22 มิถุนายน 2550 17:35 น.
ปุยเมฆสีชมพู
ในแม่บท กฏของสี มีห้าเฉด
สื่อถึงเพศ บอกอารมณ์ ขมหรือหวาน
อย่างสีดำ เป็นสีแห่ง รัตติกาล
สีน้ำตาล คล้ายโบราณ ช่างขรึมดี
หรือสีแดง เป็นสี แห่งความรัก
สีเหมือนผัก คือสีเขียว เคี้ยวขมปี๋
สีชมพู ดูคิกขุ น่าปราณี
หรือว่าสี เหลืองทอง ผ่องอำพรรณ
สีของจันทร์ น่ามอง นวลขาวขุ่น
สีอบอุ่น คือสีส้ม ส่งความฝัน
สีน้ำเงิน ละมุนละไม ให้แก่กัน
สีผูกพัน มนต์เสน่ห์ สีม่วงไง
แล้วแต่ใคร จะตีความ ตามความคิด
ถูกหรือผิด ไม่มีบอก อย่าสงสัย
มโนภาพ จินตนาการ แตกต่างไป
แค่คิดให้ อยู่ในกรอบ ความดีงาม
***************************************
24 เมษายน 2550 13:43 น.
ปุยเมฆสีชมพู
ทั้งชีวิต ดั้นด้น อยู่ในป่า
มีวิชา เป็นทุน รู้คุณไสย
จับอาชีพ เป็นพราน อยู่ในไพร
คอยเที่ยวไล่ เข่นฆ่า ล่าสัตว์ดง
ทั้งกระจง เก้ง กวาง บ้างสัตว์ใหญ่
ต้องล้มตาย แม่ลูก เกิดพลัดหลง
บ้างถูกจับ เป็นเชลย ไปขังกรง
เห็นแล้วปลง เกิดสังเวช ทุเรศใจ
แต่ทำไง ใครจะเลือก เกิดได้บ้าง
บนเส้นทาง ของคนจน ทนได้ไหม
ต้องอดมื้อ อิ่มมื้อ ไร้ที่ไป
จะไปไหน ใครก็มอง เหยียดสองตา
จนอยู่มา วันหนึ่ง ถึงเคราะห์กรรม
ที่ได้ทำ กรรมหนัก คือเข่นฆ่า
ล่าชีวิต ผู้อื่น ขืนใจมา
เอาไปค้า หาอาหาร เจือจานตน
เดินมาชน เสือจนตรอก เล็บเขี้ยวหัก
เลือกทะลัก ไหลนอง นอนตากฝน
ความดีใจ จึงรีบยิง เสือทุกข์ทน
ยิงเผาขน เสือนิ่งเงียบ เรียบร้อยไป
หารู้ไม่ เสือนั้น เป็นเสือแก่
ซึ่งที่แท้ แค่อยากหา ที่สิงใหม่
วิญญาณร้าย จึงสิงตรง ลงทันใด
พลันพรานไพร ให้คลุ้มคลั่ง ดั่งต้องมนต์
เหมือนใครดล ไม่รู้ตน จนเตลิด
ตลึงเพริด หนีหาย คล้ายล่องหน
คิดอยากฆ่า เพื่อกินเนื้อ จนลานลน
กายเป็นคน เที่ยวล่าเหยื่อ .. เสือสมิง ..
16 มีนาคม 2550 17:56 น.
ปุยเมฆสีชมพู
แค่เพียงพบสบตาก็นึกรัก
จึงตระหนักประจักษ์แน่ไม่แก้ไข
จะยินยอมพร้อมอุทิศทั้งหัวใจ
มอบให้ไว้ไม่ห่างไกลไปจากเธอ
แล้วยังเผลอหลงละเมอทุกค่ำเช้า
ไม่เห็นเจ้าพี่นี้เหงาเศร้าเสมอ
โอ้ แม่ยอด ขมองอิ่ม ยิ้มของเธอ
พี่พร่ำเพ้อเมื่อได้เจอทุกโมงยาม
เก็บเอาความหวานซึ้งในดวงจิต
ยามเมื่อพิศสองแก้มใจหวิวหวาม
เจ้าเปรียบเหมือนแสงสว่างฟ้าสีคราม
ความงดงามใดจะเปรียบเทียบไม่มี
*****************************************
16 มีนาคม 2550 17:53 น.
ปุยเมฆสีชมพู
ยืนเหม่อมองท้องฟ้าที่กว้างใหญ่
เพราะเหตุใดเกิดคำถามให้สงสัย
ใครนะใครที่ชักนำเอาหัวใจ
สองเราให้มาบรรจบพบเจอกัน
ทั้งที่มันนั้นไร้ซึ่งเหตุผล
นั่นเพราะคนเยอะแยะออกอย่างนั้น
ตอบคำถามไม่ได้เลยสักวัน
ว่าที่ฉันได้พบนั้นฝันหรือไร
ยากเกินไปที่จะคิดหาคำตอบ
นั่นเพราะขอบเขตคำถามเกินเงื่อนไข
เอาเป็นว่า "พรหมลิขิต" ล่ะเป็นไง
ที่ทำให้สองหัวใจได้รักกัน...
16 มีนาคม 2550 17:50 น.
ปุยเมฆสีชมพู
แสร้งว่ารักทึกทักทำไปได้
คนอะไรไม่เขินอายหรือไงหนอ
แสร้งยิ้มแย้มพูดจาคอยยกยอ
คนสอพลอดีต่อหน้าลับตาเลว
เปลวโลภาราลามเลียเสียเกือบไหม้
แสร้งสุขใจทั้งข้างในเหมือนตกเหว
มือถือสากปากถือศีลยืนเท้าเอว
แสนแหลกเหลวเลวสิ้นดีนี่หรือคน
ทนอิจหนาระอาใจไม่เคยบอก
แสร้งให้หลอกกลับกลอกก็หลายหน
เธอก็แค่เศษมนุษย์ที่เกินคน
อยู่ให้ล้นหนักโลกหรืออย่างไร
ใครไม่รู้ดูว่าเธอนั้นทีเด็ด
ส่วนฉันเข็ดไม่ขอยุ่งมุ่งผลักไส
แสร้งว่าแม้นอับจนเสียเท่าใด
ชาตินี้ไม่ขอข้องเกี่ยวเหนี่ยวรั้งเธอ
เผลอให้เธอเข้ามาในชีวิต
เป็นความผิดคิดไม่ถึงจึงต้องเพ้อ
ได้โปรดเถอะ แสร้ง..ทิ้งฉัน ไปนะเออ
แล้วอย่าเจออย่าเจอะกันอีกเลย....