31 มกราคม 2552 13:32 น.

ปัจเจคชนคนหนึ่ง

ปีศาจหัวโต

กูผิดเพราะ กูอยากสร้าง ล้างความผิด
กูยึดติด บิดคำพูด สูดกลิ่นปาก
กูแทบอ๊วก กูโชกเลือด ปากเป่าสาก
กูพูดมาก กูพูดปด กูพูดจริง

กูปลิ้นปล้อน กูล่อนจ้อน ในอำนาจ
กูสร้างภาพ กูสาปแช่ง แก่งแย่งชิง
กูหูหนวก กูเป็นใบ้ ใช่ได้ยิน
กูชาชิน กับคำพูด ตูดมีฟัน

กูนึกคิด กูติดยา เวลาหลอน
กูก็นอน กูหลับไป ในความฝัน
กูตื่นเช้า กูเฝ้ามอง ทุกคืนวัน
กูงงงัน ฉันและเธอ เจออะไร

โอ้มนุษย์ สุดจะหยั่ง ยังความคิด
โอ้ชีวิต ใครลิขิต ปลิดชีพใคร
ในสังคม แห่งลมปาก กระชากไกล
แทนห่วงใย เข้าใจ กันและกัน				
16 มกราคม 2552 19:07 น.

อิสระแห่งรถไฟ

ปีศาจหัวโต

สายลมพัดโชยชิวโลดแล่นลิ่ว                     
ใบไม้ปลิวลอยล่องออกเดินทาง
โอ้รถไฟของเราวิ่งตามราง                           
ผ่านต้นยางสูงใหญ่แลลึกลับ

เสียงปู๊นปู๊นดังสนั่นก้องพิภพ                       
ให้หลีกหลบเส้นทางก่อนถูกทับ
บรรยากาศภายในตู้คนงีบหลับ                    
รีบเร่งกลับบ้านเรือนถิ่นกำเนิด

มองรอบข้างนอกหน้าต่างช่างเร็วรี่              
คล้ายดั่งขี่สัตว์ตำนานแสนบรรเจิด
ธรรมชาติรายล้อมให้กำเนิดเกิด                   
ดูเอาเถิดอิสระแจ่มกระจ่าง

เนิ่นนานผ่านไปไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย           
วิ่งไปเรื่อยเปลี่ยนทิวทัศบานหน้าต่าง
พลันความมืดปกคลุมแสงสว่าง                 
รีบถ่างตาชะโงกหน้ารับสายลม

ขุนเขาตั้งตระง่านอยู่ไกลลิบ                       
กระพริบตาสักนิดก่อนชื่นชม
โอ้ชีวิตเวียนว่ายบนโลกกลม                      
ไม่ขื่นขมหากได้ลองนั่งรถไฟ

ใครบอกไว้ถึงก็ช่างไม่ถึงก็ช่าง                   
ระยะห่างใช่ปลายทางก็หาไม่
เสียงล้อเหล็กบดขยี้ความเป็นไป                  
เหตุไฉนจักต้องห่วงห้วงเวลา				
16 มกราคม 2552 17:28 น.

ไม่รู้...ไม่สน (โว้ย)

ปีศาจหัวโต

เสียงนรกแว่วดังในกกหู
คนรู้ไม่พูด
คนพูดไม่รู้
สังคมจอมปลอมถือมีดไว้ด้านหลังแล้วคุยกัน
มีรอยยิ้มเสแสร้งก่อนจากลา
ประวัติศาสตร์มายาล้วนหลอกลวง
อยู่ในห้วงแห่งความคิดปราศจากอิสระ
กี่ร้อยปีผ่านไปก็ยังคงอยู่
หมาหมู่เห่าหอนเสียงดัง
ข่มขู่กรรโชกความมืดอันว่างเปล่า
อะไรเล่าคือคำพูด
ตัวอักษรที่หลุดออกมาจากปากเน่าเหม็น
มองเห็นแต่ไม่อาจแตะต้อง
นกน้อยได้แต่ส่งเสียงร้อง
ฟ้องเมฆฝนบนฟ้าให้ทำงาน
ให้มนุษย์เลิกระรานความเงียบสงบ
เผื่อจะพบเจอพระเจ้าในความฝัน
ได้เข้าใจความขัดแย้งกันและกัน
เพื่อสันติภาพคืนกลับมาในเร็ววัน
ผ่านรอยยิ้มแห่งการแบ่งปัน
เพราะว่าตัวฉันนั้นมีแต่ความห่วงใย
ใส่ใจต่อมนุษย์ตัวน้อยน้อย
ผู้เฝ้ารอคอยบางสิ่งบางอย่าง
ในโลกกว้างที่จะต้องเจอ
อาจจะเผลอทำสิ่งผิดพลาด
เนื่องจากยังขาดประสบการณ์
ปล่อยให้เป็นเรื่องวันวานของบทเรียน
แล้วจงเขียนความคิดผ่านสมอง
หากไม่ลองจะรู้หรอกหรือว่าทำได้
ตัวอย่างมีให้เห็นเด่นชัดมากมาย
คำพูดสร้างความวุ่นวาย
ความเสียสละเสื่อมสลาย
ผู้ใหญ่ปากมอมใส่ร้ายป้ายสี
เอาความดีใส่ตัวเต็มจนล้น
จะเข้มข้นในเนื้อหาก็มิใช่
แค่อยู่รอดไปวันวันแล้วตายไป
เหตุไฉนจักต้องใส่ใจคำพูดผู้ใหญ่เฮงซวย				
12 มกราคม 2552 13:58 น.

สังคมแห่งการลืมเลือน

ปีศาจหัวโต

ฉันได้ยินเสียงก่นด่าทุกชนิด
เสียงนินทาว่าร้ายแว่วดังในความคิด
มองเห็นหัวหงอกหัวดำนั่งเบียดชิด
หลายสิบปากเปล่งคำพูดแห่งการยึดติด
ไม่สนใจการกระทำถูกหรือผิด
เสพคำพูดอิจฉาริษยาอยู่เนืองนิตย์
เหมือนนั่งกลางสี่แยกที่เต็มไปด้วยควันพิษ
สังคมหลากหลายเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิต
ในวันที่จิตวิญญาณแห่งตัวตนเหนื่อยล้าอ่อนแรง
ในห้วงอารมณ์ที่ปราศจากแสง
ดวงอาทิตย์ก็ยังคงร้องแรง
สาดส่องสังคมอุดมด้วยความหวาดระแวง
มองเห็นแค่เปลือกนอกลงความเห็นแล้วสาปแช่ง
เย็ดแม่งความเงียบงันหายไปไหนเสียเล่า
ใครหลายคนเฝ้ารอคอยจนเบื่อหน่าย
ทำร้ายกันไปมาจนแพ้พ่าย
จมอยู่ในวัฏจักรเวียนว่าย
การเอาตัวรอดในสังคมเน่าเฟะนั้นไม่ง่าย
แบ่งก๊กยกพวกพ้องฟ้องสถาบันบ่อเกิดเหตุวุ่นวาย
พลังบริสุทธิ์สามัคคีถูกทำลาย
ผู้ใหญ่วอดวาย
สังคมแห่งรากเหง้าเสื่อมสลาย
ฉิบหายนี่หรอกหรือคือเรื่องจริง
แนบอิงแอบอยู่ในสายลมรำเพย
ธรรมชาติไม่เฉลยความในใจ
ในครรลองแห่งความเป็นไป
เหตุไฉนจักต้องสนใจคำพูดลอยลม
ผสมผสานคำพิพากษา
เข็มนาฬิกาที่ตายไปแล้ว
ยังมีประโยชน์เสียกว่าคำพูดทับถมย่ำยี
มันไม่ใช่คำพูดแห่งคำภีร์
ความกรุณาปราณีถูกลืมเลือน				
9 มกราคม 2552 23:50 น.

เด็ก วัยแห่งการสร้างมิตรภาพ

ปีศาจหัวโต

ท้องฟ้าปลอดโปร่งยามเย็น
ฉันมองเห็นกลุ่มเด็กน้อย
เหงื่อชุ่มใบหน้าไหลย้อย
ตะวันคล้อยลาลับโลก

เสียงหัวเราะสนุกสนาน
ยิ้มเบิกบานไร้ทุกข์โศรก
ไม่คำนึงชะตาโชค
โบกมือลาแล้วจากกัน

พบเจอกันใหม่พรุ่งนี้
สถานที่เดิมแห่งนั้น
เวลาหมุนแค่เปลี่ยนวัน
แต่การแบ่งปันคงอยู่

บางครั้งกระทบกระทั่ง
เหมือนดั่งเปลี่ยนผ่านฤดู
ว่าเป็นมิตรหรือศัตรู
ฉันมองดูด้วยรอยยิ้ม

เหตุการณ์ผ่านไปด้วยดี
เพราะมีอารมณ์กรุ้มกริ้ม
เด็กน้อยแววตานุ่มนิ่ม
อิ่มเอมใจเกมส์กีฬา

รู้ชนะและรู้แพ้
นั่นคือตัวแก้ปัญหา
สังคมอุดมปัญญา
แลกมาด้วยความขัดแย้ง

เป็นธรรมดาที่ต้องเจอ
ฉันและเธอทะเลาะเบาะแว้ง
บางครั้งอาจจะรุนแรง
แฝงเร้นด้วยโมโหโทโส

สายลมพัดผ่านไปมา
นาฬิการ้องไห้โฮ
มิตรภาพนั้นใหญ่โต
บอกได้คำเดียวNo Wa				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปีศาจหัวโต
Lovings  ปีศาจหัวโต เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปีศาจหัวโต
Lovings  ปีศาจหัวโต เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปีศาจหัวโต
Lovings  ปีศาจหัวโต เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงปีศาจหัวโต