22 กุมภาพันธ์ 2546 23:58 น.

ความรักกับรถเมล์ ...

ปีกฟ้า

You know, love is just like someone waiting for a bus. 
คุณรู้ไหม ความรักมันก็เหมือนกับการรอรถเมล์ 

when the bus comes, you look at it and you said to yourself. 
เมื่อรถเมล์มา คุณมองไปที่มัน และบ่นกับตัวเองว่า 

"eee....so full....cannot sit down one". 
"อี๋... คนเพียบเลย ไม่มีที่นั่งด้วย" 

so you said to yourself, "i'll wait for the next one". 
และคุณก็พูดกับตัวเองว่า "ฉันรอคันต่อไปดีกว่า" 

"so you let the bus go and waited for the second bus. 
และคุณก็ปล่อยให้รถเมล์คันนั้นผ่านคุณไปแล้วรอรถเมล์คันที่ 2 

then the second bus came, you looked at it and you said, 
เมื่อรถคันที่ 2นั้นมา คุณมองไปที่รถเมล์นั่นแล้วบ่นว่า 

"eee...this bus so old..surely very uncomfortable one." 
"อี๋... รถเก๊าเก่า มันต้องนั่งไม่สบายแน่เลย" 

so you let the bus go and again, decided to wait for the next bus. 
แล้วคุณก็ปล่อยให้รถเมล์คันนั้นผ่านไปอีกครั้ง และตัดสินใจที่จะรอรถเมล์คันต่อไป 

after a while another bus came, 
และแล้วรถเมล์อีกคันก็มาถึง 

it's not crowded, not old but you said, 
คราวนี้มัน คนไม่เยอะ และรถก็ไม่เก่าแต่คุณก็ยังบ่นอีกว่า 

"eee..no air-con one..and the weather is so warm,better wait for the next one" 
"อี๋... แอร์ก็ไม่มี ตอนนี้อากาศร้อนจะตาย รอรถคันใหม่ดีกว่า" 

so again you let the bus go and decided to wait for the next bus. 
อีกครั้งหนึ่งที่คุณปล่อยให้รถเมล์ ผ่านคุณไป และตัดสินใจที่จะรอรถอีกคัน 

then the sky started to get dark as it is getting late. 
ท้องฟ้าชักเริ่มครึ้มๆ และก็มันก็เริ่มสายแล้ว 

you panicked and jump on to the next on coming bus. 
คุณชักเริ่มกระวนกระวายในการรอรถเมล์ 

it is not until much later that you found out 
จนแล้วจนรอดรถเมล์ก็ยังไม่สักที 

that you had boarded on to the wrong bus! 
นั่นแหล่ะคุณจึงเริ่มรู้แล้วว่าคิดผิดที่ไม่ขึ้นรถคันก่อนหน้านี้... 

so you wasted your time and money waiting for what you want! 
คล้ายๆกับคุณยอมที่จะเสียเงินและเวลา เพื่อที่จะให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ 

even if an airson bus came, can you ensure that the aircon bus 
ถ้าหากว่าคุณคิดว่ารถเมล์ธรรมดาที่ผ่านมาเป็นรถแอร์ไม่ได้เหรอไง 

won't break down or whether will the aircon be too cold for you? 
แอร์อาจจะเสีย หรือไม่ก็คิดว่ามันเป็นแอร์ที่เย็นพอสำหรับคุณ 

so people wanting to get what you want is not wrong. 
การที่คนมากมาย ต้องการที่จะได้อย่างที่เราต้องการมันไม่ผิดหรอก 

but it wouldn't hurt to give other people a chance right? 
แต่คุณจะไม่รู้สึกอะไรบ้างเหรอ ที่คุณหยิบยื่นโอกาสที่ตัวเองควรจะได้ให้คนอื่นไป 

if you found that the "bus" doesn't suit you, 
ถ้าหากว่าคุณเจอรถเมล์คันนั้น คันที่อาจจะไม่ใช่อย่างที่คุณต้องการ 

just press the redbutton and get off the bus. 
ก็เพียงแค่ กดปุ่มเรียกรถเมล์(โบกรถ) แล้วขึ้นรถเมล์ เท่านั้นก็จบ 

but wait...i'm sure you have this experience before. 
แต่เดี๋ยวก่อน ผมแน่ใจเลย ว่าคุณต้องเคยเจออย่างนี้มาก่อน 

you saw a bus coming (th e bus you want of course) 
คุณเห็นรถเมล์กำลังวิ่งมา (แน่นอนว่ามันเป็นรถเมล์คันที่คุณต้องการ) 

you flagged it but the driver act blur 
คุณโบกมือเรียกให้รถหยุด แต่คนขับดันเบลอ 

by pretending not seeing you and zoomed pass you! 
ไม่เห็นว่าคุณโบกมือ แล้วรถคันนั้น .... รถคันนั้นที่คุณรอมาตั้งนานก็ผ่านคุณไปต่อหน้าต่อตา 

well, and when the bus zoomed pass, what you may have to do is WALK!!!! 
ดีแล้ว เมื่อรถเมล์ที่คุณต้องการผ่านไปแล้ว สิ่งที่คุณต้องทำคราวนี้คือการเดิน 

the bottom line is being loved is like waiting for a bus whether you want. 
มันก็คล้ายกับชีวิตรักของเราๆ เหมือนกับที่เรารอรถที่เราต้องการ 

to get on the bus and give the bus a chance depends totally on you. 
เพียงแค่ขึ้นไปบนรถ ให้โอกาสรถนั้นได้โอบอุ้มความรักคุณไว้ 

and walking is like being out of love. 
และการที่ คุณเดินนั้นแหล่ะที่คุณปล่อยให้ความรักหลุดลอยไป 

you never lose by loving. 
คุณจะไม่มีวันเสียอะไรถ้าคุณคิดจะรัก 

you always lose by holding back. 
แต่ถ้าคุณไม่ดึงรักที่ผ่านเข้ามาไว้ คุณก็จะเสียโอกาสที่คุณควรจะมี. 

-------------------------------------------------------------------------------- 

อย่า!.. อย่าปล่อยให้คนที่เข้ามา "หลงชอบคุณ" แต่เขาเป็นคนที่คุณไม่สนใจ ไม่ใช่คนที่คุณต้องการ 

อาจจะไม่สวย ไม่หล่อไม่ใช่สเป็กคุณ แล้วปล่อยให้เขาผ่านไป หรือจากคุณไป.. เมื่อเขาออกไปจากชีวิตคุณ คุณอาจจะเพิ่งเริ่มรู้สึกก็ได้ว่า.. เขามีความสำคัญต่อคุณแค่ไหนและในตอนนั้น คุณอาจจะไม่มีโอกาส ที่จะดึงเขากลับมาอีกแล้ว....				
19 กุมภาพันธ์ 2546 19:48 น.

อักษรลงท้ายชื่อบอกอะไรคุณได้

ปีกฟ้า

อักษรท้ายชื่อคือตัว A, J และ S 
สำหรับคนที่มีอักษรท้ายชื่อของตนคือตัว เอ เจ 
และเอสนั้น มักเป็นคนที่หลงใหลในอิสระเสรีภาพมาก 
ไม่ใช่คนเก็บตัว ทั้งยังชอบการแสดงออกเสียจนดูฟุ่มเฟือย 
สำหรับการทำงาน ชอบทำงานที่ได้เป็นเจ้านายตัวเอง 
ทั้งนี้เพราะว่าเป็นคนที่ยึดมั่นในความคิดของตนเป็นอย่างยิ่ง 
โดยไม่เปลี่ยนแปลงง่ายๆ และไม่ยอมประนีประนอม ใดๆเลย 
แต่ก็เป็นผู้ที่ซื่อสัตย์ต่อความต้องการของตน 
ทั้งยังเป็นคนมีอารมณ์ขัน 
และจริงใจต่อทุกคนที่คบหาเป็นเพื่อน 


อักษรท้ายชื่อคือตัว B, K และ T 
สำหรับคนที่มีอักษรท้ายชื่อคือตัว บี เค และทีนั้น 
อุปนิสัยมักเป็นคนที่เอาแต่อารมณ์เป็นใหญ่ 
จึงมักหวั่นไหวปรวนแปรได้โดยง่ายตามกระแสความต้องการของคนส่วนใหญ่ 
หรือบุคคลที่มีอิทธิพลเหนือกว่า 
แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นคนช่างรู้สึก อ่อนไหว ขี้สงสาร 
รวมไปถึงการชอบสงสารและเข้าข้างตัวเองอีกด้วย ทั้ง 
ยังไม่ใช่คนที่มีความอดทนต่อสิ่งใดๆเลย 
และมักมีความฝังใจในเรื่องร้ายๆจากอดีต 


อักษรท้ายชื่อคือตัว C, L และ U 
สำหรับคนที่มีอักษรท้ายชื่อคือตัว ซี แอล และยูนั้น 
จะเป็นคนที่อยู่เฉยๆไม่ค่อยได้ 
มักจะกระตือรือร้นสนอกสนใจเรื่องนั้นเรื่องนี้อยู่เสมอ 
แต่จะสนใจอะไรไม่ค่อยนาน 
และมักทำงานไม่ค่อยสำเร็จหากไม่มี คนช่วย 
ทั้งนี้เพราะมีความเป็นนักทฤษฎีมากกว่านักปฏิบัติและยังเป็นคนที่ชอบการแสดงออก 
โดยเฉพาะในเรื่องความคิดจะให้ความสนใจในตัวบุคคลที่มีความสามารถเก่งกาจ
จนเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง และชื่นชอบกับการติดต่อพบปะผู้คน 

อักษรท้ายชื่อคือตัว D, M และ V 
บุคคลที่มีอักษรท้ายชื่อคือตัว ดี เอ็ม และวีนั้น 
จะเป็นคนที่มีความเข้มแข็งและอดทนที่โดดเด่นมาก 
ชอบทำตัวง่ายๆติดดิน และไม่เป็นปัญหาสำหรับใคร 
และมักจะเป็นที่พึ่งพาของคนใกล้ชิด 
เป็นผู้ให้ที่ดีสำหรับคนที่ต้องการความช่วยเหลือจริงจัง 
แต่จะไม่มีความอดทนกับคนที่เอาแต่งอมืองอเท้าไม่ทำอะไรนอกจากเอาแต่ร้องขอ 
ทั้งยังให้ความสำคัญกับการทำงานและสิ่งอันเป็นสาระต่อชีวิต
นอกจากนี้ยังเป็นคนที่รักความซื่อสัตย์มากจะทำทุกเรื่องอย่างตรงไปตรงมา 

 
อักษรท้ายชื่อคือตัว E, N และ W 
สำหรับคนที่มีอักษรท้ายชื่อของตนคือตัว อี เอ็น 
และดับบลิวนั้น จะเป็นคนที่ชอบความทันสมัยมาก 
และมักจะทนกฎเกณฑ์เก่าๆที่เห็นว่าคร่ำครึสำหรับตนไม่ได้เลย 
ทั้งยังเป็นคนที่ชอบการเปลี่ยนแปลงมาก 
จะไม่มีวันยอมยึดมั่นหรือเข้มงวดอยู่กับสิ่งหนึ่งสิ่งใดได้ 
และยังไม่ใช่คนที่มีระเบียบแบบแผนอะไรมากนัก 
ทั้งยังไม่มีความระมัดระวังในการใช้ชีวิตอีกด้วย 
นอกจากนี้ในเรื่องของความคิดก็มักจะขัดแย้งกับคนทั่วไป 
ออกจะดูดื้อรั้นในสายตาคนรอบข้าง 


อักษรท้ายชื่อคือตัว F, O และ X 
สำหรับผู้ที่มีอักษรท้ายชื่อคือตัว เอฟ โอ 
และเอกซ์นั้น จะเป็นคนที่มีความอ่อนโยน 
โอบอ้อมอารีและมักมีเสน่ห์ต่อคนใกล้ตัวเสมอ 
ทั้งยังเป็นคนที่นิยมในสิ่งที่สวยงามอ่อนหวาน 
จึงมักจะหมดเปลืองเวลาไปกับการสรรหาสิ่งละอันพันละน้อย 
เหล่านี้ให้ตนเองเสมอ โดยเฉพาะในเรื่องของการแต่งตัว 
ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้จิตใจมีความสุขมาก 
ทั้งยังนิยมชมชอบให้คนรอบข้างได้สัมผัสใกล้ชิดกับสิ่งสวยงาม 
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องศิลปะ หรือข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ 


อักษรท้ายชื่อคือตัว G, P และ Y 
สำหรับคนที่มีอักษรท้ายชื่อคือตัว จี พี และวายนั้น 
มักเป็นคนที่นิยมในความจริงที่ตรงไปตรงมาและชัดเจนชอบทำงานที่มีเหตุผลจริงจัง 
ทั้งยังเป็นคนที่มีความละเอียดถี่ถ้วนมากในหน้าที่ที่รับผิดชอบ 
นอกจากนี้ยังเป็นคนที่เปิดเผย ใจร้อน ชอบแสดงออก 
กล้าคิดกล้าทำ แต่ไม่ใช่นักพูดที่ดีนัก 
เป็นคนที่มีความโดดเด่นในตัวเอง โดยธรรมชาติ 
เป็นคนที่ชอบแต่งตัว 
และมีรสนิยมที่ดีในการเลือกข้าวของเครื่องใช้ให้กับตน 
โดยไม่จำเป็นต้องมีราคาแพงเสมอไป 


อักษรท้ายชื่อคือตัว H, Q และ Z 
คนที่มีอักษรท้ายชื่อคือตัว เอช คิว และแซดนั้น 
จะมีความอดทนสูง 
ไม่มีความเร่าร้อนบุ่มบ่ามในการกระทำใดๆทั้งสิ้น 
การคิดการตัดสินใจ จะค่อนข้างล่าช้า 
แต่ว่าก็สุขุมรอบคอบและผ่านการวางแผนที่ดี 
ไม่ชอบชีวิตที่เสี่ยงภัย และไร้ความมั่นคง 
ทั้งยังเป็นคนที่เคร่งครัดต่อระเบียบกฎเกณฑ์ของสังคมเป็นอย่างยิ่ง 
ค่อนข้างจะปิดกั้นตัวเองต่อความสนุกสนานในความคิดของคนทั่วไป 
แต่รักความสงบ 
และรักชีวิตส่วนตัวที่ไม่มีคนเข้ามาวุ่นวาย 


อักษรท้ายชื่อคือตัว I และ R 
สำหรับคนที่มีอักษรท้ายชื่อคือตัว ไอ และอาร์นั้น 
จะเป็นคนที่มีความมานะพยายามสูง และมองคนทุกคนในแง่ดี 
จะไม่มีอคติหรือคิดร้ายกับใครทั้งสิ้น 
แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นคนที่มีความเป็นตัวของตัวเองมาก 
จะชัดเจนและตรงไปตรงมากับความชอบหรือไม่ชอบของตน 
ไม่มีลักษณะของคนที่ลังเล หรือตัดสินใจไม่ได้ให้เห็นเลย 
จะดูเป็นคนที่ดันทุรังอยู่สักหน่อยกับสิ่งที่ตนคิดและเชื่อที่จะไม่ยอมเปลี่ยนแปลง
 ทั้งยังมีหลักการและเหตุผลสำหรับการกระทำของตัวเองเสมอ				
5 พฤศจิกายน 2545 01:17 น.

Meeting Thaipoem ที่ World Trade Center ครับ

ปีกฟ้า

เราเจอกันตอนบ่ายโมงนิดหน่อย ทั้งหมด 7 คน ทานอาหารกันอยู่เกือบ 3 ชั่วโมง คุยกันไปมาเรื่องต่างๆ หลายๆคนก็เจอกันครั้งแรกครับ สนุกดี บางคนอาย เลยไม่ได้ถ่ายรูปมาฝาก ที่ถ่ายมาก็หล่อๆสวยๆกันทั้งนั้น ^_^ และมีหลายๆท่านได้โทรมา Say Hello ด้วย อาทิ ป้าวรรณกาญจน์ คุณลุงเวทย์ และผมก็ได้โทรไป Say Hello คุณ burst ด้วย 

คราวนี้นัดที่แพงไปหน่อย น้องๆหลายๆคนเลยมาไม่ได้ ก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ คราวหน้าจะนัดที่ที่ถูกๆและอาหารอร่อยกว่านี้ มาคุยกันครั้งนี้ก็ได้เรื่องหลายๆอย่างครับ อย่างเช่นว่า Thaipoem น่าจะปรับปรุงตรงไหนอีกบ้าง มีเว็บกลอนอื่นๆที่น่าสนใจอีกหลายๆเว็บ เป็นต้นครับ ถ้านัดกันคราวหน้าก็ขอเชิญทุกคนนะครับ ^_^

: + : ปีกฟ้า : + :				
21 สิงหาคม 2545 00:16 น.

ของขวัญจากเวลา

ปีกฟ้า

ลองจินตนาการว่ามีธนาคารแห่งหนึ่งเข้าบัญชีให้คุณทุกเช้า เป็นเงิน 
86,400 บาท ไม่มีการยกยอดคงเหลือไปวันรุ่งขึ้น,...
ทุกตอนเย็นจะลบยอดคงเหลือทั้งหมดที่คุณไม่ได้ใช้ระหว่างวัน
คุณจะทำอย่างไร? แน่นอนที่สุดคุณต้องถอนมาใช้ทุกบาททุกสตางค์ ใช่
ไหม...!!!

เราทุกคนมีธนาคารอย่างนั้นเหมือนกัน ธนาคารแห่งนี้ชื่อว่า "เวลา"..... 
มันเข้าบัญชีให้คุณ 86,400 วินาที...ทุกคืนมันจะถูกล้างบัญชีถือว่าขาดทุน
ตามจำนวน
ที่คุณพลาดโอกาสที่จะลงทุนในสิ่งดีๆ มันไม่สะสมยอดคงเหลือไม่ให้เบิก
เกินบัญชี ในแต่ละวันจะเปิดบัญชีใหม่ให้คุณ...ทุกค่ำคืนจะลบยอดคง
เหลือของทั้งวันออกหมด

ถ้าคุณเสียโอกาสที่จะใช้ประโยชน์ในระหว่างวัน ผลขาดทุนเป็นของคุณ 
ไม่สามารถถอยหลังกลับไปได้ ไม่มีการถอนของ "วันพรุ่งนี้" มาใช้ได้
คุณต้องมีชีวิตอยู่กับปัจจุบันด้วยยอดเงินฝากของวันนี้ ให้ลงทุนจากเงิน
ฝากเหล่านี้เพื่อได้ผลตอบแทนมาสูงสุด ไม่ว่าจะเป็น...เพื่อสุขภาพ ความสุข
และความสำเร็จ...! นาฬิกากำลังเดิน...ทำวันนี้ให้ดีที่สุด.

...จะรู้ถึงคุณค่าของเวลา หนึ่งปี ให้ไปถามนักเรียนที่สอบตกต้องซ้ำชั้น
...จะรู้ถึงคุณค่าของเวลา หนึ่งเดือน ให้ไปถามคุณแม่ที่คลอดลูกก่อน
กำหนด
...จะรู้ถึงคุณค่าของเวลา หนึ่งสัปดาห์ ให้ไปถามนักเขียนหนังสือพิมพ์ราย
สัปดาห์
...จะรู้ถึงคุณค่าของเวลา หนึ่งชั่วโมง ให้ไปถามคนรักที่กำลังรอคอยตาม
นัดหมาย
...จะรู้ถึงคุณค่าของเวลา หนึ่งนาที ให้ไปถามคนที่เพิ่งพลาดขบวนรถไฟ
...จะรู้ถึงคุณค่าของเวลา หนึ่งวินาที ให้ไปถามคนที่เพิ่งรอดหวุดหวิดจาก
อุบัติเหตุ
...จะรู้ถึงคุณค่าของเวลา เสี้ยววินาที ให้ไปถามคนที่เพิ่งชนะได้รางวัล
เหรียญทองโอลิมปิค

ทำทุกขณะที่คุณมีให้มีคุณค่า...! และทำให้มีคุณค่ามากขึ้นไปอีกเพราะ คุณ
ใช้มันร่วมกับ...คนพิเศษบางคนของคุณ...ให้พิเศษเพียงพอที่จะใช้เวลา
ของคุณ
และจำไว้เสมอว่าเวลาไม่คอยใคร...แม้สักคนเดียว

เมื่อวานเป็นอดีต...พรุ่งนี้ยังยากที่จะอธิบาย...วันนี้เป็นของขวัญ นั่นไง
ทำไมมันถึงถูกเรียกว่า... "Present"

แสดงให้เพื่อนเห็นว่าคุณแคร์เขามากแค่ไหนด้วยการส่งข้อความนี้ไป 
ให้ทุกคนที่คุณพิจารณาแล้วว่า เขาคือ... "เพื่อน"				
6 สิงหาคม 2545 00:16 น.

เรื่องราวของส้ม 9 ผล

ปีกฟ้า

เรื่องราวของส้ม9 ผลนี้ อาจจะสอนอะไรได้บางอย่างนะ 
มีผู้ใจดีซื้อส้มชั้นดีคัดพิเศษ 9 ลูก ราคา 45 บาท    แล้วจากนั้นก็แจกให้กับคนกลุ่มหนึ่ง...... 

- ส้มผลแรก อยู่กับขอทานขอทานผู้นั้นแกะทานแค่ครึ่งหนึ่งแล้วอีกครึ่งหนึ่งก็ ขว้างทิ้งไปอย่างไม่แยแส...แล้วก็บ่นว่า.. " ทุเรศจัง..ให้มาได้แค่ส้มผลเดียว " 

- ส้มผลที่สอง อยู่กับลูกของผู้ใจดี ลูกของผู้ใจดีนั้นก็แกะทานทันที เมื่อทานหมดผลแล้ว ก็พูดว่า.." ส้มนี้..อร่อยดีนะ " 

- ส้มผลที่สาม อยู่กับแม่ของผู้ใจดี แม่ของผู้ใจดีนี้นำส้มที่ได้ไปคั้นเป็นน้ำส้ม แล้วแช่ตู้เย็นไว้ เมื่อกระหายจึงนำมาดื่ม...       " แหม...น้ำส้มนี้ชื่นใจดีจริง " 

- ส้มผลที่สี่ อยู่กับร้านขายของชำ เจ้าของร้านขายของชำก็นำส้มผลนี้ ไปคั้นเป็นน้ำส้ม เหยาะเกลือนิด เติมน้ำตาลหน่อย ปรุงได้ที่แล้วก็นำไปใส่แก้ว แช่ไว้ในตู้แช่ เมื่อมีคนเดินผ่านมาเปิดตู้แช่ แล้วหยิบน้ำส้มแก้วนั้นมาทาน เมื่อทานเสร็จ ก็นำแก้วเปล่านั้นวางไว้ที่ตู้แช่...." เท่าไหร่ครับ ..........." 10 บาท ครับ 

- ส้มผลที่ห้า อยู่กับพ่อค้าน้ำผลไม้ พ่อค้าน้ำผลไม้ก็นำส้มผลนี้ไปคั้นเป็นน้ำส้ม เหยาะเกลือนิดเติมน้ำตาลหน่อย ปรุงได้ที่แล้วก็นำไปใส่ขวดพลาสติก แช่ไว้ในตู้น้ำแข็งบนรถเข็น แล้วเดินเข็นจำหน่ายไปเรื่อยๆ มีคนหนึ่งเดินสวนมา เรียกให้หยุด เสร็จแล้วก็เปิดตู้น้ำแข็ง ก็ชี้เอาน้ำส้มขวดนั้น คนขายหยิบน้ำส้มขวดนั้น เปิดหยิบหลอดพลาสติกเสียบให้ หนึ่งหลอดแล้วส่งให้คนๆนั้น.... " เท่าไหร่ครับ "  ..........." 20 บาท ครับ และคนๆ นั้นก็ถือขวดพลาสติกบรรจุน้ำส้มนั้นเดินจากไป 

- ส้มผลที่หก อยู่กับร้านอาหารแห่งหนึ่งบนห้างสรรพสินค้าชั้นนำย่านลาดพร้าว เจ้าของร้านอาหารแห่งนี้ก็นำส้มผลนี้ ไปคั้นเป็นน้ำส้ม เหยาะเกลือนิด เติมน้ำตาลหน่อย ปรุงได้ที่แล้วก็นำไปใส่แก้วแล้วแช่ไว้ในตู้เย็น วันนั้น มีหนุ่มสาว คู่หนึ่งเดินเข้ามา เจ้าของร้านจึงเชื้อเชิญและหาที่นั่งให้ ฝ่ายหญิง...." น้ำส้มแก้วหนึ่ง ค่ะ ฝ่ายชาย..." กาแฟ ร้อน ครับ "เจ้าของร้านจึงนำน้ำส้มที่คั้นไว้นำมาใส่แก้วใบใหม่ แก้วใบนี้มีลักษณะทรงสูง รอบๆ แก้ว มีรูปหัวใจ ดวงเล็กๆ น่ารัก สีแดงติดอยู่ ภายในแก้วใบนั้นมีหลอดพลาสติกเสียบอยู่ ตรงปลายหลอดนั้นงอได้ แต่เจ้าของร้านไม่ได้มา เสิร์ฟเอง แต่มีเด็กเสิร์ฟใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว กระโปรงสีดำมาเสิร์ฟ แทน เมื่อทานเสร็จ..........เช็คบิล.............. น้ำส้มแก้วนี้ 50 บาท 

- ส้มผลที่เจ็ด อยู่กับภัตตาคารแห่งหนึ่งแถวริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ครั้งนี้ส้มผลนี้ถูกปรุงแต่งโดยบาร์เทนเดอร์มือหนึ่งของร้าน น้ำส้มคั้นที่ได้นั้นถูกปรุงแต่งและเก็บรักษาไว้ในตู้แช่อย่างดี และในวันนั้น มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้าภัตตาคารนั้นมา และมีความประสงค์ที่จะลงเรือล่องแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อชมทิวทัศน์ในยามค่ำคืนด้วย ในจำนวนรายการที่สั่งนั้น ฝ่ายหญิง..."น้ำส้มคั้นแก้วหนึ่ง ค่ะ " และแล้ว...น้ำส้มคั้นแก้วที่วางอยู่ตรงหน้าหญิงสาวผู้นั้น ถูกเสิร์ฟโดย บริกรในชุดประจำร้านที่เป็นเอกลักษณ์ของร้านนั้น แก้วที่ใช้เป็นทรงสูงมีก้านสำหรับจับ หลอดเป็นหลอดพลาสติก ใสตรงปลายหลอดงอได้ สิ่งที่โดดเด่นนั้นอยู่ตรงที่บริเวณขอบปากแก้วนั้นมีส้มที่ถูกฝานเป็นวงกลมเสียบอยู่ เมื่อเรือจะเข้าเทียบฝั่ง......สิ่งที่ปรากฏในบิลนั้น....100 บาท เป็นราคาของน้ำส้มแก้ว นี้ 

- ส้มผลที่แปด อยู่กับคลับเฮาส์สุดหรูย่านปทุมธานี และเช่นเดียวกันส้มผลนี้ไว้ถูกทำเป็นน้ำส้มคั้นเหมือนกัน ถูกปรุงแต่งโดยบาร์เทนเดอร์มือหนึ่ง น้ำส้มคั้นที่ได้นั้นถูกปรุงแต่งและเก็บรักษาไว้ในตู้แช่อย่างดีเช่นเดียวกัน ในค่ำคืนนั้นมีงานราตรีของกลุ่มสาวไฮโซกลุ่มหนึ่ง และหนึ่งในนั้นก็สั่ง..." น้ำส้มคั้น หนึ่ง ".... น้ำส้มคั้นแก้วนี้ ถูกเสิร์ฟโดยบริกรหนุ่ม หน้าตาคมสันคนหนึ่งมาในชุดทักซิโดที่ตัดด้วยผ้ามูนอย่างดี สิ่งที่อยู่บนฝ่ามือของบริกรหนุ่มคนนั้น คือถาดสีเงิน บนถาดนั้นมีแก้วน้ำส้มคั้นตั้งอยู่ แก้วที่บรรจุน้ำส้มคั้นใบนี้ เป็นแก้วคริสตัล ทรงสูงเจียรนัยอย่างดี เป็นแก้วที่สั่งทำเป็นพิเศษตรงขอบปากแก้ว มีส้มกลีบหนึ่งที่ถูกแกะสลักเป็นรูปนกตัวหนึ่งเกาะ(เสียบ)อยู่ที่ปากแก้วนั้น หลอดที่ใช้เป็นหลอดแก้วใส บนถาดใบนั้นที่มาพร้อมแก้วคริสตัล มีสลิปบัตรสมาชิกคลับเฮาซ์แนบมาด้วย....300  บาท ...ก่อนที่หญิงผู้นั้นจะจดปากกาเซ็นลงไป 

- ส้มผลที่เก้า อยู่กับโรงแรมแห่งหนึ่งย่านริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาและเช่นเดียวกัน ส้มผลนี้ไว้ถูกทำเป็นน้ำส้มคั้น เหมือนกัน ถูกปรุงแต่งโดยบาร์เทนเดอร์มือหนึ่ง น้ำส้มคั้นที่ได้นั้นถูกปรุงแต่งและเก็บรักษาไว้ในตู้แช่อย่างดี ค่ำคืนนี้ ห้องอาหารชั้น Sky Top มีโอกาสต้อนรับ หนุ่มสาวชาวต่างประเทศคู่หนึ่ง ที่ เลือกสถานที่แห่งนี้เป็นที่ดินเนอร์ เนื่องในโอกาสฉลองสมรส และเลือกเมืองไทยเป็นที่ฮันนีมูน เมื่อหาที่นั่งในห้องอาหารแห่งนี้ได้แล้ว ณ.  มุมมองตรงนั้น สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเกาะรัตนโกสินทร์ อย่างชัดเจน ตลอดจนสายน้ำที่ทอดยาวของลำน้ำเจ้าพระยา เมื่อทอดสายตามองยาวออกไป จะมองเห็นสะพานแขวนที่ถูกประดับประดาไปด้วยแสงไฟอย่างสวยงาม หลังจากพักผ่อนอิริยาบทสักพักหนึ่งแล้ว ฝ่ายหญิงจึงกล่าวกับบริกรว่า.." Orangeade "... และฝ่ายชายว่า..." American Expresso "... สักพักบริกรที่อยู่ในชุดไทยสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นท่านนั้นกลับมา พร้อมกับกาแฟร้อนและ น้ำส้มคั้นแก้วหนึ่ง แก้วนั้น เป็นแก้วคริสตัลอย่างดี ตรงฐานแก้วและขอบปากแก้วเคลือบด้วยทอง 18 เค ถัดจากฐานรองแก้วตรงขอบที่เคลือบทองขึ้นมา และถัดจากขอบที่เคลือบทองที่ปากแก้วลงมาถูกเจียรนัยตกแต่งอย่างดี เมื่อแสงไฟตกกระทบถูกแก้วเจียรนัยใบนี้ จะเป็นประกายแวววับ ยิ่งภายในใช้บรรจุน้ำส้มคั้นด้วยแล้ว ยิ่งทำให้โดดเด่นยิ่งขึ้นตรงกลางของแก้วใบนี้ มีตราสัญลักษณ์ของโรงแรมแห่งนี้ติดอยู่เป็นเคลือบทอง 18เค เช่นเดียวกัน หลอดที่ใช้เป็นหลอดแก้วใส ตรงปลายได้ขดเป็นเกลียว ตรงขอบปากแก้วมีดอกกล้วยไม้ที่มีชื่อว่า " ช้างเผือก " เสียบอยู่ เมื่อแสงไฟที่เป็นหลอด Black Light ส่องมากระทบกับ ช้างเผือก ดอกนี้ จะเกิดเป็นสีขาวเรืองๆ ขึ้นมาอย่างสวยงามบริกรโค้งคำนับก่อนที่จะเสิร์ฟ และ โค้งคำนับเมื่อเสิร์ฟเสร็จแล้ว หลังจากที่หนุ่มสาวคู่นี้ดื่มด่ำกับบรรยากาศในค่ำคืนนี้ พอสมควรแล้ว ฝ่ายชายจึงกล่าวกับบริกรขึ้นว่า.. " Cash Please บริกรโค้งคำนับ ก่อนที่จะเดินไปที่แคชเชียร์ Ticketที่ออกมา .... Orangeade 500 Baht..... 

ส้มเหมือนกัน ราคาโดยเฉลี่ยแล้วผลละ 5 บาทเหมือนกัน อาจจะเป็นพันธุ์เดียวกัน ต้นเดียวกัน อยู่กิ่งก้านเดียวกัน หรือ อาจจะอยู่ช่อเดียวกันด้วยซ้ำไป แต่ทำไมมูลค่าของส้มถึงต่างกันมากมาย หรือว่าเป็นเพราะเวลาและสถานที่ต่างกัน   ครับ...ช่วงเวลาและสถานการณ์, สถานที่ ที่ต่างกันนั่นแหละเป็นตัวกำหนดมูลค่าของส้ม .........และ...........ของตัวคุณเอง..!!!! บ่อยครั้งที่เราเคยท้อแท้กับ....งาน, ตกงาน, คนรอบข้าง, ครอบครัว, หรือแม้กระทั่ง กับ ตัวเราเอง แต่อยากจะบอกว่า...ขอให้อดทนเพราะช่วงเวลานี้...มันไม่ใช่ของเรา ส้มนั้นถูกคนเป็นผู้กำหนดจนทำให้มีมูลค่าแบบนั้น แล้วทำไมเราถูกไม่กำหนดมูลค่าของตัวเรา ขึ้นมาบ้างหละ ณ วันนี้เราอาจจะมีมูลค่าไม่ถึงครึ่งของส้มที่ขอทานกินแล้วโยนทิ้งไปแต่เชื่อแน่ว่า หากเราได้ตัดสินใจแล้วว่า ทางเดินเส้นนี้เราได้ตัดสินใจเลือกที่จะเดินแล้ว  จงตั้งมั่นและก้าวต่อไปอดทนเพื่อรอเวลาของเรา ไม่แน่นะว่า.....มูลค่าของเราอาจจะมากมายเกินกว่าที่เราจะคาดคิดก็เป็นไปได้ ...............ใครจะไปรู้หละ.. 
 
คิดได้หรือยังล่ะว่า...เราทำตัวดีแค่ไหน??				
ไม่มีข้อความส่งถึงปีกฟ้า