16 มีนาคม 2550 17:56 น.
ปุยเมฆสีชมพู
แค่เพียงพบสบตาก็นึกรัก
จึงตระหนักประจักษ์แน่ไม่แก้ไข
จะยินยอมพร้อมอุทิศทั้งหัวใจ
มอบให้ไว้ไม่ห่างไกลไปจากเธอ
แล้วยังเผลอหลงละเมอทุกค่ำเช้า
ไม่เห็นเจ้าพี่นี้เหงาเศร้าเสมอ
โอ้ แม่ยอด ขมองอิ่ม ยิ้มของเธอ
พี่พร่ำเพ้อเมื่อได้เจอทุกโมงยาม
เก็บเอาความหวานซึ้งในดวงจิต
ยามเมื่อพิศสองแก้มใจหวิวหวาม
เจ้าเปรียบเหมือนแสงสว่างฟ้าสีคราม
ความงดงามใดจะเปรียบเทียบไม่มี
*****************************************
16 มีนาคม 2550 17:53 น.
ปุยเมฆสีชมพู
ยืนเหม่อมองท้องฟ้าที่กว้างใหญ่
เพราะเหตุใดเกิดคำถามให้สงสัย
ใครนะใครที่ชักนำเอาหัวใจ
สองเราให้มาบรรจบพบเจอกัน
ทั้งที่มันนั้นไร้ซึ่งเหตุผล
นั่นเพราะคนเยอะแยะออกอย่างนั้น
ตอบคำถามไม่ได้เลยสักวัน
ว่าที่ฉันได้พบนั้นฝันหรือไร
ยากเกินไปที่จะคิดหาคำตอบ
นั่นเพราะขอบเขตคำถามเกินเงื่อนไข
เอาเป็นว่า "พรหมลิขิต" ล่ะเป็นไง
ที่ทำให้สองหัวใจได้รักกัน...
16 มีนาคม 2550 17:50 น.
ปุยเมฆสีชมพู
แสร้งว่ารักทึกทักทำไปได้
คนอะไรไม่เขินอายหรือไงหนอ
แสร้งยิ้มแย้มพูดจาคอยยกยอ
คนสอพลอดีต่อหน้าลับตาเลว
เปลวโลภาราลามเลียเสียเกือบไหม้
แสร้งสุขใจทั้งข้างในเหมือนตกเหว
มือถือสากปากถือศีลยืนเท้าเอว
แสนแหลกเหลวเลวสิ้นดีนี่หรือคน
ทนอิจหนาระอาใจไม่เคยบอก
แสร้งให้หลอกกลับกลอกก็หลายหน
เธอก็แค่เศษมนุษย์ที่เกินคน
อยู่ให้ล้นหนักโลกหรืออย่างไร
ใครไม่รู้ดูว่าเธอนั้นทีเด็ด
ส่วนฉันเข็ดไม่ขอยุ่งมุ่งผลักไส
แสร้งว่าแม้นอับจนเสียเท่าใด
ชาตินี้ไม่ขอข้องเกี่ยวเหนี่ยวรั้งเธอ
เผลอให้เธอเข้ามาในชีวิต
เป็นความผิดคิดไม่ถึงจึงต้องเพ้อ
ได้โปรดเถอะ แสร้ง..ทิ้งฉัน ไปนะเออ
แล้วอย่าเจออย่าเจอะกันอีกเลย....