8 มกราคม 2552 19:41 น.
ปีศาจหัวโต
ฉันเกลียดพวกยิวเพราะเห็นเลือด
เด็กน้อยปาเลสไตน์หลายร้อยคน
จากโลกไปโดยไม่ได้เอ่ยคำลา
ตับไตไส้พุงทะลักออกมาทำให้ฉันร้องไห้ไม่ออก
ได้แต่กำหมัดและก่นด่าพวกตะวันตกใจแคบ
พวกที่สมมุติว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางของโลก
ในวันนี้มันได้เปลี่ยนไปแล้ว
เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงกับถ้อยคำโกหกหลอกลวง
ตะวันตกอย่างดีก็แค่เปลือกนอก
ในก้นบึ้งมีแต่ความอิจฉาริษยา
แท้จริงชอบก่อสงครามโดยใช้พวกยิวเป็นหุ่นเชิด
มันเหมาะสมดีแล้วหรือ
กับภารกิจทำลายล้างเด็ก ผู้หญิง และคนแก่
พวกยิวสมองดีและเห็นแก่ตัวเป็นที่สุด
ฉันภาวนาให้ชนชาติยิว
ต้องหลุดลอยออกไปจากแผนที่โลกในสักวัน
วันนั้นคงเป็นวันที่สันติภาพ
งดงามอยู่ในแสงแดดตอนเช้า
วันที่ค่ำคืนห่อหุ้มด้วยมิตรภาพ
อำนาจจอมปลอมจะถูกอัลลอฮจัดการให้สิ้นซาก
ผู้ทรงช่วยกำหราบพวกตะวันตกที่และยิวใจแคบ
ที่พวกมันก่อสงครามทำลายล้างมาหลายวัน
เลิกแบ่งปันทั้งที่ตัวเองมาทีหลัง
ชนชาติยิวโปรดระวังตัวเอาไว้ให้ดี
ชาวมุสลิมมีของดี
นั่นคือ สามัคคีในสายเลือดแห่งศรัทธา
5 มกราคม 2552 22:35 น.
ปีศาจหัวโต
ฉันร้องไห้ด้วยคำพูดเพียงไม่กี่ประโยค
เป็นคำพูดที่เปล่งออกมาจากชายร่อนเร่พเนจร
คำพูดที่ไร้รูป รส กลิ่น เสียง
มันทำให้ฉันร้องไห้ฟูมฟาย
โอ้ ชายพเนจรที่มีความคิดยิ่งใหญ่กว่าขุนเขา
หนวดเคราของแกงอกออกมาเพียงเพราะสายลมพัด
แกนั่งนอนที่ไหนก็ได้บนโลก
ความโศรกเศร้าอย่าให้พูดถึง
แกบอกว่ามันมีอยู่ในทุกวินาที
เราจึงเปลี่ยนเรื่องคุย
ความวุ่นวายทั้งหลายได้หายไปตลอดการสนทนา
จังหวะชีวิตคือต้นตอทั้งหมด
ชีวิตใครชีวิตมัน
มีชีวิตเพื่ออยู่ อยู่ให้ได้ ไม่ได้อยู่เพื่อใคร อยู่เพื่ออยู่เพียงเท่านั้น
คำพูดได้ซึมลึกเข้าไปในสมองอันเล็กลีบของฉัน
มันเข้าไปสะกดจิตวิญญาณ
ทั่วทั้งร่างมึนชาครู่ใหญ่
ดวงตาแวววาวมีน้ำใสหล่อเลี้ยง
มันนานเท่าไหร่ที่ฉันไม่เคยร้องไห้
ฉันจากชายพเนจรมาด้วยการไม่บอกลา
เพื่อไปร้องไห้อยู่คนเดียว
ภายในห้องสี่เหลี่ยมแออัดคับแคบ
เสียงร้องที่แผ่วเบาขัดแย้งกับน้ำตาที่ล้นทะลัก
ความรู้สึกทั้งหลายแหล่ไม่กล้าที่จะข้องแวะกับฉันในเวลานี้
ติ๊ก ต๊อก ติ๊ก ต๊อก
นาฬิกาโบราณเดินอย่างเบื่อหน่ายอยู่บนฝาผนัง
มันทำงานได้ทุกวี่วัน
มันควบคุมฉันตั้งแต่ตื่นนอนจนกระทั่งตายไป
ฉันจ้องมองลูกตุ้มที่แกว่งไปมาพร้อมคราบน้ำตา
คิดถึงชายพเนจรขึ้นมาจับจิต
แสงสว่างเรืองรองห่อหุ้มร่างกายของแก
แท้จริงแล้วไม่มีใครมองเห็นแม้แต่ตัวแกเอง
ถึงใครหน้าไหนจะมองไม่เห็น
ฉันนี่แหละที่มองเห็นพร้อมหยดน้ำตา
5 มกราคม 2552 02:02 น.
ปีศาจหัวโต
ฝนตกโปรยปรายไหลเป็นสาย
ร้องไห้กับความตายมาพลัดพราก
สิ่งมีชีวิตลาลับแสนลำบาก
ทำใจยากยอมรับแห่งครรลอง
คิดจะหวังพึ่งพรอันประเสริฐ
ช่วยด้วยเถิดคลายดวงใจโศรกเศร้าหมอง
ฝากแสงไฟสะท้อนน้ำเจิ่งหนอง
ชุบชีวิตที่หมายปองกลับคืนมา
โอ้ราตรีช่างมืดมิดปลิดแสงเงา
ให้ความเหงาเดินทางตามหาเวลา
ได้พูดคุยหัวเราะเคล้าน้ำตา
อนิจจานี่หรือความเป็นไป
ความวุ่นวายปลิวว่อนในอากาศ
บริจาครอยยิ้มหวังเยียวยารักษา
แต่มันไม่ได้ช่วยให้เกิดปัญญา
เอือมระอาสังคมแก่งแย่งชิงดี
สัตว์โลกที่หื่นกระหายอำนาจ
สัญชาตญาณดิบเถื่อนทับถมย่ำยี
ทุกสิ่งและทุกอย่างตัวกูจะต้องมี
วันเดือนปีเดินผ่านไปไร้ความหมาย
สันติภาพงดงามเคยวาดฝันซะสวยหรู
กวาดสายตามองดูหมู่มิครสหาย
ที่หลงเหลืออยู่น้อยนิดเคียงข้างกาย
เมื่อหมดเงินกลับกลายเป็นซาตาน
หากเข้าใจอนาคตคงเลิกโกรธ
บาปบุญคุณโทษเกาะกินจิตวิญาณ
เพื่อนแท้เทียมบังเอิญเจอกันในวันวาน
ความจริงยาวนานกาลเวลาพิสูจน์
4 มกราคม 2552 14:42 น.
ปีศาจหัวโต
พระจันทร์ยิ้มให้โลก
พระจันทร์ยิ้มกับความโศกเศร้าอาดูร
พระจันทร์ยิ้มให้การเกื้อกูลแบ่งปัน
พระจันทร์ยิ้มให้สิ่งมีชีวิต
พระจันทร์ยิ้มอ่ออนหวานดั่งเพื่อนสนิท
พระจันทร์ยิ้มในห้วงความคิด
พระจันทร์ยิ้มเพราะไม่ยึดติด
พระจันทร์ยิ้มให้ความสุขทั้งปวง
พระจันทร์ยิ้มกับความหลอกลวง
พระจันทร์ยิ้มลุล่วงผ่านจักรวาล
พระจันทร์ยิ้มชื่นชมจิตวิญญาณ
พระจันทร์ยิ้มแย้มนกน้อยร้องขับขาน
พระจันทร์ยิ้มห่วงใยผู้ป่วยในโรงพยาบาล
พระจันทร์ยิ้มไม่นานก็จากไป
พระจันทร์ยิ้มเพราะอยากจะยิ้ม
พระจันทร์ยิ้มไร้เสแสร้ง
พระจันทร์ยิ้มไม่ใช่เพราะเป็นการแสดง
พระจันทร์ยิ้มบดบังแสงนีออน
พระจันทร์ยิ้มปลอบโยนคนร่อนเร่พเนจร
พระจันทร์ยิ้มให้ผู้คนนอนหลับฝันดี
พระจันทร์ยิ้มแข่งกับวันเดือนปี
พระจันทร์ยิ้มยินดีรับใช้
พระจันทร์ยิ้มให้ใครต่อใคร
พระจันทร์ยิ้มเฝ้ามองความเป็นไป
พระจันทร์ยิ้มจริงใจใช่ไก่กา
พระจันทร์ยิ้มเยาะเย้ยเข็มนาฬิกา
พระจันทร์ยิ้มระอาประชาธิปไตยจอมปลอม
พระจันทร์ยิ้มยอมรับการเปลี่ยนแปลง
พระจันทร์ยิ้มยุติความรุนแรง
พระจันทร์ยิ้มแข่งกับแสงของดวงดาว
พระจันทร์ยิ้มบอกเล่าเรื่องราว
พระจันทร์ยิ้มแพรวพราวประดับท้องฟ้า
พระจันทร์ยิ้มให้กับโลกตลอดเวลา
พระจันทร์ยิ้มแฉ่งเพื่อบอกลาสงคราม