9 ธันวาคม 2549 21:09 น.
ปีกนางฟ้าสีขาว
ณ อีกดินแดนที่เต็มไปด้วยแสงสว่างใต้ท้องฟ้าคราม...
.ณ ทุ่งดอกไม้สีขาวที่ทอดยาวสุดตา...
.ชายหนุ่มทอดกายเหม่อมองแผ่นนภาอย่างเบื่อหน่าย.
ภาพที่เค้าได้พบท้องฟ้าครามที่พลันเปิดเป็นทางก่อนจะทอแสงประกายเจิดจ้า
...หลังสิ้นแสงทั้งสองก็เห็นร่างแบบบางที่กำลังร่วงหล่นจากท้องฟ้า.
...ราวนกที่ปีกหัก....
เค้ารีบร่ายเวทย์สร้างลมรองรับร่างนั้น...ก่อนที่จะตกถึงพื้น.....
"เจ้าเป็นใครกันนะ....เมื่อไหร่เจ้าจะตื่นมาตอบคำถามข้าได้...."
เค้าลูบผมยาวสีดำสนิทอย่างแผ่วเบาก่อนจะกระซิบเอ่ยถาม..
....ไม่รู้ทำไมข้าถึงรู้สึกห่วงใยเธอนัก...ทั้ง ๆ ที่มิเคยรู้จัก.
...แต่ความรู้สึกที่ลึกซึ้ง....ละมุนกรุ่นในหัวใจ.
..อ่อนหวานแผ่วเบาดุจราวผีเสื้อกระพือปีก..
.เพียงแค่ได้พบเธอ....เพียงแค่ได้เห็นเธอ...
.แต่ดั่งราวเค้ารู้จักคุ้นเคยมาเนิ่นนาน....
"อือ...."
เอลรีน่าขยับตัว....ก่อนจะลืมตากระพริบถี่ ๆ ....ด้วยความมึนงง....
. 'เธออยู่ที่ไหน' คำถามที่ดังก้องในหัวใจ...เมื่อพบว่าตนอยู่ในที่ไม่คุ้นเคย..
..แสงสว่างเจิดจ้าจากดวงอาทิตย์ที่มิเคยได้พานพบและสัมผัส..
.เธอรู้สึกถึงรอยสัมผัสอันแผ่วเบาเมื่อหันไปมองก็พบ
กับร่างสูงที่จับจ้องมาด้วยความยินดี.
...เธอสะบัดให้หลุดพ้นจากมือนั้นก่อนจะตบหน้าเค้าฉาดใหญ่..
..ตะโกนก้องด้วยความหวาดกลัว
"เจ้าเป็นใคร....อย่ามาแตะต้องตัวข้านะ.....ออกไป....ออกไปให้พ้น......"
เค้าทำหน้างุนงง...กับถ้อยคำที่เธอตรงหน้าเอื้อนเอ่ยออกมา..
..ภาษาที่เค้าไม่รู้จัก....แต่สัมผัสจากมือเธอน่ะ...เค้าเจ็บแน่นอน..
..เธอคงหวาดกลัว....เค้าจึงถอยออกมาพร้อมกับพยายามจะสื่อภาษาโต้ตอบให้เธอสบายใจว่าไม่ต้องกลัว....
"เจ้าพูดอะไรของเจ้าน่ะ.....ข้าไม่เข้าใจ....โลกแห่งแสงข้าไม่ต้องการแล้ว.
...ข้าจะกลับปราสาทข้า....ข้าจะไป...."
เอลรีน่าพูดขึ้น...เธอพยายามจะกางปีกเพื่อโผผินสู่ท้องฟ้า.
...แต่กลับพบว่าตัวเองไม่มีปีกอีกแล้ว..
..ปีกสีขาวละมุนที่บ่งบอกถึงสายเลือดแห่งเทพสูงศักดิ์ของเธอได้ถูกเอลฟารีน
...กระชากจนขาดไป....เธอพยายามจะก้าวขาลุกออกจากเตียง
.....แต่เมื่อสองเท้าเธอสัมผัสพื้น.....เธอก็พลันทรุดลงอย่างไร้เรี่ยวแรง.
...ถ้อยคำที่ไม่สามารถสื่อภาษา....ปีกขาวที่ไม่สามารถบินได้....
สองเท้าที่มิอาจก้าวเดิน.
..เธอซึ่งไม่ต่างจากนกปีกหัก....เธอไม่ได้เป็นนางฟ้าอีกแล้ว.
..เป็นเพียงนกที่ถูกเด็ดปีกก่อนจะถูกปล่อยให้ร่วงหล่นจากฟ้า.
...เธอหวังสักวันจะได้กลับไปอีกครั้ง...
.ปราสาทหลังงาม ณ แดนรัตติกาล...
.เอลรีน่ารู้สึกเสียใจในโชคชะตา...หยาดน้ำตาใส ๆ ค่อย ๆ พรั่งพรูจากดวงเนตรคู่งาม..
..รอฟเฝ้ามองเธออย่างเงียบ ๆ .....ก่อนจะก้าวเข้าไปหา..
..รวบสองมือของเอลรีน่ามากอดกุมไว้....ก่อนจะเอ่ยถ้อยคำราวกับสัญญา....
"ไม่ต้องกลัวนะ....ข้าจะดูแลเจ้าเอง...."
โปรดติดตามชมตอนต่อไป เร็วๆๆนี้
7 ธันวาคม 2549 22:39 น.
ปีกนางฟ้าสีขาว
ณ สุดปลายทางที่ทอดยาว
เป็นที่ตั้งของปราสาทงามแห่งจินตนาการและความฝัน
ซึ่งถูกถักทอด้วยเส้นสายทองคำ . ตกแต่งด้วยอัญมณีอันเลอค่ามากมาย....
ลอยละล่องอยู่บนลานม่านเมฆแห่งท้องฟ้าที่เป็นสีดำ .......
ท่ามกลางหมู่มวลดวงดารา ที่พากันส่องประกายระยิบยับละลานตา
และมีต้นไม้แห่งความฝัน แตกกิ่งก้านเข้าปกคลุมปราสาทแห่งนี้ไว้
.........ที่แห่งนี้มีเพียงนางฟ้าผู้เลอโฉมนาม เอลรีน่า อยู่เพียงเดียวดายในปราสาทอันกว้างใหญ่
. ในวันใดที่หัวใจเงียบเหงาสุดจะทานทน เอลรีน่าจะไปนั่งแกว่งไกวชิงช้าใต้แสงจันทร์
ที่แขวนบนดวงดาวสีขาว แล้วทอดมองไปยังท้องฟ้ากว้าง มองหาสะพานผ่านมิติสีรุ้ง
ที่เธอจะสามารถข้ามผ่านได้ เฉพาะเมื่อตอนท้องฟ้าเปิดเท่านั้น
"ข้าไม่อยากอยู่เพียงลำพังอีกแล้ว....จะมีประโยชน์อันใด....ในปราสาทกว้างซึ่งร้างซึ่งผู้ใด...ข้าอยากพบเจอผู้ที่จะนำพาข้าให้หลุดพ้นจากความเงียบเหงา....ข้าจะไปโลกแห่งความจริง....ผู้คนที่นั่นต่างพากันหลบลี้มา ณ ดินแดนข้า...และเฝ้าฝันว่าจะคงอยู่ ณ ดินแดนนี้ชั่วนิรันดร์ แต่สุดท้ายก็กลับมีเพียงข้าที่คงอยู่เพียงลำพังผู้เดียว....ดวงดารา...เจ้าอยู่เป็นเพื่อนข้า....แต่เจ้าไม่สามารถจะสัมผัส หรือคุยโต้ตอบกับข้าได้...ความรัก ณ หอแห่งปราชญ์มีหนังสือมากมายที่กล่าวถึง....จะมีผู้ใดบ้างมั้ยหนอ....ที่จะทำให้ข้าได้รู้จักกับมัน...."
นางฟ้าเอื้อนเอ่ย....ดวงตาสีม่วงใสราวอเมทิสเหม่อมองดวงดาวสีขาว
ดวงใหญ่....ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อพบสิ่งที่เธอปรารถนาจะพบเจอมาก
ที่สุด
"สะพานข้ามมิติสีรุ้ง...."
ริมฝีปากบางแดงระเรื่อดุจกลีบกุหลาบคลี่ยิ้ม....ก่อนที่ร่างบางจะกางปีกขาวผกผินจากชิงช้าที่แกว่งไกว...ไปสู่สะพานที่ทอดยาว.....
"เอลรีน่า....."
เสียงกระชากที่เอ่ยเรียกชื่อเธอราวกับขุ่นแค้นมานานเนิ่น....เรียกให้เธอหันกลับมา....ขณะกำลังจะผ่านประตูแสงสีขาวที่จะพาผ่านไปสู่โลกความจริง...และเมื่อเอลรีน่าพบผู้ที่หยุดเธอไว้....
"เอลฟารีน....ท่านมาที่นี่ได้อย่างไร....."
นางฟ้าผมทองทอประกายดุจแสงจันทร์ ดวงเนตรสีฟ้าครามราวน้ำทะเล แต่กลับเยียบเย็นดุจน้ำแข็งที่ไม่มีละลาย ใบหน้างามที่เหมือนกับเอลรีน่ามิผิดเพี้ยน เหยียดยิ้มก่อนจะปรายตามอง เอลรีน่า....
"เจ้าไม่ควรอยู่ที่นี่...ที่ ๆ เจ้าจะอยู่ได้คือ ดินแดนแห่งรัตติกาลในปราสาทงามที่ดุจที่คุมขังเจ้าเท่านั้น....นางฟ้าที่รูปลักษณ์ดุจปีศาจอันต่ำต้อย
อย่างเจ้า...กล้าขัดคำสั่งองค์จอมเทพงั้นรึ...."
เอลรีน่าก้มหน้าต่ำ....ทั้ง ๆ ที่นางกับเอลฟารีนเป็นนางฟ้าฝาแฝดกับแท้ ๆ แต่มีเพียงนางที่ถูกขับออกจากสวรรค์เพียงเพราะรูปลักษณ์ที่ผิดเพี้ยนจากเหล่าเทพทั้งหลาย....เส้นผมสีดำสนิทราวกับสีแห่งรัตติกาล ดวงตากลมโตสีม่วงอเมทิส...ลักษณะแห่งพงศ์พันธุ์ปีศาจศัตรูของเหล่าเทพ
ชั่วนิรันดร์...หากเพียงไม่มีปีกขาวคู่งามที่บ่งบอกถึงสายเลือดแห่งทวยเทพแล้วไซร้....เหล่าเทพทั้งหลายคงปลิดชีพนางไปแล้วอย่างแน่นอน....
"ข้า....ข้า....."
เอลรีน่าพยายามจะเอื้อนเอ่ย...ขอร้องพี่สาวที่มิเคยแยแสนางเลย...นางรับรู้....เอลฟารีนชิงชังนาง....และรังเกียจที่จะรับรู้ว่าตนเป็นฝาแฝดของเทพที่ผิดเพี้ยนเช่นนาง....
"เจ้าอยากไปโลกแห่งแสงงั้นรึ....เอลรีน่า....อย่างเจ้ามีคุณสมบัติเพียงพอด้วยรึ....มิคิดว่าเจ้าคือความอับอายของสวรรค์บ้างรึไร....."
เอลฟารีนเอ่ยเยาะเย้ย....แววตาจับจ้องด้วยความมุ่งร้าย.....
"ถ้างั้นข้าจะทำให้เจ้าสมหวัง.....ข้าจะให้เจ้าไปโลกแห่งแสง....แต่มิใช่ด้วยรูปลักษณ์นางฟ้า....เจ้าต้องไปในฐานะนางปีศาจ....."
นางกล่าวก่อนจะใช้เวทย์รัดรึงเอลรีน่าไว้แน่น....
"โอ้ย......อย่า....ข้าเจ็บเอลฟารีนปล่อยข้า....ปล่อยข้า.....กรี๊ดดดด......"
เอลรีน่าหวีดร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด....ปีกคู่งามถูกกระชากด้วยเวทย์อันแกร่งกล้าของเอลฟารีน....
"เจ้าจะต้องพานพบกับทรมานแสนสาหัส....เอลรีน่า....."
เอลฟารีนกล่าวยิ้มเยาะก่อนจะร่ายเวทย์คำสาปตราร่างน้องสาวที่นางชิงชัง......เอลรีน่าเงยหน้ามองจับจ้องพี่สาวเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่สติจะดับวูบด้วยความเจ็บปวด....จากแรงเหวี่ยงของวงแหวนเวทย์....ไปสู่ประตูแห่งแสงอันเจิดจ้า.....พร้อมกับถ้อยคำที่ราวกับกระซิบถามในห้วงหัวใจ....
'ข้าผิดหรือไร....ที่กำเนิดเกิดมา...ข้าเป็นผู้เลือกหรือไร...
.....................ที่จะผิดจากพงศ์พันธุ์....'.............................
ติดตามชมตอนต่อไปได้ เร็วๆ นี้
7 ธันวาคม 2549 18:13 น.
ปีกนางฟ้าสีขาว
~**~**~**~**~**~**~**~**~
อยากชวนเธอไปโลกแห่งความฝัน........
เดิน ดู ดวง ตะวัน สีขาว
เก็บดอกไม้หลากสีที่เป็นทางทอดยาว
กระโดดข้าม....เกลียวคลื่นสีขาวโต้คลื่นอยู่บนฟ้าไกล
อยากชวนเธอไปเก็บดาวที่ลอยเกลื่อนฟ้า
ไป ขี่ สายรุ้ง ทอแสงจ้า หลากสีสัน
ไปเดินเก็บ หิน บนถนนแห่งพระจันทร์
นั่งชิงช้าสวรรค์...........ด้วยกันบนฟากฟ้าสองคน
อยากชวนเธอไปทะเลขาวแห่งรัก
ให้ดวงใจของเธอ......ได้พักลงตรงนี้
สร้างปราสาททรายเอาไว้ให้เธอคนดี
ให้เป็นเจ้าชาย.....ของฉันคนนี้ตลอดไป
.... การ เดิน ทางบนโลกแห่งความฝั น
ชิงช้าใต้แสงจันทร์ แขวนบนดวงด าวสีขาว
เส้นทางสีรุ้งมีใบไม้หัวใจเป็นสะพานทอดยาว
ในขณะที่เมฆขาวเคลื่อนไหวมาพร้อมกับเสียงหัวใจ
.... นอนฟังเสียงหัวใจบนโขดหินแห่งความฝัน
ในความมหัศจรรย์ของใบไม้สีตะวันหวั่นไหว
เอื้อมมือสัมผัสความรู้สึกพับใส่ในกล่องดวงใจ
เป็นของขวัญจากหัวใจในโลกความฝันให้เธอ
อยากชวนเธอเดินต่อไปในโลกความฝัน
ก่อนที่.......พระจันทร์จะลาลับดับหาย
ก่อนที่.......ความฝันทุกสิ่งของฉันจะละลาย
ก่อนที่.......ทุกอย่างจะหมดความหมายเมื่อขาดเธอ.
เขียนโดย ปีกนางฟ้าสีขาว
~**~**~**~**~**~**~**~**~
ออกเดินทางไปกับเธอ...ในโลกแห่งความฝัน
มองตะวัน...พ้นเมฆครามอันสดใส
หอมดอกไม้กรุ่นตามทาง...อุ่นหัวใจ
โผบินไปกับเกลียวคลื่นขาว...ใต้ฟ้าคราม
แล้วไปเก็บดวงดาราที่เกลื่อนฟ้า....
ก่อนจะผ่านข้ามสะพาน...รุ้งสดใส
จับจูงมือกับเธอเดินอุ่นหัวใจ....
จะพักวางทั้งหัวใจ....ไว้กับเธอ...
อยากอยู่กับเธอต่อไปแม้เพียงในความฝัน....
ก่อนที่....พระจันทร์คืนนี้จะลาลับดับหาย....
ก่อนที่....ความฝันจะร้างลาเคลื่อนคลาย....
ก่อนที่....ทุกอย่างจะจางหายเมื่อตื่นมาไม่พบเธอ....
เดินทางไปกับเธอในโลกแห่งความฝัน....
นั่งชิงช้าใต้แสงจันทร์...ที่แกว่งไหว....
มองสะพาน...สายรุ้งที่ทอดยาวด้วยหัวใจ...
อิงแอบซบแนบใน....ฝังไว้เพียงเสียงใจเธอ...
นอนฟังเสียงหัวใจกันและกัน....
กอดเก็บความทรงจำ....แม้อาจเป็นเพียงแค่ความฝันที่ทำให้หวั่นไหว
หลับตาจดจำให้เนิ่นนาน...ก่อนจะลาร้างห่างไกล....
สัญญาจะมาพบเธอใหม่...ในคืนฝันอันยาวนาน...
~**.. G O O D...N I G H T...K I S S..**~
เขียนโดย makuro