9 ตุลาคม 2542 07:56 น.
ปีกฟ้า
กลุ่มเมฆหมอกกรีดกรายร่ายผ่านฟ้า
ท้องทุ่งนาพริ้วพริ้วปลิวออ่นไหว
สายลมโชยหวิวหวิวลิ่วแต่ไกล
ฝนลอยไล่เปาะแปะและน้ำนอง
เหล่าอึ่งอ่างร้องระงมกบจมน้ำ
เขียดร้องตามแล้วตัวตรงโดดลงหนอง
ปลาแหวกว่ายตามรายทางข้างริมคลอง
ใบไม้ล่องแลเลือนลางอยู่พร่างตา
เจ้านกน้อยค่อยซุกตัวกลัวเปียกฝน
ไม้หลายต้นชุ่มชื้นชื่นกับฟ้า
สีเขียวเหลืองของทุ่งข้าวยืนค้างคา
กับต้นหญ้าตากฟ้าฝนจนเปียกปอน
หุ่นไล่กาอ้าอ้อมแขนรับลมหนาว
เฉอะแฉะมาคันนายาวราวกับหนอน
วัวและควายไม่ยอมลุกคลุกโคลนนอน
รอแดดร้อนรุ้งกินน้ำโผล่ตามมา...
9 ตุลาคม 2542 07:54 น.
ปีกฟ้า
เทพยดา - บดบังแสงแห่งตะวันป้องกันร่าง
เหลือหนทางเส้นเดียวอย่าเหลียวหลัง
จงเลือกหนึ่งหนีเท่าที่มีกำลัง
หรือหยุดยั้งหลบหลีกเลี่ยงเบี่ยงเบนตัว
คนกระจอก - "จะให้ถอยปลีกกายมาก็คงไม่
และก็ไม่เร้นซุกซ่อนตอนสลัว
ขอไม่ขลาดพลาดแผ่นดินกินความกลัว
จะร้ายชั่วเลวอย่างไรค่อยว่ากัน"
เทพยดา - อยากลองดีประการใดใครช่วยบอก
คนกระจอกคงละเมอช่างเพ้อฝัน
อหังการ์ค่าน้อยนิดคิดเทียมทัน
เจ้าดื้อรั้นเกินกว่าข้าจะปราณี
คนกระจอก - "แม้เปลวไฟไหม้ทุกอย่างกลางชีวิต
เพราะไม่ผิดจืงไม่เกรงไม่หลบหนี
ขึ้นอยู่กับหัวใจใส่เลือดดี
ท้าราศีโชคชะตามาประลอง"...
9 ตุลาคม 2542 07:51 น.
ปีกฟ้า
กว่าจะเป็นเส้นใยพิศวง
ก็แค่คงหยากไย่ไร้ความหมาย
เก็บเวลาทุ่มเทตั้งมากมาย
แล้วสุดท้ายเป็นผงลงพื้นดิน
แมงมุมเอยเร่ร่อนหาบ้านใหม่
เจ้าไม่ใช่เป็นนกจะผกผิน
จำเป็นต้องชักใยเพื่อหากิน
จนแรงสิ้นหมดลมที่หายใจ
ผิดด้วยฤาที่เกิดเป็นแมงมุม
มีใยหุ้มโยงยางไม่สวยใส
มนุษย์เล่าเลือกเกิดได้หรือไร
มนุษย์ใดกับแมงมุมก็เหมือนกัน
แค่ขอแบ่งความอยู่รอดบ้างได้ไหม
จากหัวใจให้ทางเพื่อสร้างสรรค์
คิดว่าเป็นงานศิลป์ด้วยชีวัน
คือความฝันของแมงมุมตรงเพดาน...
9 ตุลาคม 2542 07:50 น.
ปีกฟ้า
ขอบฟากฟ้าแผ่นดินฝันอันไกลโพ้น
ทางโชกโชนบุกลุยล่าฝ่าขวากหนาม
ก้าวเหยียบย่างอย่างหาญกล้าจารึกนาม
ไม่ครั่นคร้ามอันตรายย่างกรายมา
แม้จุดหมายจักแสนไกลมิไหวหวั่น
กีดขวางกั้นด้วยน้ำดินภูหินผา
แทรกซึมทราบภาพฝันวันเวลา
เหนื่อยอ่อนล้ากว่าจักสู้สู่ปลายทาง
หลับตาลงกลางราตรีที่มืดมิด
หยุดชีวิตกายพักผ่อนก่อนฟ้าสาง
พลิกฝันเพิ่มเติมความหวังหลังเจือจาง
ค่อยเสริมสร้างฟูมฟักฟื้นคืนเรี่ยวแรง
เพราะดวงใจไม่เคยสิ้นกลิ่นชีวิต
ถูกลิขิตดุจตะวันเฉิดฉายแสง
สักวันหนึ่งการรอดอยู่คู่เปลี่ยนแปลง
จักพลิกแพลง่สูโพ้นฟ้าเกินกว่าไกล...
9 ตุลาคม 2542 07:41 น.
ปีกฟ้า
มองดวงดาวพราวตากลางฟ้ากว้าง
ใจเวิ้งว้างเริ่มกลัวขลาดหวาดหวั่นไหว
เหงาปล่าวเปลี่ยวเดียวดายเศร้ากายใจ
จำจากไปไกลจากเธอด้วยน้ำตา
เหมือนความฝันผันผ่านอยู่นานเนิ่น
รักกว่าเกินเดินจากไปใจผวา
เหลือแค่เพียงเสียงของเธอเพ้อพร่ำมา
แล้วเวลาคงลบเลือนกลบเกลื่อนจาง
จากวันนี้จักมีใครห่วงใยอีก
ดุจถูกฉีกความผูกพันเป็นฝันค้าง
มองรอยยิ้มพริ้มร่องรอยค่อยเลือนลาง
ความอ้างว้างปลิวแทรกซ่านผ่านสู่ใจ
เพราะเธอคือผู้สร้างฉันในวันก่อน
เธอช่วยสอนช่วยแนะนำช่วยแก้ไข
เธอจักคือภาพทรงจำย้ำดวงใจ
เธอผู้ให้เพราะเธอคือจุฬา...