2 เมษายน 2553 16:26 น.
ปาง_สีฝุ่น
๐...หมาไล่เงา...๐
๐...คล้ายว่าภาวะแห่งตะวัน
ผูกพันธ์เนืองนิจในจิตหนึ่ง
จับต้องอยู่ใต้สายลมตรึง
บางสิ่ง.ลึกซึ้ง.ส่งถึงภวังค์
๐...รู้ร้างทางตนเมื่อจนตรอก
ข้ามคอกนอกกลุ่มเคยคุมขัง
หลบเร้นแววตาละล้าละลัง
เซซังบางเสี้ยวกับเรี่ยวแรง
๐...อาจหวั่นสั่นไหวในความว่าง
ไขว่คว้าไขว่คว้างเส้นทางแสง
ก่อนดาว.ระดะ.จะแสดง
ตอกย้ำโต้แย้ง.แต่งมายา
๐...จึ่งมโนภาพฝันอันอุโฆษ
สันโดษด้วยเสียงแห่งเดียงสา
เมื่อใจประสานตรงม่านตา
ค้นหาสิ่งต่างอย่างคุ้นเคย
๐...เข่นเขี้ยวปรารถนาใช่ล่าเนื้อ
อ่อนเอื้อกระเซ้าหยอกเย้าเหมย
กลับมิคว้า.สิ่งใดไว้สังเวย
เพิกเฉย.เย็นชา.ไร้อาทร
๐...ขอเพียงหญ้าแพรกแทรกกระสวน
และอวลกลิ่นอายสายลมอ่อน
สู่สมมติสิ่งหวังไว้สังวรณ์
ทับซ้อนภาพฉายระบายเบา
๐...เพียงพอต่อแสงที่แบ่งปัน
เสมอเสพสังสรรค์ในวันเศร้า
เหมือนเล่นมอญซ่อนผ้าไล่คว้าเงา
กับความว่างเปล่าอันคุ้นชิน...ฯฯ
--------------------------------------
"ปางสีฝุ่น"
31 มีนาคม 2553 16:16 น.
ปาง_สีฝุ่น
๐...คือไฟสุดท้ายจากไม้ดำ...๐
o...เป็นคืนมืด.มืดมิดสนิทมาก
ดั่งฟ้าดับฟากจากเดือนหงาย
เห็นเมื่อไม้ขีดกรีดประกาย
รวงเพลิงเริงราย.ขึ้นร่ายรำ
o...ร่ายรำกร่ำงามเร้นความเงียบ
หลบเฉียบเย็นชาหลุบฟ้าค่ำ
แสงหนึ่งจึ่งเคลื่อนเขยื้อนนำ
ส่องทางด่างดำในเวลา
o...และ.ชั่วครู่ขณะระยะปรก
ภาวะต่ำวูบตกตระหนกว่า
เดิ่งดวงไฟไหววับคงดับดา
เปราะปริบพริบปร่าจักพร่าไป
o...ข้าพเจ้าฯ.ตวัดจุดหมุดไม้ขีด
ประจงกรีดประกายความหมายใหม่
ต่อเทียนเปลี่ยนแสงเปิดแรงไฟ
หมายผนึกอำไพให้ดวงตา
o...ครั้นเทียนขับคายประกายเข้ม
ไล่กระเทาะเลาะเล็มความมืดหนา
จึ่งเหลือเศษไม้ดำธรรมดา
จบแรงจรัสจ้าเคยท้าทาย
o...สู่เนื้อเปลวนวลชวนจำเนียร
จากแท่งลำเทียน.วกเวียนสยาย
และทันทีที่แสง.เร่งแรงระบาย
นั่นแหละ.!.เพลิงสุดท้ายจากไม้ดำ..ฯฯ
( ขณะเทียนเวียนหลง.ผลัด.วงผกาย )
( นั่นแหละ!.ซากความตายของไม้ดำ..ฯฯ )
----------------------------------------
"ปางสีฝุ่น"
29 มีนาคม 2553 09:21 น.
ปาง_สีฝุ่น
๐...ดั่งดอกดาวร่วงรายรานริมชานชาลา...๐
๐...เกลี่ยดอกแก้วแววหวังหลังหลุดร่วง
แต่ละดวงดั่งวาด.สีหวาดไหว
มาหล่นเรี่ยริมข้างรางรถไฟ
ล้วน!.ดาวฝัน.ดาวใฝ่ของใครกัน..?.
๐...โอ้..ดาวเอ๋ย.ดาวน้อย.ดวงนิด
ดุจบันไดชีวิตเดินผิดขั้น
จึงปลิดปลิวลิ่วคว้างลงกลางครัน
หลังสูญสิ้นอำพันอันลำพอง
๐...พอแว่วหวูดรถไฟไหวความหวัง
กอดกระเป๋าเกรอะกรังลงนั่งหมอง
ทิ้งฝันเฝื่อนเกลื่อนก่นให้หล่นกอง
ถม.ขอบทาง.รางร่อง.สถานี
๐...เหมือนอับแสงแรงหมายมุ่งปลายฟ้า
จำ.รอนร่วงโรยราแล้วริบหรี่
จึง.แรมร้างจากเมืองเรืองรวี
คืนสู่ขอน.คอนคีรี..ถิ่นที่มา
๐...เก็บแก้วใจดวงดับจับลงกล่อง
ฉายแสงเงาเศร้าหมองส่องบนหน้า
เสียงรถไฟเทียบฐาน.ณ.ชานชาลา
จบตำนาน.แสวงหา.จากเมืองกรุง..ฯฯ
------------------------------------------
"ปางสีฝุ่น"
26 มีนาคม 2553 15:46 น.
ปาง_สีฝุ่น
๐...เพิงพักและชายคนเพ้อ...๐
๐...ร้างจากคนจรสะท้อนถอย
บางทีเด็กน้อยเล่นทอยเหรียญ
กระนั้นหนึ่ง.คนนับจังหวะเวียน
ผลัดเปลี่ยนรอยเท้านักเดินทาง
๐...คงความเคลื่อนไหวในเพิงพัก
อาณาจักรหยากไย่สยายกว้าง
ยินขรม.แมงค่ำระส่ำคราง
กรีดกระดิ่งน้ำค้างริมข้างระฆัง
๐..."หรือว่า.เปล่าดาย.สหายหนุ่ม.?"
"จึ่งซุกมุม.เสาไม้ท้ายที่นั่ง"
"หอบสัมพายภาระใดในภวังค์.?"
"โน่น!.เมฆครึ้มลมคลั่งกำลังมา"
๐...เหมือนมาผูกมัดการนัดหมาย
กับชายหมดหมาดมาดแรงม้า
ที่ยังคงฝันเข้มเต็มแววตา
หากทว่าขื่นเข้มเต็มแววใจ
๐..."สักครู่หนึ่ง.เถิดนะ!.สหายหนุ่ม"
มรสุมเริ่มส่อก่อฝนใหม่
หย่อนระย้าจากช่วงห้วงหุบไพร
จะกลั่นรินหยาดใสให้พรั่งพราว
๐...เข้าสู่คืนอีกค่ำอันแร้นแค้น
ขณะแหงนเงยหน้าขึ้นหาหาว
สังกะสี.กร่อนผุ.ปรุ,รูดาว
แทนเวิ้งฟ้า.วับวาวราวละออ
๐...คือเพิงพักคนเพ้อริมทางผ่าน
ทิ้งระทมซมซานค่อยสานต่อ
ร่ำเมรัยรสอุบาทว์ปาดลำคอ
ขณะรอ.ดอกฝนเล่นดนตรี...ฯฯ
----------------------------------
"ปางสีฝุ่น"
"ก็เพียงแค่..ปรารถนา..จัก.ปรารมณ์"
24 มีนาคม 2553 20:07 น.
ปาง_สีฝุ่น
๐...ข้างกองไฟ...๐
๐...ในคืนหนาว
เกร็ดแก้วเกรอะกราวพราวใบไม้.
ปลิวเปลเห่ห่มคือลมไพร
ประหนึ่งว่าจะไกวขึ้นไหวจันทร์
๐...นับดาวว่าง
สักดวงส่องทางไว้สร้างฝัน
หมายรูปเรือนรักจักนิรันดร์
เพื่ออำพันพริ้มงามยามนิทรา
๐...ข้างกองไฟ....
ยังความอ่อนไหวที่ไหวกว่า
แห่งคืนมืดดำธรรมดา
ปลุกเปลวปรารถนาปะทุ.แรง
๐...รินหยดน้ำหยาดจากจอกน้อย...
ชำระรอยร้าวแรก.แตก.ระแหง
ชำระล้างแผลพร้อยรอยทิ่มแทง
ชำระล้าง.ทุกแหล่ง..แห่งหทัย
๐...ใคร่ถามลม...ถามฟ้า..
อีกนาน.หรือ.?.กว่า.หมุนฟ้าใหม่
เพราะหนาวเจ็บเหน็บเจือถึงเนื้อใจ
จึ่งรุมสุมไฟไล้แสงเงา
๐...ท่ามพวยควัน..คละคุ..ระอุอุ่น
กระหยับกรุ่นกาน้ำอันคร่ำ,เก่า
ฝากฟืนยืนไฟให้ถึงเช้า
ข้าฯจะฟังความเหงาเล่านิทาน..ฯฯ
( โหมไฟให้รุ่งถึงพรุ่งเช้า )
( เหลียวมองรูปเจ้าเล่านิทาน..ฯฯ )
------------------------------------------------
"ปางสีฝุ่น"
หรือเพราะข้าฯเพ้อพร่ำรำพัน..พ้อ..