากนั้นประมาณ 5 นาที ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ทศพรนั่นเอง เขายิ้มให้เรวัลและรินดาอย่างอ่อนโยน เขาเดินมาหารินดาที่เตียงพร้อมกับดอกลิลลี่สีขาวช่อใหญ่ รินดาหายไวๆนะ รินดาได้ยินดังนั้นจึงรีบรับช่อดอกไม้นั่นไว้พร้อมกับตอบไปว่า ขอบใจมากจ๊ะ เราไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอกน่า
19 เมษายน 2547 09:30 น.
ป.ปิ่น
ตอนที่ 3
วันรุ่งขึ้น ทั้งทศพรและรินดาเปี่ยนไป๋ ส่วนเรวัลเธอยังคงเหมือนเดิม รินดาเริ่มปลีกตัวออกห่างจากเรวัลและทศพร ให้สองคนนี้ได้คุยกัน เมื่อทศพรรู้ว่ารินดาได้ช่วยในสิ่งที่เขาขอแล้วเขาจึงไม่ยอมเสียโอกาสนี้ไป เขาได้บอกกับเรวัลว่า เรวัล เรามีเรื่องจะบอก เรวัลถามอย่างตื่นเต้น มีอะไรเหรอทศพร แน่ะแน่ ชอบใครเอ่ย เด๋วเราช่วยก็ได้นะ คิคิ ทศพรได้ยินดังนั้นจึงรีบบอกก่อนที่จะพลาดโอกาสเพราะอีก 5 นาทีเขาต้องไปคัดตัวเจ้าชาย เราชอบเธอนะ เรวัล เรวัลได้ยินดังนั้นถึงกับอึ้งอย่างแรง ในใจเขาร้องเพลงว่า เธอทำให้ฉันตะลึงๆๆๆตึงๆๆๆตะลึงตึงๆ (ต่อเองละกันนะ
พี่อนันฝากมาโฆษณาอีกตามเคยแหละ คิคิ) เธอจึงตอบว่า เออ..ทศพร เราว่านายลองมองคนอื่นดูบ้างนะ ยังมีอีกคนที่รักนายอย่างจริงใจ แล้วพร้อมที่จะรอนายเสมอ แม้ว่าเค้าคนนั้นจะต้องใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อรอนายก็ตาม (เพื่อนๆคงรู้นะค่ะว่าเป็นคราย) หลังจากที่ทศพรได้ยินดังนั้นเขาถึงกับ งง อย่างแรง และทึ่งคนที่รักเขาและรอเขา พร้อมกับความสงสัยที่ตามมาว่าเขาคือใคร หลังจากนั้นเขาก็รีบวิ่งไปที่หอละครเพื่อที่จะคัดตัวเจ้าชาย อาจารย์ผู้คัดเลือก นั่งรอจนเมื่อย เพราะยังไม่มีใครเล่นได้ดี สมบทบาทสักคน จนมาถึงคนสุดท้ายและท้ายสุดเหมือนเดิม ทศพรเขาเล่นได้ดีมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลยแล้วดูสมบทสมบาท เขาจึงได้รับคัดเลือกให้แสดงเป็นเจ้าชาย หลังจากที่การคัดเลือกเสร็จสิ้นลง ทศพรมีความรู้สึกว่ามีตาคู่หนึ่งกำลังมองมาที่เขาอย่างหลบๆซ่อนๆ เพราะไม่อยากให้เขารู้ว่าเธอกำลังมองเขาอยู่ เมื่อทศพรหันหน้าไปตามตาคู่นั้น เขาก็ได้พบกับหญิงสาวผู้เศร้าสร้อย แววตาของเธอเหมือนตอนที่เธอเสียแม่ไปไม่มีผิด และผู้หญิงคนนั้นก็คือรินดา เขารีบเดินไปหารินดาพร้อมกับรอยยิ้ม หวัดดี รินดา เอ้ยไม่ใช่สิ หวัดดีเจ้าหญิงของผม ประโยคนี้ทำให้รินดามีรอยยิ้ม ซึ่งรอยยิ้มนี้เป็นรอยยิ้มแรกของวันนี้ หลังจากนั้น รินดาและทศพรก็เดินมาด้วยกันเพื่อที่จะมารอ เรวัลที่หน้ามหาลัย รินดารู้สึกอึดอัดเพราะใจจริงเธออยากจะถามทศพรว่า เรวัลตอบว่าไงมั่งเรื่องที่เขาไปบอกรักเรวัล แต่เธอก็ไม่กล้าแม้แต่จะปริปากเพราะเธอกลัวคำตอบที่ได้รับ ในขณะที่ทั้งสองนั่งรอเรวัล ทศพรแอบสังเกตพฤติกรรมของรินดาตลอดโดยที่รินดาไม่รู้ เพราะเขาเริ่มสงสัยแล้วว่ารินดาคือคนที่รักและรอเขา เขาจึงได้ตัดสินใจถามรินดาว่า รินดา เอ่อ เธอชอบฉันอยู่ใช่มั้ย รินดาได้ยินดังนั้นเธอจึง. ( รออ่านตอนต่อไปนะค่ะ )
5 เมษายน 2547 10:23 น.
ป.ปิ่น
~^+^~ เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก ทั้ง 3 อายุได้ 19 ปี ถึงเวลาที่จะต้องเข้าเรียนในมหาลัยแล้วสิเนี่ย เรวัลแน่นอนเธอเลือกเรียนทันตแพทย์ เพราะโดยนิสัยส่วนตัวของเธอแล้วเธอเป็นคนชอบช่วยเหลือผู้อื่น รินดาเลือกเรียนตามทศพร คือ นิเทศน์ศาสตร์ เพราะทศพรเป็นคนหน้าตาดี เขาจีงเลือกเรียนคณะนี้ ส่วนรินดาเหตุผลที่เธอเลือกเรียนตามทศพร คือนิเทศน์ศาสตร์ก็เพราะเธออยากอยู่ใกล้ชิดกับทศพรซึ่งเป็นคนที่เธอแอบชอบมานานแล้ว ทั้ง 3 ยังสนิทสนมกันเหมือนสมัยเด็ก เดินทางมาเรียนด้วยกัน กลับบ้านด้วยกัน ยกเว้นบางวันถ้าใครติดงานก็จะโทรบอกเพื่อนให้กลับก่อน
~^+^~ วันหนึ่ง อาจารย์ในคณะนิเทศน์ศาสตร์ จะจัดการแสดงละครเวทีเรื่อง ซินเดอเรอล่า จึงสั่งให้นักศึกษาในคณะทุกคนมาทดสอบเลือกตัวละคร โดยเริ่มจากตัวเอกของเรื่อง ซินเดอเรอล่า นักศึกษาหญิงทุกคนต่างทยอยกันมาทดสอบ แต่ก็ยังไม่มีใครทำได้สมบทบาท อาจารย์ที่คัดจึงเริ่มเบื่อหน่าย จนมาถึงนักศึกษาหญิงคนสุดท้าย รินดานั่นเอง เธอเล่นได้ดีมาก ทั้งร้องไห้ เต้นรำ ถูพื้น ซักผ้า เธอทำได้เหมือนทุกอย่าง รินดาจึงได้รับบทนี้ไป ส่วนบทเจ้าชายในเรื่องนั้นอาจารย์จะให้ทดสอบในวันพรุ่งนี้ ในตอนเย็นหลังเลิกเรียน รินดากับทศพรเดินมาด้วยกัน ในระหว่างการเดินมานั้นทั้งสองก็พูดคุยกันตามประสาเพื่อนสนิท รินดาเธอเก่งมากเลยนะ เล่นได้เหมือนมากเลย ทศพรกล่าวชมก่อน นายเล่นเก่งกว่าเราอีกนี่ทศพร พรุ่งนี้นายต้องทำได้แน่ รินดาจึงกล่าวชมทศพรตอบ ทศพรคิดอยู่นานจึงตัดสินใจบอกรินดาเกี่ยวกับเรื่องเรวัลและขอให้รินดาช่วย รินดา คือว่าเรามีเรื่องอยากให้รินดาช่วยหน่อยน่ะ อะไรเหรอทศพรรินดาถามต่อไปด้วยความอยากรู้ ในขณะนั้นหน้าของทศพรเปลี่ยนเป็นสีชมพูเรื่อๆก่อนจะเป็นสีแดง คือว่าเราชอบเรวัล เราแอบชอบเรวัลมาตั้งแต่เจอกันครั้งแรก ตอน 5 ขวบน่ะ แต่เรายังไม่มีโอกาสได้บอกเรวัลเลย เธอช่วยเราหน่อยสิ วินาทีที่รินดาได้ยินนั้น หัวใจของเธอเหมือนถูกกดอย่างแรงจนหายใจไม่ออก มันเจ็บใจเหลือเกินจนน้ำตาคลอ แต่มันก็ไม่ได้ไหลพรากลงมาเพราะเธอตื่นจากภวังค์นั้นก่อนด้วยเสียงของเรวัล นี่ทศพร รินดาเธอจะยืนคุยกันไปถึงไหนเนี่ยรถมาแล้วนะยะ รินดาจึงตอบกลับเรวัลว่า จ้า จะไปเดี๋ยวนี้แหละจ้า แม่ ก่อนที่รินดาจะเดินไปหาเรวัลเธอตอบทศพรก่อนไปว่า เอาไว้เราจะพยายามช่วยละกันนะ แล้วทั้งสามก็ขึ้นรถกลับบ้าน ในระหว่างทางไม่ได้มีใครปริปากพูดออกมาแม้แต่คำเดียว
2 เมษายน 2547 11:13 น.
ป.ปิ่น
แนะนำตัวละคร
เรวัล - หญิงสาวจอมเปิ่น ใส่แว่นตาหนาเตอะ ผมเผ้ารุงรัง เธอกับรินดาเป็นเพื่อนซี้กัน ( ชนิดติดหนึบจนแยกกันไม่ออกเลยละ ) แต่เธอไม่เรียบร้อยเอาเสียเลย กระโตกกระตาก วันๆเอาแต่อ่านหนังสือ ในห้องนอนของเธอแทบจะเป็นห้องสมุดขนาดย่อมเลยก็ว่าได้ ดังนั้นเธอจึงสอบได้ที่ 1 ของหมาลัย เอ้ยมหาลัยพิมพ์สลับตัวกันนิดหน่อยอ่า บ้านของเธออยู่ระหว่างบ้านของรินดากับบ้านของทศพร พ่อของเธอเป็นเจ้าของโรงแรมชื่อดัง ส่วนแม่ของเธอเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของบริษัทที่ผลิตโทรศัพท์มือถือยี่ห้อมิสทิน ( บริษัทเค้าจ้างมาโฆษณาอ่านะ )
รินดา - หญิงสาวสวย ผมของเธอยาวเป็นรอน สีบรอนสวย เธอเรียบร้อย แต่ใครจะรู้เล่าว่าภายใต้ผมสวยของเธอนั้นได้ซ่อนแววตาที่ท้อแท้ ขาดกำลังใจเอาไว้ ดังนั้นเธอจึงเป็นคนเงียบๆออกจะลึกลับ บ้านของเธออยู่ติดกับบ้านของเรวัล เพื่อนซี้ที่สนิทกันมาตั้งแต่เด็กของเธอ เธอแอบชอบทศพรมานานแล้ว พ่อของเธอเป็นเจ้าของบริษัทอาหารทะเลชื่อดัง ส่วนแม่ของเธอเสียชีวิตไปตั้งแต่เธอยังอายุ 5 ขวบด้วยโรคมะเร็ง
ทศพร - ชายหนุ่มเสน่ห์แรง นับว่าเขาเป็นดาวมหาลัยเลยก็ว่าได้ เขาแอบชอบเรวัลมานานแล้ว บ้านของเขาอยู่ติดกะบ้านของเรวัล ทุกวันหลังจากที่เขาตื่นนอนแล้ว เขาก็จะเคาะหน้าต่างห้องนอนของเรวัล เพื่อปลุกเธออยู่เสมอ ( แหม!!!! อิจฉาจังเยยอ่า ก็หน้าต่างห้องนอนมันดันมาอยู่ตรงข้ามกันนี่นา อิอิ ) พ่อของเขาเป็นเจ้าของบริษัททัวร์ชื่อดังอีกเหมือนกาน ส่วนแม่เป็นเจ้าของบริษัทเครื่องสำอาง Nokia ( คิคิ อุตส่าห์โฆษณาให้นะเนี่ย )
ตอนแรก
ย้อนไปตอนที่รินดาอายุได้ 5 ขวบ พ่อของเธอเดินเข้ามาหาเธอที่ห้องนอนของเธอพร้อมกับบอกว่า "รินดาแม่ของลูกไม่อยู่แล้ว" วินาทีที่รินดาได้ยินเธอแทบจะเป็นลม เธอหน้าซีด พร้อมกับน้ำตาที่อ่อนแอของเธอก็ไหลพรากลงมาอย่างอัตโนมัติ เธอรีบวิ่งไปกอดร่างอันไร้วิญญานของแม่สุดที่รักของเธอ เสียงเด็กหญิงโอดครวญให้เธอเธอฟื้นดังก้องไปทั่วห้อง ( ตอนนี้รินดายังไม่ได้รู้จักกับเรวัลและทศพร ) งานศพแม่ของรินดาถูกจัดขึ้นในวันต่อมา รินดาร้องไห้ตลอดวันแรกของงานศพ ในตอนกลางคืนพระสงฆ์จำนวน 4 รูปได้มาสวดอภิธรรมที่บ้านของรินดา พ่อบอกให้รินดาออกไปนั่งข้างนอกบ้าน เพราะไม่อยากเห็นลูกสาวร้องไห้ รินดาจึงเดินไปนั่งหน้าบ้าน พร้อมกับปล่อยโฮยกใหญ่ ฝ่ายเรวัลเธอก็ถูกพ่อที่เข้มงวดของเธอบังคับให้มางานศพแม่ของรินดา เธอจึงสีหน้าไม่ค่อยดีนัก เมื่อมาถึงงานพ่อของเรวัลก็เอาแต่คุยเรื่องกิจการโรงแรมที่กำลังไปได้สวยของท่านให้พ่อของรินดาฟัง เรวัลจึงขอพ่อออกไปข้างนอก เธอได้พบกับเด็กหญิงที่กำลังนั่งร้องไห้อยู่บนม้าหินอ่อนกลางสนามหญ้าหน้าบ้าน
เรวัลจึงเข้าไปทักเด็กหญิงผู้เศร้าสร้อยว่า "ทำไมเธอถึงร้องไห้เหรอ" รินดาได้ยินดังนั้นจึงเงยหน้าขึ้น และถามว่า "เธอเป็นใครเหรอ" เรวัลได้ยินดังนั้นจึงรีบตอบไปทันทีเพื่อหวังจะได้เพื่อนใหม่สักคน "เราชื่อเรวัล บ้านเราอยู่ใกล้ๆนี่เอง เธอชื่ออารายเหยอ แล้วทำไมเธอถึงร้องไห้" รินดาจึงตอบทั้งน้ำตาว่า "แม่เราตายแล้ว เราไม่มีแม่อีกแล้ว เราชื่อรินดานะ" จากนั้นเรวัลก็ชวนรินดาคุยเพลินจนลืมเรื่องที่แม่ของเธอเสียไปเลย ทั้งสองคนคุยกันได้ไม่นานนักก็มีเด็กผู้ชายอายุรุ่นราวคราวเดียวกันเดินเข้ามาทักทายทั้งสองว่า "หวัดดีเราชื่อทศพร บ้านเราอยู่แถวนี้แหละ คุยเรื่องไรกันเหรอ ขอคุยด้วยได้ป่าว" รินดาและเรวัลนิ่งคิดอยู่นานก่อนจะตอบพร้อมกันว่า "ได้สิ" เรวัลตอบต่อไปอีกว่า "เราชื่อเรวัล ส่วนนี่รินดาเพื่อนเราเอง" จากนั้นทั้งสามก็คุยกันอย่างถูกคอด้วยความเป็นนักเมาท์ของเรวัลนั่นเอง