2 ธันวาคม 2552 16:46 น.
ปาณาดี
เมื่อหายใจย่อมตระหนักว่ารักอยู่
แม้สินธูใหญ่กว้างมาขวางกั้น
ฟังเสียงเต้นของหัวใจย่อมคล้ายกัน
เฉกนภากับตะวันนั่นอย่างไร
รักหนอรักอยู่ไกลให้เกินรัก
หากประจักษ์แล้วซึ่งจิตพิศมัย
แม้หนทาง ยากจะรัก สักเท่าใด
ก็ไม่อาจ ห้ามหทัย มิให้รัก
ฤาแม้ปราณสิ้นไปก็ไป่หยุด
สวาทนุช น้องนี้ ที่จำหลัก
ฝังในห้วง ดวงฤดี สามิภักดิ์
ว่าจงรัก ภักดิ์ที่ พี่ผู้เดียว
27 พฤศจิกายน 2552 14:47 น.
ปาณาดี
สาดแสงเพ็ญเดือนเด่นในคืนหนาว
ประกายดาวร่วงหล่นแต่หนไหน
ห้วงแห่งฟ้าว้าเหว่เห่กล่อมใคร
ลมระบัดพัดใจให้ใครครวญ
แลน้ำค้างหยาดมาเพลานี้
ณ ราตรีแห่งเหงาเศร้ากำศรวล
สไบแพรผืนใดให้ห่มนวล
ทุกสิ่งล้วนมิเทียมเท่าเงาพี่ชาย
หนาวเนื้อหนาวใจหนาวสายหมอก
อวลกลิ่นดอกราตรีบ่มีหาย
สัตบรรณยืนต้นอยู่เดียวดาย
มองดั่งคล้ายนวลละออ...รอพี่ยา
ดูแสงเพ็ญยังเด่นในคืนหนาว
ยิ่งเจ็บร้าวในคืนไร้...สเน่หา
วอนลมหนาว...ดาว...หมอก...จงพัดพา
รัก...คิดถึง...อาลัยหา...ทุกตราตรึง
18 พฤศจิกายน 2552 23:31 น.
ปาณาดี
เถิดดวงใจ...อย่าหวนไห้ อาลัยฉัน
ลืมเสียเถิด คืนและวันอันสดใส
เมื่อเธอคือคนตัดสินความเป็นไป
สิ้นแล้วเอย เยื่อใย สายสัมพันธ์
ความทรงจำก่อนนั้นฉันเคยสร้าง
ไปไม่ถึงปลายทางของฝั่งฝัน
ที่ฉันหวัง ที่ฉันรัก ฉันผูกพัน
ไม่มีฝัน ไม่มีวัน ไม่มีใคร
ลืมเสียเถิด อย่าอาลัย ในวันเก่า
ฉันจะเศร้า เจ็บร้าว สักเพียงไหน
กาลเวลาจะลบเธอออกจากใจ
เถิดดวงใจ อย่าหวนไห้ อาลัยกัน
ลืมเสียเถิด ดวงใจ ให้ลืมสิ้น
เมื่อหยดหนึ่งน้ำตาริน คือสิ้นฉัน
ลืมเสียเถิด ลืมว่าเรา เคยมีกัน
ลืมเสียเถิด ความผูกพัน............... นิรันดร
7 พฤศจิกายน 2552 00:43 น.
ปาณาดี
หนาวลมหนาวลมหวนอวลความหลัง
ดังคลื่นลมกระทบฝั่งแล้วพังหาย
ปราสาทน้อยที่ร่วมสร้างก็ทลาย
นานเหลือแล้ว....ก็ไม่วาย...ให้คำนึง
บัวตองเอยเคยบานเมื่อวานนี้
ผ่านกี่ปีกี่หนาวยังร้าวถึง
หัวใจเอย ยังจำจดทุกตราตรึง
คล้ายประหนึ่งเธอยังอยู่คู่เคียงกัน
หมอกหนาฟ้าหนาว ณ เมืองเหนือ
เหล่าผีเสื้อเจ้าฟ้อนร่ายพรายสีสัน
เราสุขนักท่ามบุปผา นานาพันธุ์
เธอกุมมือ โอบกอดฉัน ในอ้อมใจ
แล้วใยมาเเปรเปลี่ยนไปในคำรัก
ทิ้งไว้เพียงรอยจำหลักเป็นแผลใหญ่
ความหลังเอย ความหวังเจ้า ลอยไปไกล
เหลือแต่เพียง รอยอาลัย เพราะใครทำ
เมื่อลมหนาวพัดมาอีกคราหนึ่ง
ก็สะกิดแผลที่ซึ่งยังเจ็บช้ำ
ยามลมหนาวพัดเมื่อไหร่ใจยังจำ
หวนระลึกถึงความช้ำทั้งน้ำตา
3 พฤศจิกายน 2552 14:35 น.
ปาณาดี
ณ เบื้องหน้า คือ มหาธารากว้าง
เดือนเด่นคว้างดูงดงามท่ามกลางหาว
อ้าแอร่มแจ่มฟ้านภาพราว
ศศิเพ็ญผ่องส่องสกาวกว่าคืนใด
สายนทีไหลล่องมองเห็นคลื่น
ยามค่ำคืนนี้งามกว่าเพลาไหน
เสนาะเสียงไพเราะโสตซับหทัย
เสียงน้ำไหลชุ่มชื่นรื่นฤดี
พับใบตองเย็บลดาผการ้อย
จุดประทีปราวแสงพลอยเป็นสร้อยสี
อธิษฐานต่อเบื้องหน้ามหานที
ขอขมาในสิ่งที่มิตั้งใจ
เคยล่วงล้ำก้ำเกินเมื่อกาลก่อน
ขอพระแม่แห่งสาครอภัยให้
ระลึกคุณแห่งความดีเหนืออื่นใด
น้อมกราบไว้ในพระคุณแห่งคงคา
กระทงน้อยล่องลอยตามสายน้ำ
พระพายรื่นพัดร่ำฉ่ำบุปผา
ร้อยกรองแก้วแห่งช่ออักษรา
เป็นมาลา รสร้อยในถ้อยกลอน